การก้าวเข้าสู่โลกที่จะทำให้การศึกษาแบบเดิมดูล้าสมัย คนในวัยทำงานจำเป็นต้องเรียนรู้มากกว่าคนในวัยอื่น เพราะการใช้ชีวิตมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วอยู่ตลอดเวลา

และแน่นอนที่สุด เด็กรุ่นใหม่มีอาวุธที่พร้อมกว่าหากวัดกันปอนด์ต่อปอนด์ตอนอายุเท่าๆ กัน เพราะฉะนั้นการก้าวไปเป็นผู้ใหญ่ที่น่าเคารพ มาพร้อมกับความเก่งกาจเฉพาะด้าน และที่จะเป็นตัวตัดสินความน่ายำเกรง จะอยู่ที่ความฉลาดทางด้านอารมณ์

ความฉลาดทางด้านอารมณ์ หรือ EQ(Emotional Quotient) จะสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับเรา เมื่อเรารู้จักอารมณ์ของตัวเองและสามารถควบคุมมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ชีวิตจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ดูมีพลังอำนาจมากขึ้นเพราะคุณจะสามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ และสามารถรับรู้สิ่งที่คนรอบข้างต้องการได้อีกด้วย แต่สิ่งเหล่านี้ต้องมีการฝึกฝนอย่างดีจากตัวของเราเองเท่านั้น

แล้วจะเริ่มฝึกอย่างไรดี วันนี้มีเคล็ดลับไม่ยาก แต่ต้องใช้การสั่งสมประสบการณ์ด้วยตัวเอง

ฝึกสติ

การเริ่มต้องคำถามให้ตัวเองดูจะเป็นตัวเลือกแรกที่ดี เมื่อเราถามตัวเองว่ากำลังทำอะไรอยู่ ตอนนี้รู้สึกอย่างไร โกรธ เศร้า สนุก เหงาหรือทุกข์ เป็นพื้นฐานง่ายๆของคำตอบ การอธิบายความรู้สึกของตัวเองให้ตัวเราเองฟัง จะนำมาซึ่งการแก้ปัญหาต่างๆ ทั้งการควบคุมอารมณ์และเข้าใจถึงสิ่งที่ต้องแก้ปัญหาในสถานกาณ์ต่างๆ การเข้าใจถึงอารมณ์ของตัวเองจึงเป็นการฝึกสติที่สำคัญอันดับแรก

แก้ปัญหา

ในฐานะที่เราเกิดมาเป็นมนุษย์ การแก้ปัญหาคือสิ่งที่เราแทบจะต้องใช้ทุกวัน แม้การวางแผนจะดีขนาดไหนปัญหายิบย่อย ย่อมตามมาได้เสมอ การแก้ปัญหาจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพียงแต่การแก้ปัญหาโดยใช้เหตุผลเป็นอะไรที่รอบคอบมากกว่าการที่ใช้อารมณ์แก้ปัญหา เมื่อเราเข้าใจอารมณ์ของตัวเราเอง การแก้ปัญหาจะดูรอบคอบและมองเห็นหนทางได้มากขึ้น ยิ่งควบคุมอารมณ์ได้มากเท่าไหร่ การแก้ไขเรื่องราวต่างๆจะเปิดกว้างขึ้นจนคุณประหลาดใจเลยทีเดียว เพียงแค่ควบคุมอารมณ์ให้ได้คุณจะก้าวหน้ากว่าคนอื่นก้าวนึงเสมอ

สร้างแรงจูงใจให้ตัวเองได้ มีวินัย

การสร้างวินัยโดยที่ไม่ต้องถูกไม้เรียวตีหรือต้องไปเป็นทหารเพื่ออยู่ในกฏระเบียบแบบง่ายที่สุด มาจากการเข้าใจอารมณ์ต่างๆ ความขี้เกียจมักเป็นเรื่องราวธรรมดาที่ไม่ว่าใครก็มีกัน แต่หากรู้จักจัดการสร้างแรงจูงใจให้กับตัวเองด้วยการจัดระเบียบชีวิต นั่นเท่ากับการจัดการกับอารมณ์ของตัวเอง และเมื่อทำตามระเบียบที่ตัวเองสร้างขึ้นมาซักระยะ ร่างกายจะปรับสภาพตามสิ่งที่เราพยายามอยากให้เป็น จนในที่สุดการควบคุมอารมณ์ขี้เกียจในช่วงแรก ก็กลายเป็นวินัยของตัวเองจนคนรอบข้างมองคุณว่าทำไมดูขยันจัง

