ทุกวันนี้ “งานทั่วๆ ไป” ก็ว่าหายากแล้ว จนหลายคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าใครยังได้มีงานทำอยู่ก็ถือว่าโชคดีเต็มที่แล้วล่ะ ซึ่งนั่นก็ทำให้ “งานในฝัน” สำหรับใครหลายๆ คนคงเป็นสิ่งที่ยากเกินจะไขว่คว้า เพราะงานในฝันก็คืองานที่เรารัก  และสามารถสร้างรายได้เลี้ยงชีพเราได้อย่างพอเพียงไม่ขัดสนด้วย

แม้ว่าตอนนี้งานในฝันจะหายาก แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีทางหาได้ เพราะตราบใดที่คนเรายังมีความหวัง และความพยายามก็ไม่มีอะไรอยู่ไกลเกินเอื้อม แล้วเราจะสามารถหางานในฝันได้อย่างไร ใครอยากรู้ วันนี้เรามี 5 เคล็ดลับดีๆ จะมาบอก ตามมาดูกันเลย

กำหนดภาพในใจให้ชัดเจน ว่าเราอยากจะทำอะไรกันแน่

คุณคงไม่มีงานในฝันแน่ๆ หากยังไม่รู้ว่าตัวเองอยากทำอะไร เพราะทุกความชื่นชอบสามารถสร้างเป็นงานที่ก่อให้เกิดรายได้ได้ ไม่ว่าจะเป็น นักเขียน เชฟทำอาหาร ทำเกษตรกรรม นักร้อง นักเต้น นักกีฬา วิศวกร โปรแกรมเมอร์ และหมอ เป็นต้น

หากคุณทราบมีภาพชัดเจนแล้วว่าคุณอยากทำอะไร คุณจะสามารถรู้ได้ล่วงหน้าเลยว่าตัวคุณจะต้องพัฒนาในจุดไหนบ้างเพื่อให้ไปถึงจุดที่ได้งานในฝัน ยกตัวอย่างเช่น คุณฝันว่าอยากเป็นสุดยอดนักเขียน คุณก็จะต้องเริ่มใส่ใจการอ่าน ศึกษางานเขียนของนักเขียนขายดีให้มากที่สุด จากนั้นก็เริ่มลงเมือฝึกการเขียน แล้วลองให้คนอื่นได้อ่าน สั่งสมประสบการณ์ไปเรื่อยๆ จนชำนาญ สามารถสร้างสรรค์งานเขียนของตัวเองจนกลายเป็นรายได้เลี้ยงชีพได้

งานที่ฝัน ความสามารถจะต้องไปถึง

แน่นอนว่าทุกคนย่อมยากได้งานดีๆ มีเกียรติมีศักดิศรี เป็นที่นับหน้าถือตา และมีรายได้มากพอตามความต้องการของแต่ละคน เช่น หลายคนอยากเป็นหมอ เป็นวิศวกร เป็นโปรแกรมเมอร์ แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะเป็นได้ เพราะงานวิชาชีพหลายงานเป็นงานเฉพาะทางสำหรับคนที่มีความรู้ความสามารถเท่านั้นที่จะทำอาชีพนั้นได้

ยกตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการอยากเป็นวิศวกร สร้างตึกระฟ้า คุณก็จำเป็นจะต้องเรียนให้จบปริญญาตรี วิศวกรรมโยธาเป็นอย่างน้อย หากทำไม่ได้ ก็หมายความว่าคุณไม่มีความสามารถมากพอที่จะทำได้ งานในฝันก็กลายเป็นฝันที่ไกลเกินตัว คุณก็จำเป็นจะต้องหางานในฝันใหม่ ซึ่งเป็นงานที่คุณมีความสามารถที่จะทำมันได้นั่นเอง

