ด้วยเทคโนโลยีการติดต่อสื่อสารของโลกในปัจจุบันที่ก้าวหน้าล้ำสมัย สามารถเชื่อมโลกเป็นหนึ่งเดียว ทำให้ผู้คนทั่วทุกมุมโลกสามารถพูดคุยติดต่อแลกเปลี่ยนความคิดกันได้อย่างง่ายดาย อย่างที่ไม่เคยมียุคสมัยไหนทำได้มาก่อน อย่างไรก็ตามอุปสรรคหลักที่ขวางกั้นไม่ให้มนุษย์เราติดต่อพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้กันได้สะดวก ก็คือ “กำแพงภาษา”

แม้ว่าโลกเราจะได้มีการกำหนดให้ “ภาษาอังกฤษ” เป็นภาษาสากลของโลกแล้วก็ตาม แต่ยังมีประชากรเกินกว่าครึ่งโลกที่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ โดยคนส่วนใหญ่ของโลกจะพูดได้แต่แม่ของตัวเอง ด้วยเหตุนี้การรู้ภาษาต่างประเทศอื่นๆ นอกจากภาษาแม่ของชาติบ้านเกิดตัวเองได้ ย่อมทำให้เราได้เปรียบหลายอย่าง เช่น ในเรื่องการแลกเปลี่ยนความรู้ แสวงหาความร่วมมือต่าง ซึ่งนักวิเคราะห์ด้านธุรกิจได้วิเคราะห์ว่า การที่ใครคนหนึ่งรู้ภาษาต่างประเทศมากกว่าหนึ่งภาษา สามารถทำเงินได้ภาษาละไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาทเลยทีเดียว

ข่าวดีคือ นาย Chris Lonsdale นักภาษาศาสตร์ระดับโลก ได้เปิดเผยว่าเขาสามารถค้นพบวิธีการที่จะทำให้ใครก็ได้สามารถเรียนรู้ภาษาต่างประเทศทุกภาษาได้ภายใน 6 เดือน ด้วยวิธีการของเขาซึ่งรับรองไม่ยาก ไม่ทำให้เครียด สนุกไปกับการเรียนรู้ภาษาใหม่ และการันตีผลลัพธ์มานับไม่ถ้วนแล้วจากผู้ที่ได้ลองนำไปใช้ ซึ่งมันจะมีอยู่ 7 ข้อ ดังนี้

Brainsoaking

Brainsoaking แปลตรงๆ ก็คือการทำให้สมองซึมซับทีละนิด ในที่นี้หมายถึงการฝึกฟังทุกวันให้เป็นกิจวัตร เพราะทักษะการฟัง คือทักษะที่จะทำให้เราเข้าใจภาษาได้เร็วที่สุด ไม่เชื่อคุณก็ลองย้อนนึกไปตอนที่คุณเป็นเด็ก คุณสามารถเข้าใจภาษาไทยได้ก็เพราะพ่อแม่ และคนรอบข้างพูดภาษาไทยกรอกหูเป็นประจำทุกวันใช่หรือไม่ และเมื่อซึมซับจนเข้าใจแล้วคุณก็จะเริ่มอยากพูด เลียนแบบเสียงที่ได้ยิน   

ปัจจุบันเราสามารถหาฟังภาษาอังกฤษแบบฟรีๆ ได้อย่างง่ายดาย แถมเป็นการฟังแบบมี Subtitle ซึ่งจะช่วยให้เข้าใจได้ง่ายขึ้นด้วย โดยสามารถหาฟังได้จากสื่อต่างๆ ทั่วไป เช่น Youtube, Facebook รวมถึงภาพยนตร์ Soundtrack ต่างๆ ที่คุณชื่นชอบ เคล็ดลับคือระหว่างฟังให้โฟกัสที่จังหวะการพูด น้ำเสีย และรูปแบบของภาษานั้นๆ

Body Language, Comprehensible Input

จับภาษากาย แล้วพยายามทำความเข้าใจความหมายของแต่ละประโยค ก่อนที่จะไปสนใจเรื่องไวยากรณ์ เนื่องจากมนุษย์ทุกคนเมื่อพูดอะไรออกมา พวกเขาก็อยากให้ผู้ฟังเข้าใจในสิ่งที่พูด เมื่อพูดแล้วผู้ฟังไม่เข้าใจ ทุกคนก็ย่อมพยายามออก Acting ต่างๆ อย่างสุดความสามารถเพื่อให้ผู้ฟังเข้าใจจนได้ ดังนั้น ภาษากาย (Body Language) จึงเป็นสิ่งที่บอกใบ้ความหมาย (Comprehensible Input) ในสิ่งที่ผู้ส่งสารต้องการให้ผู้รับสารเข้าใจ ดังนั้นหากเรายังใหม่ ไม่เก่งภาษาที่กำลังฝึกหัด การสังเกตภาษากายของผู้พูด ย่อมทำให้เราเข้าใจ และเรียนรู้ภาษาใหม่ได้เร็วยิ่งขึ้น นอกจากนี้การจดจำรูปแบบ (pattern) ของภาษา ก็จะช่วยให้เราทำความเข้าใจกับภาษาที่เรียนรู้ได้ง่ายขึ้นเช่นกัน  

