The Domino Effect หลักบันไดแห่งความสำเร็จที่ใครปีนขึ้นไปได้ - The Macho
 
Roral Enfield - Hunter 350
728x150 - Nissan Almera
728x150 - Hunter4
The Domino Effect หลักบันไดแห่งความสำเร็จที่ใครปีนขึ้นไปได้

บางคนมีฝันอยากเริ่มต้นทำธุรกิจเป็นของตัวเอง แม้ว่าจะมีทุนรอนไม่มาก และรู้ว่ามีความเสี่ยงแต่ก็อยากลอง เพราะไม่มีงานใดในโลกนี้ที่ทำแล้วมีความสุขเท่ากับการได้ทำงานในกิจการของตัวเองให้เติบโตรุ่งเรืองสืบไป

อย่างไรก็ตาม การเริ่มต้นนั้นเป็นสิ่งที่ยากที่สุด หลายคนจับต้นชนปลายไม่รู้จะเริ่มจากอะไรก่อนดี เพราะมีโครงการที่อยากทำเยอะไปหมด บางคนอยากเริ่มต้นทำธุรกิจแม้ไม่มีเงินทุนซักบาท หวังว่าจะมา “จับเสือมือเปล่า”

แต่ไม่ว่าคุณจะมีต้นทุนอย่างไร จะมีทุนทรัพย์มากน้อยเพียงใดไม่สำคัญ ขอแค่มีใจมุ่งมั่น และมั่นใจตัวเอง ทุกคนเริ่มต้นทำธุรกิจได้อย่างแน่นอน หากคุณรู้จักการนำทฤษฎี The Domino Effect มาใช้ให้เกิดประโยชน์ คุณจะสามารถจับเสือมือเปล่าได้ดังใจหวัง แม้อาจจะต้องใช้เวลานานหน่อย แล้วทฤษฎีโดมิโน่นี้จะสามารถนำมาปรับใช้ในการเริ่มธุรกิจได้อย่างไร ใครอยากรู้ The Macho จะเล่าดังนี้ 

The Domino Effect คืออะไร?

หลายคนอาจเคยได้ยินผ่านหูมาบ้างเกี่ยวกับ Butterfly Effect หรือทฤษฎี “ผีเสื้อกระพือปีก”  เพราะเรื่องราวเกี่ยวกับทฤษฎีนี้เคยถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์หลายเรื่องแล้ว ซึ่งมันก็คือทฤษฎีเดียวกันกับ The Domino Effect นั่นแหละ เพียงเท่าเราเรียกชื่อใหม่ว่าทฤษฎี “โดมิโน่” เพื่อให้ผู้ศึกษาเข้าใจและเห็นภาพได้ง่ายขึ้น

ทฤษฎีนี้อธิบายได้ด้วยคำพูดสั้นว่า “เด็ดดอกไม้ สะเทือนถึงดวงดาว” นั่นเอง หมายความว่าทุกคนสามารถประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ได้จากการกระทำเล็กๆ ที่ถูกต้องเหมาะสมตามจังหวะจะโคน เหมือนการการเรียงโดมินโน่ที่เราสามารถเริ่มเรียงจากโดมิโน่ตัวจิ๋ว ค่อยๆ ไล่เพิ่มขนาดไปเรื่อย จนโดมิโน่ตัวสุดท้ายอาจใหญ่เท่าตึกระฟ้าที่สูงที่สุดในโลก ซึ่งในที่สุดมันก็ล้มลงได้ ดังคลิปวิดีโอด้านล่าง

The Domino Effect จะนำมาปรับใช้กับการเริ่มต้นธุรกิจได้อย่างไร?

เมื่อได้ทราบความหมายของทฤษฎีโดมิโน่ไปแล้ว สิ่งที่หลายคนคงอยากรู้ตามมาก็คือเราจะสามารถนำทฤษฎีนี้ไปปรับใช้กับการเริ่มต้นธุรกิจได้อย่างไร เราจึงจะตอบให้ว่าทฤษฎีนี้จะใช้เป็นเครื่องประกอบการตัดสินใจว่าคุณจะเริ่มต้นทำธุรกิจเล็กๆ ของตัวเองจากสิ่งใด  

หลายคนเวลาจะเริ่มต้นทำธุรกิจก็สักแต่อยากเริ่ม แต่ควรคิดไตร่ตรองให้รอบคอบเสียก่อนในหลายปัจจัย หลายคนพอเห็นคนอื่นทำโน่นทำนี้แล้วรวย กิจการเติบโตไปได้สวยก็อยากทำตามบ้าง การตัดสินใจทำตามคนอื่นโดยไม่ศึกษาธุรกิจให้รอบคอบนั้นถือเป็นความเสี่ยงอย่างใหญ่หลวง และโอกาสเจ๊งก็มีสูง

แนวทางการเริ่มต้นทำธุรกิจตามทฤษฎีโดมิโนนั้นให้ยึดหลักที่ว่า “ใช้ทุนให้น้อยที่สุด ทำในสิ่งที่ตัวเองถนัดที่สุด และสิ่งที่คุณจะทำคุณต้องรักมันอย่างถึงที่สุด” แล้วมุ่งมั่นทำสิ่งนั้นสิ่งเดียว จนมีรายได้ เก็บหอมรอบริบจนเป็นทุนก้อนโตขึ้น แล้วค่อยขยายกิจการออกไป เป็นการค่อยๆ เติบโตอย่างมั่นคง เหมือนการเรียงโดมิโน่ที่ค่อยๆ เพิ่มขนาดขึ้น

