ทุกคนต้องทำงาน เพราะไม่ทำงานก็ไม่มีรายได้เลี้ยงตัวเอง เลี้ยงครอบครัว ทุกวันนี้ใครที่ยังมีงานทำอยู่ก็ถือว่าดีแล้ว ดังนั้นเวลาทำงานก็ควรทุ่มเทแรงกายแรงใจให้เต็มที่ไปกับมัน
ส่วนเวลาหลังเลิกงานก็ควรจะเป็นเวลาที่เราจะต้องหาสิ่งดีๆ ให้ตัวเองบ้าง เช่น พักผ่อนให้เต็มที่ และทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์อื่นๆ
แล้วในส่วนที่เป็นกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อตัวเองอื่นๆ ที่เราควรทำนอกเวลางานนั้นมีอะไรบ้าง นอกจากนอนกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่ที่บ้าน ดูละคร ดูซีรีส์แล้ว วันนี้เราได้รวบรวมไว้ให้ 7 อย่างแล้ว ใครอยากรู้ ตามมาดูกันเลย
ออกกำลังกาย
ใครที่ห่างหายจากการออกกำลังกายไปนาน ควรมารื้อฟื้นกิจกรรมนี้กันใหม่ หากจัดให้เป็นกิจวัตรประจำวันได้ยิ่งดี เพราะการออกกำลังกายนั้นสำคัญ เพราะจะช่วยกระชับกล้ามเนื้อทุกสัดส่วนให้ฟิตแอนด์เฟิร์ม นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของอวัยวะภายในร่างกายทุกระบบสำคัญๆ เช่น ระบบไหลเวียนโลหิต สมดุลฮอร์โมน และระบบภูมิคุ้มกัน เป็นต้น คนที่ออกกำลังกายเป็นประจำจึงมีร่างกายแข็งแรง ห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บ
พบปะสังสรรค์กับผู้คน
เราสามารถนัดพูดคุยพบปะสังสรรค์กับผู้คนทั้งที่เรารู้จัก และไม่รู้จักได้หลังเลิกงาน ถือเป็นกิจกรรมที่ดีที่ช่วยให้เราได้สร้างคอนเน็คชั่น ฝึกทักษะการสนทนาพูดคุยแลกเปลี่ยนเพื่อได้ไอเดีย และความรู้ใหม่ๆ และการพูดคุยที่ดีควรจะทำในบรรยากาศสบายๆ เป็นกันเอง เช่น การนัดแฮงค์เอ้าท์กับเพื่อนๆ ร่วมงาน นัดดื่มกินสังสรรค์กับลูกค้า หรือว่าที่พันธมิตรทางธุรกิจใหม่ๆ เป็นต้น
มองหาโอกาสใหม่
ทุกวันนี้มีใครมีรายได้ทางเดียวย่อมมีความเสี่ยงตามมาเสมอ การใช้เวลาว่างมองหาโอกาสทางธุรกิจ โอกาสการสร้างรายได้ และแรงบันดาลใจใหม่ๆ เป็นสิ่งที่สมควรทำเสมอ โดยที่โอกาสใหม่ๆ ที่เรากำลังมองหาควรมาจากสิ่งที่เรารักมันอยู่แล้ว เช่น ใครที่รักงานเขียน ก็ลองศึกษาดูสิว่าจะมีโอกาสร้างรายได้จากงานเขียนได้อย่างไร ใครรักการถ่ายภาพ วาดรูปก็ไปหาโอกาสจากงานนั้น ส่วนใครชอบลงทุนก็น่าจะลองศึกษาการลงทุนในสินทรัพย์ที่ตนสนใจ เป็นต้น
ท่องเที่ยว
