‘งานประจำ’ เป็นอาชีพยอดนิยมของคนทุกยุคทุกสมัย แม้ว่าปัจจุบันเทรนด์อาชีพการงานจะเปลี่ยนไปบ้างก็ตาม เพราะคนรุ่นใหม่ส่วนหนึ่ง หลังจากเรียนจบก็ก้าวไปมีกิจการสตาร์ทอัพ หรือ SME เป็นของตัวเองเลย แต่ก็ยังถือเป็นสัดส่วนที่น้อยเมื่อเทียบกับส่วนที่เลือกทำงานประจำ

ที่เป็นเช่นนั้นเพราะอาชีพงานประจำมีข้อดีหลายอย่างที่ทำให้เราไม่ต้องคิดมาก กังวลใจอะไรมากมาย แต่ในบรรดาข้อดีทั้งหลายก็มีข้อเสียแอบแฝงที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน ดังนั้นวันนี้เราจึงอยากแนะนำให้ทุกคนได้รู้จัก 7 ข้อดีที่เป็นเหมือนดาบสองคมของอาชีพงานประจำ ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้น ตามมาดูกันเลย

เงินเดือนและโบนัส

เงินเดือนที่ได้รับประจำแน่นอนทุกเดือนเป็นเสน่ห์ดึงดูดสำคัญอันดับแรกๆ ที่คนส่วนใหญ่คิดถึง เพราะนั่นทำให้ใครหลายคนพูดได้เต็มปากว่างานประจำเป็น ‘อาชีพที่มั่นคง’ อีกทั้งหากเป็นงานประจำที่เป็นของเอกชนยังสามารถมีรายได้เพิ่มจากทั้งโอที และ โบนัส

แต่ในข้อดีข้อนี้ก็มีข้อเสียตามมา อย่างแรกเลยก็คือมันทำให้งานที่ทำอยู่ บรรยากาศในที่ทำงาน เพื่อนร่วมงาน เจ้านาย และรายได้ เป็นเหมือน Comfort Zone ที่ทำให้เราไม่กล้าก้าวไปไหน แม้ว่าจะมีโอกาสดีๆ ลอยมาให้ไขว่คว้าอยู่ตรงหน้าก็ตาม

ข้อเสียอีกประการที่ตามมาก็คืออาชีพงานประจำทุกวันนี้ดูเหมือนจะไม่มั่นคงอีกต่อไป เพราะโลกกำลังเผชิญวิกฤติการณ์มากมาย ทั้งจากไวรัสโควิด รวมถึงการ ดิสรัปในทางเทคโนโลยีและธุรกิจกันอย่างรุนแรง แนวโน้มของเทรนด์การทำงานเปลี่ยนแปลงเร็วมากยิ่งขึ้น ซึ่งนั่นทำให้คนที่ทำอาชีพงานประจำมีความเสี่ยงจะถูกเลิกจ้างโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว

เครดิตดี กู้เงินง่าย

สถาบันการเงินจะมองว่า คนที่ทำอาชีพงานประจำ ที่ไม่เคยมีหนี้สินมาก่อนเป็น ลูกค้าชั้นดี พวกเขาจึงมักหยิบยื่นข้อเสนอดีๆ รวมถึงโอกาสด้านการเงินต่างให้เสมอ และอนุมัติผ่านให้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็น บัตรเครดิต เงินกู้ กองทุน และประกันต่างๆ ตรงกันข้ามกับคนที่ประกอบอาชีพอิสระ ที่กว่าจะกู้อะไรสักอย่างผ่าน ต้องดิ้นรนเลือดตาแทบกระเด็น ต้องวิ่งเต้นหาหลักทรัพย์ และคนมาค้ำประกันเงินกู้ต่างๆ

