หลายคนคิดว่าเรื่องการเงินเป็นเรื่องที่มีความสำคัญแต่เฉพาะกับบริษัท องค์กร และนิติบุคคล จนละเลยที่จะใส่ใจการเงินส่วนตัวเพราะคิดว่าเงินหมดก็สามารถหาใหม่ได้เรื่อยๆ
ซึ่งการคิดเช่นนั้นไม่ถูกต้อง ยิ่งในสภาวะปัจจุบันที่เศรษฐกิจฝืดเคือง การเมืองไม่ค่อยแน่นอนด้วยแล้ว คนที่มองข้ามเรื่องการเงินถือว่ากำลังใช้ชีวิตอย่างประมาท
มีผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินไม่น้อยได้ให้คำแนะนำเรื่องการเงินอย่างหนึ่งไว้ค่อนข้างหน้าสนใจ ซึ่งคำแนะนำดังกล่าวก็คือให้เรามองตัวเราเองเป็นบริษัท แล้วใช้ SWOT มาวิเคราะห์สถานะทางการเงินของตัวเอง เพื่อกำจัดจุดอ่อนและเพิ่มรายได้
เพราะการเงินคือสิ่งสำคัญ เปรียบเส้นเป็นกระแสโลหิตของการดำเนินชีวิต การเงินคล่อง ชีวิตก็สะดวกสบาย มั่นคงปลอดภัย แต่หากการเงินฝืดเคืองเมื่อไหร่ ชีวิตคุณก็ต้องพบกับความลำบากแน่ ดังนั้นคนเราทุกคนไม่ว่าจะประกอบอาชีพอะไรจึงควรรู้จักวางแผนการเงินอย่างรัดกุม วางแผนให้ดีว่าเราอายุเท่านี้ควรมีเงินเก็บในบัญชีเท่าไหร่ จะต้องลงทุนอย่างไร และมีเงินไว้ใช้ในยามฉุกเฉินมากแค่ไหน และการจะประสบความสำเร็จในการวางแผนการเงินได้ SWOT คือกลยุทธ์ที่ดี ดังนั้นวันนี้เรามาเรียนรู้กันเพื่อนำเอาไปปรับใช้กัน
S: Strengths
เรามาเริ่มกันที่อักษรตัวแรก “S” แทนคำว่า Strengths หมายถึงความแข็งแกร่งด้านการเงิน เริ่มต้นต้นจากการมองเขามาในตัวเราว่าอาชีพ หน้าที่การงาน กิจการที่เราทำอยู่มีความแข็งแกร่ง สามารถสร้างรายได้มากน้อยเพียงใด มีความมั่นคงปลอดภัยแค่ไหน
สำหรับคนที่มีความแข็งแกร่งด้านการเงินนั้น ส่วนมากพวกเขาจะมีที่มาของแหล่งรายได้จากหลายแหล่ง ไม่ทำงานเดียว หากเป็นคนทำงานประจำก็จะมีเก็บออมเงินเพื่อลงทุน รวมถึงมีการหารายได้เสริมเพิ่มเป็นอีกช่องทางจากแหล่งรายได้หลัก และจะยิ่งเพิ่มความแข็งแกร่งมากไปกว่านี้ หากมีการทำบัญชีรายรับรายจ่ายส่วนตัวอย่างสม่ำเสมอจนเป็นกิจวัตรประจำวัน เพราะเราจะสามารถควบคุมการใช้จ่าย การออม และการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
W: Weaknesses
ต่อกันที่ตัวอักษร “W” แทนคำว่า Weakness หมายถึงจุดอ่อนด้านการเงิน ซึ่งเราอยากให้คุณลองสำรวจตัวเองว่ามีจุดอ่อนด้านการเงินอย่างไร หลายคนบ่นว่าเก็บเงินไม่อยู่ อยากมีเงินทุนสักก้อนเก็บออมไว้เพื่อการลงทุน แต่จนแล้วจนรอดก็เดือนชนเดือนทุกที บางคนยิ่งหนักกว่านั้นคือ ชักหน้าไม่ถึงหลัง จนต้องกู้ยืมเงินมาเพื่อประทังชีวิต