ยกตัวอย่างเช่น คุณเรียนเพิ่งจบวิศวกรรมมา คุณมีฝันว่าในอนาคตอีก 10 ข้างหน้าอยากจะเป็นเจ้าของบริษัทรับเหมาก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่ ในขณะที่คุณไม่มีทุนสำหรับเริ่มต้นกิจการนี้เลย คุณก็สามารถเริ่มต้นจากเล็กๆ โดยลองสมัครเข้าทำงานบริษัทรับเหมาเล็กๆ 1-2 แห่งในช่วง 4 ปีแรกเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ และเก็บออมเงินไว้เป็นทุนเริ่มกิจการ เมื่อเงินทุนมากพอ คุณสามารถออกมาเปิดบริษัทเล็กๆ ทำงานคนเดียว โดยเริ่มจากงานเล็กๆ ก่อน เช่น รับเขียนแบบ ออกแบบ ดีไซน์ ตรวจรับงานก่อสร้าง เป็นต้น เมื่อทุนเพิ่มขึ้น ลูกค้ามากขึ้นก็สามารถจ้างคน ขยายกิจการไปเรื่อยๆ อย่างมั่นคง จนกระทั่งเมื่อครบ 10 ปี คุณอาจจะสามารถตั้งตัวเป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างขนาดใหญ่ได้ดังฝัน หรือสามารถขยายกิจการไปจับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มีโครงการบ้านจัดสรรแห่งแรกเป็นของตัวเองก็ได้

จะเห็นได้ว่าการเริ่มต้นจากจุดเล็กๆ มั่นคง ค่อยเป็นค่อยไป ไม่ใจร้อนนั้น ทำให้คนได้เป็นมหาเศรษฐีมาแล้วมากมาย มหาเศรษฐีระดับโลกไม่ว่าจะเป็น เจฟ เบโซส, อิลอน มัสค์, มาร์ค ซักเกอร์เบิร์ก, สตีฟ จ็อบส์, บิล เกตส์ และอีกหลายๆ คน ล้วนประสบความสำเร็จในธุรกิจได้จากการใช้ทฤษฎีโดมิโน่ทั้งนั้น

ตัวอย่างกรณีศึกษาความสำเร็จจากทฤษฏีโดมิโน จากกิจการที่เรียบง่ายไม่ซับซ้อน

อ่านมาถึงตรงหลายคนอาจท้วงติงว่า “ใช่ซี้ คุณเรียนมาเยอะก็พูดได้ ผมเรียนมาน้อย ผมไม่ได้จบสูง ไม่เรียนสายอาชีพเฉพาะทางมา ไม่ได้เป็น หมอ ทนายความ วิศวะ ผมจบแค่ป. 4” แบบนี้ผมก็หมดโอกาสทำธุรกิจสิ? อย่าเพิ่งหมดหวังไปครับ เพราะเรามีกรณีศึกษาที่จะเป็นกำลังใจให้คุณ

กรณีศึกษาที่เราจะยกเป็นตัวอย่างในครั้งนี้นั้นเป็นตัวอย่างที่สุดคลาสสิก ซึ่งก็คือกิจการ KFC ที่เริ่มต้นโดยลุงแก่ๆ ในวัยเกษียณคนหนึ่งอย่าง ผู้พันแซนเดอร์ ที่เป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก แกเริ่มต้นทำธุรกิจร้านอาหารที่ขาย “ไก่ทอด” เพียงอย่างเดียว เพราะลุงแกรักการทอดไก่ ทอดไปทอดมาก็ได้รับชื่อเสียงว่า KFC ทอดไก่ได้อร่อยที่สุดในอเมริกา จนสามารถขยายกิจการใหญ่โตไปทั่วโลกจวบจนปัจจุบัน และในตอนนี้เราก็คงเห็นแล้วว่า KFC ยืนยง และมีไก่ทอดหลายสูตร ครอบคลุมถูกปากคนทุกภูมิภาคทั่วโลก เป็นที่นิยมไม่เสื่อมคลาย

และนี่ก็คือทฤษฎีโดมิโน่ที่เราอยากแนะนำให้ชาว The Macho ได้รู้จักในครั้งนี้ ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับทุกคนที่มีฝันอยากมีกิจการเป็นของตัวเอง เพราะคนเรามีเวลา 24 ชั่วโมงเท่ากันในแต่ละวัน แต่หลายคนกลับสับสนจับต้นชนปลายไม่ถูกว่าจะเอาดีจากการทำอะไรดี เมื่อได้รู้จักทฤษฎีโดมิโนแล้ว ก็ขอให้คุณกลับไปนั่งทบทวนตัวเองใหม่ เลือกมาซักอย่างที่คิดว่าตนรักที่สุด ถนัดที่สุด ขึ้นมาเพื่อเริ่มต้นทำกิจการ ทำมันอย่างใจเย็นด้วยใจรัก ค่อยๆ เติบโตอย่างมั่นคง รับรองว่าสำเร็จทุกคน  

Sujate Wanchat

What one man calls God, another calls the laws of physics.

วิศวกร นักท่องเที่ยว บล็อกเกอร์ นักเขียนบทความ ชอบติดตามโลกเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าล้ำสมัย เรื่องราวการท่องเที่ยวผจญภัย มนุษย์ต่างดาว และสาวๆ เซ็กซี่

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save