แต่ก็นั่นแหละ ในข้อดีข้อนี้มักมีข้อเสียตามมาเสมอ เพราะธรรมชาติของคนส่วนใหญ่ชอบสบาย รักสนุก มีมากก็ใช้มาก ยิ่งมีโอกาสได้เข้าถึงแหล่งเงินทองง่ายๆ วินัยทางการเงินก็หายไป จากโอกาสทางการเงินที่ มนุษย์เงินเดือน ทั้งหลายได้รับ พวกเขาก็มักจะเปลี่ยนมันให้เป็นวิกฤติ คนทำงานประจำส่วนใหญ่สร้างหนี้สินมากกว่า ความสามารถที่จะผ่อนชำระได้ เพราะกู้ง่าย ก็เลยเป็นหนี้ง่าย เมื่อไม่มีความสามารถจ่ายหนี้ จากลูกค้าชั้นดี ก็กลายเป็น เหยื่ออันโอชะ ของสถาบันการเงิน

สวัสดิการดี

งานประจำไม่ว่าจะเป็นจากหน่วยงานรัฐ หรือ เอกชน จะได้รับสวัสดิการที่ยอดเยี่ยมจากต้นสังกัด ไม่ว่าจะเป็น ค่ารักษาพยาบาล การชดเชยรายได้ยามเจ็บป่วย ประกันสังคม กองทุนเลี้ยงชีพ เงินบำเหน็จ บำนาญ เป็นต้น

ซึ่งการมีสวัสดิการที่ดีเช่นนี้ก็มีโทษเช่นเดียวกับการมีรายได้ที่มั่นคง คือมันเป็นการเสริมทับให้เราสร้าง Comfort Zone ให้แน่นหนามากยิ่งขึ้น พนักงานประจำหลายคนจึงรักองค์กรมากกว่าบ้านตัวเองด้วยซ้ำ เห็นได้จากในช่วงวิกฤติโควิดที่ผ่านมา ที่มีการปิดโรงงาน เลิกจ้าง เลิกกิจการของบริษัทใหญ่น้อย ทั้งบริษัทข้ามชาติ และบริษัทในประเทศ ทำให้พนักงานประจำของบริษัททั้งหลายต่างร่ำไห้ เศร้าโศก เสียใจปานจะขาดใจกัน

พนักงานประจำหลายคนมีรายได้แบบเดือนชนเดือน เพราะหนี้สินเยอะ เมื่อถูกเลิกจ้าง สิ่งที่ทำได้ก็คือการวิ่งหางานประจำใหม่ทำ ซึ่งปัจจุบันก็หายากเต็มที   

ไม่ต้องแบกรับความเสี่ยง

ในการประกอบธุรกิจกิจการต่างๆ นายจ้างย่อมเป็นผู้รับความเสี่ยงมากกว่า พนักงานประจำ อยู่แล้ว เพราะหากมีการปิดกิจการขึ้นมาก็ต้องเคลียร์ภาระหนี้สินต่างๆ มากมาย ดีไม่ดีนายจ้างอาจต้องเสี่ยงต่อการล้มละลาย มีหนี้สินล้นพ้นตัวอีกด้วย ในขณะที่ พนักงานประจำ เมื่อถูกเลิกจ้างก็จะได้รับเงินก้อนชดเชย และสามารถหางานใหม่ทำได้ 

แม้ว่าอาชีพงานประจำ จะไม่ได้รับความเสี่ยงอะไรมากมาย แต่คนที่ทำงานในอาชีพนี้ส่วนมากไม่มีทักษะการประกอบธุรกิจ และการเป็นนายตัวเอง นี่ต่างหากที่เป็นอีกหนึ่งรูปแบบของความเสี่ยงที่คนทำงานประจำทั้งหลายไม่รู้ และไม่ได้ตั้งหลักมาก่อน

มีเวลาทำงานที่แน่นอน

คนทำงานประจำส่วนใหญ่จะมีเวลาทำงานที่แน่นอน คือ 5-6 วันต่อสัปดาห์ เวลาทำงานคือ 8.30-17.30 น. เป็นกิจวัตรประจำวันเช่นนี้เรื่อยไป ไม่ต้องคิดวางแผนอะไรกับชีวิตให้วุ่นวายมากมาย สบายสมอง เพราะเวลาที่เหลือจากการทำงานแสนหนัก ก็คือเวลาพักผ่อนอยู่กับครอบครัว

