ในวงการลูกหนังตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันนั้น มีนักเตะระดับโลกมากมายหลายต่อหลายคนที่ได้โชว์ลีลาให้แฟนบอลได้เห็นในสนาม และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในทวีปอเมริกาใต้ ซึ่งมีแข้งระดับตำนานที่สร้างสีสรรค์ให้กับแฟนบอลอย่างต่อเนื่อง

         5 ยอดนักฟุตบอลเหล่านี้ ได้รับการยกย่องว่า เป็นแข้งที่ดีที่สุดแห่งแดนละติน ซึ่งดูจากสถิติ และความสำเร็จต่างๆคงไม่มีใครกล้าปฏิเสธความยอดเยี่ยมของบรรดาผู้เล่นเหล่านี้อย่างแน่นอน

5. โรนัลโด้

         หนึ่งในสุดยอดกองหน้าของวงการฟุตบอลแห่งยุค 90  โรนัลโด้ เริ่มเล่นฟุตบอลกับ ครูเซโร่ ในบ้านเกิดเมื่อปี 1993 และอีกหนึ่งปีต่อมามันเป็นก้าวสำคัญในอาชีพของเขาหลังย้ายมาเล่นในยุโรปกับ พีเอสวี ไอนด์โอเฟ่น

         อดีตหัวหอกทีมชาติบราซิลชุดแชมป์ฟุตบอลโลกปี 1994 และ 2002 ระเบิดฟอร์มสุดยอดซัดให้ พีเอสวี ไปมากถึง 42 ประตู จาก 46 เกมรวมทุกรายการ และจากผลงานที่ยอดเยี่ยมก็ทำให้ บาร์เซโลน่า ดึงตัวไปล่าตาข่าย ซึ่ง โรนัลโด้ ก็ยังกระหน่ำประตูให้กับ “เจ้าบุญทุ่ม” ได้อย่างถล่มทลาย

         ความสุดยอดของ โรนัลโด้ ทำให้เขาได้มีโอกาสย้ายไปเล่นกับทีมใหญ่ทั่วยุโรปอย่าง อินเตอร์ มิลาน, เรอัล มาดริด และ เอซี มิลาน มาแล้ว และก็คว้าแชมป์มากมาย โดยกองหน้าเจ้าของฉายา “โล้นทองคำ” ยังเคยคว้ารางวัลบัลลงก์ ดอร์ 2 สมัยอีกด้วย

4. อัลเฟรโด้ ดิ สเตฟาโน่

         ดิ สเตฟาโน่ ถือเป็นนักเตะสุดยอดระดับตำนานของ มาดริด ซึ่งกระหน่ำให้ “ราชันชุดขาว” ไปมากถึง 308 ประตู จาก 396 เกมรวมทุกรายการ พร้อมกับพาสโมสรคว้าแชมป์สำคัญอย่าง ลา ลีกา 8 สมัย และแชมป์ยุโรป 5 สมัย

        ขณะเดียวกัน สิ่งที่น่าเหลือเชื่อก็คือ ดิ สเตฟาโน่ ยังเคยเล่นฟุตบอลในระดับชาติให้กับ 3 ประเทศประกอบด้วย โคลัมเบีย, สเปน และ อาร์เจนติน่า แต่น่าเสียดายที่อดีตเจ้าของรางวัลบัลลงก์ ดอร์ 2 สมัย ไม่เคยได้สัมผัสถ้วยฟุตบอลโลกเลยแม้แต่ครั้งเดียว

3. เปเล่

        นักเตะที่ดี่สุดตลอดกาลของทีมชาติบราซิล เปเล่ เริ่มเล่นฟุตบอลกับอคาเดมี่ของ ซานโตส ยอดทีมในลีกแดนกาแฟ และทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมจนก้าวมาสู่ทีมชุดใหญ่ และถูกเรียกตัวติดทัพ “เซเลเซา” เป็นครั้งแรกในปี 1957 และได้ไปลุยฟุตบอลโลกในปีต่อมา