การเริ่มสำรวจตัวเองในวันนี้ ดีกว่าทำให้บัญหาลุกลามบานปลาย บางคนปัญหาด้านการเงินยังไม่มาก สามารถแก้ไขได้ง่าย แค่ปรับเปลี่ยนวินัย เลิกใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายกับสิ่งที่ไม่จำเป็น ส่วนคนที่ปัญหาเริ่มยากแล้วก็คือคนที่เริ่มเป็นหนี้เป็นสิน การที่ใครคนหนึ่งถึงขั้นต้องกู้ยืมเงินมาเพื่อประทังชีวิตนั้นถือเป็นปัญหาใหญ่หลวงแล้ว คุณจำเป็นต้องได้รับการปรึกษาแก้ไขปัญหา กำจัดจุดอ่อนในเรื่องนี้จาก มันนี่โค้ช
O: Opportunities
ตัว “O” แทนคำว่า Opportunities ซึ่งหมายถึงโอกาส ซึ่งเมื่อเราได้ผ่านบันไดขั้นแรกของความมั่งคั่ง นั่นก็คือการเก็บออมเงินได้สำเร็จแล้ว ขั้นต่อไปก็คือมองหาโอกาสการลงทุนให้เงินออมนั้นงอกเงย แตกดอกออกผลออกไป ซึ่งโอกาสการลงทุนนั้นมีมากมาย ให้คุณเลือกได้แบบที่คุณชอบ และรักมันมากที่สุด จนคุณสามารถคลุกคลีอยู่กับมันได้อย่างมีความสุขและรู้จริง เกี่ยวกับการลงทุนนั้น อย่างไรก็ตามทุกการลงทุนล้วนมีความเสี่ยง นักลงทุนควรลงทุนด้วยความเข้าใจ และรอบคอบอย่างที่สุด
T: Threats
เรามาปิดท้ายกันที่ตัว “T” ที่เป็นตัวแทนของคำว่า Threats หมายถึง อุปสรรคด้านการเงิน เพราะเราเชื่อว่าแต่ละคนมีเป้าหมายทางด้านการเงินที่แตกต่างกัน ดังนั้นแต่ละเป้าหมายย่อมมีอุปสรรคที่แตกต่างกันด้วย
ยิ่งเป้าหมายมีความท้าทายเท่าไหร่ ยิ่งต้องมีอาศัยทักษะความรู้ขั้นสูง ต้องมีความระมัดระวังอย่างยิ่งยวด เพราะอุปสรรคยิ่งมาก ความเสี่ยงก็มากเป็นเงาตามตัว ส่วนเป้าหมายที่มีความท้าทายน้อย ความเสี่ยงและอุปสรรคก็จะน้อยลง แต่หากต้องการประสบความสำเร็จมากๆ ก็จำเป็นต้องเอาแรงกายเข้าแลก เป็นต้น
และนี่ก็คือการนำหลัก SWOT มาวิเคราะห์จุดอ่อนจุดแข็งของการเงินส่วนตัวแต่ละคนที่เราอยากแนะนำให้เพื่อนๆ ได้รู้จักในครั้งนี้ ซึ่งการนำ SWOT มาใช้นี้ ผู้ให้คำปรึกษาที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านการเงินทั้งหลายมองว่าเป็นวิธีการที่แสนเรียบง่าย มีคุณค่า เปี่ยมประสิทธิภาพ และใช้ได้ผลจริง เพียงแต่ต้องนำไปจับร่วมกับหลักอื่นๆ ซึ่งเป็นเรื่องเชิงลึกในรายละเอียด เพราะ SWOT เปรียบเสมือนเครื่องมือที่ทำให้คุณได้ทราบโครงสร้างเสาหลักการเงินในชีวิตส่วนตัวของคุณในเบื้องต้นเท่านั้น