เคยได้ยินไหมว่า “วันใดที่รู้สึกหมดไฟ ให้ออกไปเที่ยว” เพราะการท่องเที่ยวคือการชาร์จพลังให้กับชีวิต ในวันที่เราเครียดกับงานจนรู้สึกไม่มีอารมณ์อยากทำอะไร แม้กระทั่งงานที่เราทำอยู่เป็นประจำทุกวันนั้นคืออาการของคนหมดไฟ ซึ่งเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นความเบื่อหน่ายจากงาน ความเครียดสะสม เบื่อหน่ายลูกน้อง เจ้านาย และเพื่อนร่วมงาน เป็นต้น การที่คุณได้ออกไปท่องเที่ยวจะช่วยให้คุณหลีกหนีจากสิ่งที่ทำให้คุณหมดไฟเหล่านี้ และด้วยสภาพแวดล้อมที่เป็นธรรมชาติ จะช่วยให้ไม่ต้องคิดถึงสิ่งที่กังวลอีกต่อไป เมื่อจิตใจสงบลง ชีวิตชีวาในตัวคุณก็จะกลับมา จนพร้อมที่จะกลับไปสู้กับงานอีกครั้ง
อ่านหนังสือ
แม้แต่คนที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในชีวิตจนร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐียังอ่านหนังสือเป็นประจำทุกวัน และพวกเขาก็ยังแนะนำให้ทุกคนรักการอ่านด้วย การอ่านนอกจากจะเป็นการฝึกสมาธิ ฝึกฝนการเรียนรู้แล้ว มันยังเป็นกิจกรรมที่ทำให้คุณเพลิดเพลิน ได้ความรู้และไอเดียใหม่ๆ ในเวลาเดียวกัน นอกจากนี้พวกเขายังแนะนำให้คุณอ่านหนังสือเป็นเล่ม มากกว่าที่จะอ่านอีบุ๊คด้วย เพราะมันจะช่วยให้คุณได้มีเวลาตัดขาดจากอินเตอร์เน็ตบ้างในแต่ละวัน
ฝึกภาษา
ปัจจุบันภาษาต่างประเทศนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งยวดต่อความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน โดยเฉพาะภาษาอังกฤษ หลายคนคิดว่ากิจกรรมนี้จะเพิ่มความเครียด ซึ่งมันจะไม่เป็นเช่นนั้นอีกต่อไป ด้วยเทคนิคการเรียนภาษาต่างประเทศแบบใหม่ที่แตกต่างจากที่เราเคยเรียนสมัยเป็นนักเรียน จะช่วยให้เราเรียนรู้ภาษาต่างประเทศได้สนุกสนานมากขึ้น เพราะเราเรียนไปเพื่อใช้งาน ไม่ได้เรียนไปสอบเหมือนสมัยก่อน เราจึงไม่จำเป็นต้องซีเรียสอะไรมากมาย ถูกบ้าง ผิดบ้าง หัดใช้งานบ่อยๆ มันก็จะคล่องเองล่ะน่ะ
ให้เวลากับครอบครัว
ปิดท้ายสำหรับคนที่มีครอบครัวแล้ว ข้อนี้สำคัญมากๆ เมื่อมีเวลาว่างคุณก็ควรแบ่งปันความสุขร่วมกับครอบครัวบ้าง เพื่อชีวิตที่สมดุลระหว่างการทำงาน และครอบครัว ซึ่งย่อมจะก่อให้เกิดความสุขอย่างยั่งยืน ซึ่งกิจกรรมที่คุณสามารถทำร่วมกับครอบครัวได้นั้นมีมากมาย เลือกทำกันได้ตามใจชอบได้เลย แค่ทุกคนได้อยู่พร้อมหน้ากัน พ่อ แม่ ลูก เท่านี้ครอบครัวก็อบอุ่นแฮปปี้สุดๆ แล้วล่ะ
และนี่ก็คือ 7 กิจกรรมนอกเวลางานที่มีประโยชน์ สร้างความสมดุล เพิ่มพูนความสุข ความก้าวหน้าแก่ชีวิตที่เราอยากแนะนำให้เพื่อนๆ ได้รู้จักในครั้งนี้ ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับทุกคนในวัยทำงาน เมื่อได้ทราบแล้วชอบกิจกรรมไหนก็อย่าลืมนำไปปรับใช้กัน