Start Mixing

หัดแต่งประโยค ผสมคำ โดยเริ่มจากประโยคง่ายๆ ที่เป็นพื้นฐาน คล้ายๆ กับสมัยที่เราเรียนภาษาไทยในชั้นประถมนั่นแหละครับ ที่คุณครูจะค่อยๆ ป้อนคำมาให้เราเอาไปหัดแต่งประโยคมาวันละ 10-20 คำ โดยให้ทำซ้ำๆ ไปเรื่อยๆ จนเราเริ่มเขียนได้ และเข้าใจไวยากรมากขึ้น การฝึกภาษาต่างประเทศก็จะวนเวียนอยู่กับการทำแบบนี้เช่นกัน จนเราค่อยๆ เก่ง และแต่งประโยคได้ซับซ้อนมากขึ้น

Focus on Key Words

ทุกภาษา หากคุณรู้คำศัพท์ได้มากถึง 1,000 คำ คุณจะสามารถเข้าใจภาษานั้นได้แล้ว 85% และหากรู้คำศัพท์ได้มากถึง 3,000 คำ ก็จะเข้าใจภาษานั้นได้มากกว่า 98% แล้ว ดังนั้นอย่าละเลยการเรียนรู้ความหมายของคำศัพท์ใหม่ๆ เป็นประจำทุกวัน ถ้าอยากเร็วก็เรียนให้ได้วันละ 20 คำ ในเวลา 6 เดือน คุณก็จะรู้ศัพท์แล้วมากกว่า 3,000 คำ

Language Parent

หมายถึงการเรียนรู้ เข้าไปคลุกคลีกับเจ้าของภาษาสักระยะหนึ่ง เช่น การลองไปใช้ชีวิตอยู่ในประเทศเจ้าของภาษาช่วงปิดเทอม หรือมีเพื่อนเป็นเจ้าของภาษา เช่นนี้จะเร็วมาก เพราะเราสามารถสื่อสารกับพวกเขาได้อย่างสบายใจโดยไม่ต้องกังวลว่าจะพูดถูกหรือผิด ไม่ว่าพูดอย่างไรพวกเขาก็จะเข้าใจ และสามารถชี้แนะวิธีการพูดที่ถูกต้องให้เราได้ แต่หากทำข้อนี้ไม่ได้ ก็ไม่เป็นไรครับ ข้ามไปข้ออื่นก็ได้

Copy

หมายถึงการเลียนแบบหน้าตา และรูปปาก การออกเสียงคำ และท่วงทำนองการพูดของเจ้าของภาษา ซึ่งปัจจุบันทำได้ไม่ยากเลย ก็แค่เปิดวิดีโอ คลิป จากหนังหรือยูทูปฟังซ้ำๆ นอกจากฟังเสียงของพวกเขาแล้ว การสังเกตด้วยตาเพื่อจะได้เลียนแบบวิธีการพูดตาม จะช่วยให้เราพูดได้เก่งขึ้นเร็ว  และมีความมั่นใจมากขึ้นด้วย

Direct Connect

เปลี่ยนการจดจำตัวอักษรให้เป็นรูปภาพให้หมด นี่เป็นเทคนิคสุดท้ายที่อยากแนะนำ คือเมื่อเราได้เรียนรู้คำต่างๆ หรือประโยคต่างๆ ในภาษาใหม่ที่เรากำลังเรียนรู้ ระหว่างที่คุณกำลังทำความเข้าใจกับมันโดยที่ไม่อยากใช้หน่วยความจำในเซลล์สมองมาก ให้คุณจินตนาการเปลี่ยนมันเป็นรูปภาพให้หมด ไม่ว่าจะเป็น คำๆ เดียว หรือประโยคทั้งประโยค ทำแบบนี้บ่อยๆ สักระยะ คุณจะไม่ต้องทำแล้ว เพราะสมองของคุณจะเข้าใจคำๆ นั้น หรือประโยคๆ นั้นได้ทันทีที่เห็นตัวอักษร โดยที่ไม่จำเป็นต้องกลับมานั่งนึกภาพอีก

และนี่ก็คือ 7 เคล็ดลับการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ภาษาอะไรก็ได้ที่เราอยากแนะนำให้เพื่อนๆ ได้รู้จักในครั้งนี้ ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ ชาว The Macho ที่กำลังสนใจฝึกภาษาใหม่ทุกคน เมื่อได้ทราบแล้วก็อย่าลืมลองนำไปปรับใช้กัน หากทำได้ทั้ง 7 ข้อนี้ก็จะดีมากๆ เพราะจะทำให้คุณสามารถใช้งานภาษาใหม่ที่กำลังเรียนรู้ได้ภายใน 6 เดือน แต่หากทำได้ไม่ครบทุกข้อก็ไม่เป็นไร อาจจะช้าหน่อย แต่ก็เร็วกว่าวิธีการเรียนรู้แบบเดิมๆ อย่างแน่นอน