         ตลอดเส้นทางอาชีพของ เปเล่ นั้น เขาลงสนามไปมากกว่า 1,000 เกม และซัดไปเกิน 1,000 ประตู และผลงานในระดับชาตินั้น หัวหอกเจ้าของฉายา “ไข่มุกดำ” พาบราซิลคว้าแชมป์ฟุจบอลโลกได้ถึง 3 สมัยเลยทีเดียว

          ถึงแม้ เปเล่ จะประกาศอำลาวงการฟุตบอลไปนานแล้ว แต่ลีลาการเล่นของเขายังคงอยู่ในความทรงจำของสาวกลูกหนังมาจนถึงยุคปัจจุบัน และเจ้าตัวเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของวงการฟุตบอลไปแล้ว

2. ดิเอโก้ มาราโดน่า

ยอดเพลย์เมคเกอร์เจ้าของฉายา “เสือเตี้ย” ผู้พาทีมชาติชาติอาร์เจนตินาคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกในปี 1986 มาแล้ว และเป็นหนึ่งในไอดอลของนักเตะรุ่นหลังแห่งแดน “ฟ้าขาว” มาราโดน่า เป็นสุดยอดนักเตะแห่งยุค 80 เลยก็ว่าได้

                 มาราโดน่า เริ่มเล่นฟุตบอลกับ อาร์เจนติโนส จูเนียร์ส ในบ้านเกิด ก่อนจะโชว์พรสวรรค์เกินเด็กรุ่นเดียวกันจนได้ย้ายไปยัง โบคา จูเนียร์ส และพาทีมคว้าแชมป์ลีกได้ด้วย จากนั้น เขาก็ย้ายไปยัง บาร์เซโลน่า ในปี 1982 ด้วยค่าตัวเป็นสถิติสูงสุดเวลานั้นจำนวน 5 ล้านปอนด์ และพาทีมคว้าแชมป์มากมาย

         2 ปีต่อมา มาราโดน่า สร้างสถิติอีกครั้งด้วยการย้ายไปยัง นาโปลี ด้วยค่าตัว 6.7 ล้านปอนด์ แต่ในระยะหลังเขามีปัญหาเกี่ยวกับยาเสพติด และการใช้ชีวิตนอกสนามจนถูกปล่อยไปเล่นกับ เซบีย่า 1 ปี และเจ้าตัวก็ย้ายกลับไปเล่นในบ้านเกิดอีกครั้ง

         หลังแขวนสตั๊ด มาราโดน่า เคยรับงานกุนซือคุมทีมอาทิ ราซิ่ง คลับ และทีมชาติอาร์เจนติน่า มาแล้ว แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร โดยอดีตจอมทัพ “ฟ้าขาว” อำลาโลกไปเมื่อปี 2020 จากสภาวะหัวใจหยุดเต้นที่บ้านในเมืองติเกร

1. ลิโอเนล เมสซี่

เมสซี่ ถือเป็นนักฟุตบอลที่ดีที่สุดในโลกยุคปัจจุบันยังคงโลดแล่นอยู่ในสนามฟุตบอล ซึ่งความสำเร็จของเขานั้น อาจเปรียบเทียบได้กับ เปเล่ และ มาราโดน่า ในยุคก่อนหน้านี้เลยก็ว่าได้ โดยดาวเตะอาร์เจนไตน์ คว้าแชมป์มาทุกรายการแล้วเหลือแต่เพียงฟุตบอลโลกที่ยังไม่เคยได้สัมผัส

          ในซัมเมอร์ปี 2021 เพลย์เมคเกอร์วัย 32 ปี สร้างสิ่งที่กลายเป็นข่าวช็อกวงการฟุตบอลหลังประกาศย้ายออกจาก บาร์เซโลน่า ที่ค้าแข้งมานานถึง 17 ปี ไปเล่นกับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง แบบไร้ค่าตัว ท่ามกลางความเสียใจของแฟน “เจ้าบุญทุ่ม” ทั่วโลก

ภาพประกอบ : transfermarkt.com, charitystars.com, outlookindia.com, besoccer.com