อย่างไรก็ดี การมีเวลาที่แน่นอน ยืดหยุ่นไม่ได้เช่นนี้ก็มีข้อเสียเช่นกัน คือมันทำให้เราไม่สามารถหลบหลีกชั่วโมงเร่งด่วนได้ เพราะในตอนเช้าต่างคนต่างรีบเร่งให้ทันเข้าทำงานในเวลาเดียวกันทั้งเมือง และในตอนเย็นก็ดันเลิกงานในเวลาใกล้ๆ กันอีก ปัญหารถติด ผู้คนแออัดจึงตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

มีโอกาสได้รับทุนศึกษาต่อ และฝึกอบรมเพิ่มทักษะความสามารถ

ทรัพยากรบุคคลถือเป็นทรัพยากรสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรต่างๆ ให้ก้าวไปข้างหน้า องค์กรอุดมไปด้วยคนเก่ง มากความสามารถก็จะเติบโตได้อย่างรวดเร็ว พนักงานประจำ หลายคนที่ฉายแววก็มักจะได้รับโอกาสให้เข้าคอร์สฝึกอบรมเพิ่มความสามารถต่างๆ หรือกระทั่งได้รับทุนจากองค์กรให้ไปศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น

สิ่งที่ตามมาจากการได้รับโอกาสเช่นนี้ก็คือพันธะสัญญาต่างๆ ที่จะผูกมัดตัวเราไว้กับองค์กร ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบที่เป็นลายลักษณ์อักษร หรือสัญญาใจ ทำให้ในอนาคตหากเราได้เจอโอกาสที่ดีกว่าในอาชีพการงาน ก็จะสลัดหลุดจากพันธะที่มีไว้กับองค์กรเดิมได้ยาก 

 คอนเน็คชันกว้างขวาง รู้จักผู้มากมาย

งานประจำทำให้ องค์กร บริษัท เป็นเหมือนบ้านหลังที่สอง มีเจ้านาย และเพื่อนร่วมงาน เป็นเหมือนอีกหนึ่งครอบครัว ที่ทำให้เรารู้สึกผูกพันกันมากขึ้น อีกทั้งยังส่งเสริมให้เราได้รู้จักผู้คนมากหน้าหลายตา ทั้งพันธมิตรในทางธุรกิจ ลูกค้า และหน่วยงานราชการต่างๆ ที่ต้องติดต่องานด้วย ทำให้เรามีคอนเน็คชันกว้างขวางอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

สิ่งที่ตามมาจากคอนเน็คชันที่กว้างขวาง ก็คือภาษีสังคมที่มากขึ้นเป็นเงาตามตัว ไม่ว่าจะงานแต่ง งานบวช งานขึ้นบ้านใหม่ของคนที่เรารู้จัก หากมีเชิญมา แน่นอนว่าสิ่งที่เราต้องจ่ายไปก็คือภาษีสังคมเหล่านี้ จ่ายน้อยไปก็ไม่สมกับหน้าตา แต่พอจ่าย หลายงานเข้า นับๆ ดูภาษีสังคมที่ต้องจ่ายไปในแต่ละก็ไม่ใช่น้อย

และนี่ก็คือ 7 ข้อดีของอาชีพงานประจำที่เป็นเหมือนดาบสองคมที่เราอยากแจ้งให้เพื่อนๆ ได้ทราบในครั้งนี้ ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อชาวมนุษย์เงินเดือนไม่มากก็น้อย หลังจากได้อ่านจบไปเมื่อได้ทราบข้อดีข้อเสียของแต่ละข้อไปแล้วก็อย่าลืมเตรียมความพร้อมให้กับตัวเอง เพื่อจะได้ปิดทุกข้อเสียที่ได้ทราบไปแล้วนี้