ปรับตัวได้เร็ว

ไม่น่าแปลกใจที่คนควบคุมอารมณ์เป็นจะสามารถปรับตัวได้เร็วกว่าคนอื่น เพราะเมื่อเขารับรู้ต่อสถานการณ์ที่ต้องเผชิญ เขาจะสามารถยืดยุ่นความรู้สึกได้ และนั่นทำให้การมาของเรื่องราวต่างๆ สามารถถูกแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว การรู้จักกับอารมณ์ต่างๆของตัวเองจึงทำให้การรับรู้ถึงอารมณ์ของผู้อื่นไม่ยุ่งยากนัก และเมื่อเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้ว การกลายเป็นคนที่พึ่งพาได้ดูจะไม่เกินเอื้อมอีกต่อไป

เป็นผู้ฟังที่ดี เข้าใจมุมมองคนอื่น

ยังไงซะการอยู่คนเดียวบนโลกดูจะไม่ใช่เรื่องจริงในเหล่าสัตว์สังคม การเผชิญหน้ากับผู้อื่นดูจะต้องพบเจออยู่บ่อยครั้ง และบางครั้งการรับฟังคนอื่นพูดไม่เข้าหูดูจะต้องประสบอยู่เสมอ แต่การรับฟังที่ดีคือการเปิดใจ และเข้าใจในเรื่องที่คู่สนธนากับเราพยายามพูด การเข้าใจในมุมมองของคนอื่น ทำให้เราได้เห็นวิศัยทัศน์และจิตใจของพวกเขา ยิ่งหากคุณเป็นคนที่เข้าใจอารมณ์ การแสดงสีหน้าหรือท่าทางที่พวกเขากำลังบ่งบอกโดยที่เขาไม่รู้ตัวด้วยแล้ว คุณจะกลายเป็นคนที่ได้ในสิ่งที่ต้องการ เพราะคนพูดได้เผยถึงข้อมูลบางอย่างที่เขาอาจจะพยายามปกปิดอยู่ก็เป็นได้ การเข้าใจกับอารมณ์ดูน่าสนใจขึ้นมาบ้างแล้วใช่ไหมล่ะ

โน้มน้าวคนอื่นได้(อ่านความรู้สึกคนอื่นเป็น)

ทีเด็ดของความฉลาดทางอามรมณ์อยู่ตรงนี้ เพราะในสถานการณ์ที่ต้องต่อรองเพื่อผลประโยชน์ ไม่ว่าจะต่อตัวเองหรือบริษัท ช่วงจังหวะเวลาสำคัญอยู่ที่การยอมรับข้อตกลงของทั้งสองฝั่ง การอยู่ในสถานการณ์ที่ได้เปรียบหรือเสียเปรียบ หากเราเข้าใจในอารมณ์ เราจะไม่แสดงอาการอะไรออกมา ตรงกันข้ามแม้จะอยู่ในสถานการณ์เสียเปรียบแต่หากฝั่งนู้นไม่รู้ เขาก็จะอ่านเราไม่ออก และเราก็จะสามารถค่อยๆเปลี่ยนเกม ผ่อนหนักเป็นเบา หรือกลับมาเป็นคนได้เปรียบได้อย่างทันถ่วงที เพราะความสามารถในการดูพฤติกรรมของผู้อื่นผ่านทางกายภาพหรืออารมณ์

เรื่องของ EQ หรือความฉลาดทางอารมณ์ ถือเป็นเรื่องราวสำคัญของการสร้างตัวตนของเรา สำคัญกว่าการไปโรงเรียนเพื่อไปหาความรู้ด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นการฝึกความเข้าใจอารมณ์ตัวเองให้ดี ดูจะเป็นหัวใจสำคัญต่อการเริ่มพัฒนา EQ ของตัวเองในอนาคต

Text – Centaurus