หาบุคคลต้นแบบเป็นไอดอล

ทุกงาน ทุกอาชีพล้วนแล้วแต่มีต้นแบบเสมอ ไม่ว่าจะเป็น ฟรีแลนด์ งานประจำ หรืองานที่ต้องอาศัยทักษะขั้นสูงต่างๆ ซึ่งการมีบุคคลต้นแบบที่ประสบความสำเร็จ จะช่วยให้คุณสามารถศึกษาวิธีคิดของเขาเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับตัวคุณเองได้

เช่นคุณอยากเป็นนักธุรกิจด้านเทคโนโลยีที่สำเร็จ คุณก็อาจยกให้คนอย่าง บิล เกตส์, อิลอน มัสค์ หรือสตีฟ จ็อบส์ เป็นไอดอล โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องไปเลียนแบบวิธีการประสบความสำเร็จของพวกเขาทุกอย่าง แต่คุณสามารถนำวิธีคิดของพวกเขามาปรับใช้ในแนวทางที่คุณจะได้ประสบความสำเร็จกับงานที่รักเช่นเดียวกับพวกเขา

เรียนรู้ทักษะการขาย

เราสามารถพูดได้เต็มปากเลยว่า “ทักษะการขาย” มีความสำคัญกับทุกงานทุกอาชีพ โดยเฉพาะคนที่กำลังไล่ล่างานในฝัน อย่างน้อยคุณจะต้องรู้จักการขายตัวเองเพื่อให้เป็นที่สนใจของแหล่งงานต่างๆ โดยเฉพาะในช่วงเวลาการสัมภาษณ์งาน เป็นเวลาสุดพิเศษที่คุณสามารถใช้ขายตัวเองได้อย่างเต็มที่ ใครที่ทำได้ดีเป็นที่น่าประทับใจที่สุดในการสัมภาษณ์งานแต่ละครั้ง ย่อมมีโอกาสสูงที่จะได้งานในฝัน

ลงมือทำให้มากที่สุด เร็วที่สุด และมีคุณภาพที่สุด

การที่คุณจะประสบความสำเร็จกับงานในฝันได้นั้น ปัจจัยสำคัญที่สุดอยู่ที่คุณได้จริงจังกับมันมากแค่ไหน ใครที่จริงจังมากกว่า ทุ่มเทมากกว่า ย่อมมีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จมากกว่า

เมื่อขึ้นชื่อว่างานในฝันแล้ว คุณย่อมมีความรัก และสามารถทุ่มเทกับมันได้อย่างไม่รู้จักเบื่อ สิ่งสำคัญจึงอยู่ที่ว่าคุณจะอึดแค่ไหนที่จะทำมันออกมาให้มากที่สุด เร็วที่สุด และมีคุณภาพที่สุด

ยกตัวอย่างเช่น คุณอยากเป็นนักเขียนนิยายที่ประสบความสำเร็จ เพราะมันเป็นงานที่คุณรัก คุณก็จำเป็นจะต้องรีบลงมือสร้างงานเขียนออกมาเสียตั้งแต่วันนี้ เพื่อผลิตนิยายออกมาให้ได้หลายเรื่องจนชื่อคุณติดตลาดกลายเป็นที่รู้จัก สร้างความคุ้นเคยกับนามปากกาของคุณให้กับผู้อ่าน เพิ่มช่องทางการเข้าถึงผลงานของคุณได้หลากหลาย ทั้งผ่านสำนักพิมพ์ และเผยแพร่ทาง E-book รวมถึงสื่อโซเชียลต่างๆ ยิ่งคุณทำได้มากเท่าไหร่ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จก็ย่อมมากขึ้นเท่านั้น

และนี่ก็คือ 5 เคล็ดลับการหางานในฝันที่เราอยากแนะนำให้เพื่อนๆ ได้รู้จักในครั้งนี้ ก็หวังว่าจะเป็นที่ชื่นชอบถูกใจสำหรับคนที่กำลังมองหางานทุกคน และหวังว่าคำแนะนำดังกล่าวนี้จะเป็นประโยชน์แก่ทุกคนไม่มากก็น้อย เมื่อได้ทราบแล้วก็อย่าลืมนำไปต่อยอดใช้กัน