คำว่า “เศรษฐี” ในความหมายที่คนส่วนใหญ่เข้าใจง่ายๆ ก็คือคนมีเงิน และเงินสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการต่างๆ ได้ตามที่ใจต้องการ ใครที่เป็น เศรษฐี ย่อมหมายความว่าคุณได้หลุดพ้นจากความลำบากทางกายแล้ว เพราะคุณได้มีอำนาจเพื่อการแลกเปลี่ยนจัดหาสิ่งต่างๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกสบายในชีวิตประจำวันได้อย่างไม่เดือดร้อน
ดังนั้นใครที่มาพูดกรอกหูคุณว่า “เงินไม่สำคัญ” คุณอย่าได้หลงเชื่อด้วยประการทั้งปวง แม้ว่าเงินจะซื้อความสุขไม่ได้ทั้งหมด แต่ที่แน่ๆ ใครที่เงินใช้ขาดมือ ชักหน้าไม่ถึงหลัง ย่อมไม่มีความสุขแน่ ด้วยเหตุนี้การให้พัฒนาตัวเอง พัฒนาสถานะทางการเงินให้มั่นคงถาวรจนร่ำรวยจึงเป็นสิ่งที่ทุกคนควรใส่ใจ คนรุ่นใหม่ทุกคนจึงควรตั้งเป้าไว้เลยว่า ต่อให้ไม่ร่ำรวยล้นฟ้าก็ขอให้มีเงินใช้ไม่ขาดมือ อย่าได้พบกับความขัดสน ลำบาก จนเป็นหนี้แล้วไม่มีปัญญาจ่าย แต่การจะประสบความสำเร็จเช่นนี้ได้ ทุกคนควรเรียนรู้ที่จะสร้างนิสัย 4 อย่างต่อไปนี้ ซึ่งการันตีโดยมหาเศรษฐีหลายคนว่า “ทำจนเป็นนิสัยแล้วรวย” ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้น ตามมาดูกันเลย
ให้เวลาได้พูดคุยกับตัวเอง
จากการสัมภาษณ์มหาเศรษฐีหลายคนพบกว่าพวกเขามีนิสัยเหมือนกันอย่างหนึ่งก็คือ การให้เวลาได้พูดคุยกับตัวเอง ซึ่งก็คือการนั่งนิ่งๆ อย่างสงบ พูดคุย ทบทวนเรื่องราวต่างๆ ในชีวิตกับตัวเองทุกวันเป็นเวลาอย่างน้อย 15 นาทีโดยเฉพาะในตอนเช้า ซึ่งประเด็นที่พวกเขาพูดคุยกับตัวเองนั้นมักจะเป็นเรื่องสำคัญในชีวิตครอบครัวและการงาน โดยเฉพาะการบอกตัวเองให้ยึดมั่นในเป้าหมาย สิ่งที่ได้ทำไปแล้ว สิ่งที่ประสบความสำเร็จ สิ่งที่ล้มเหลว แนวทางการปรับปรุง และแนวทางการพัฒนาให้ดีขึ้น รวมถึงแนวทางการสร้างสมดุลของชีวิตการทำงานและครอบครัว เป็นต้น
รักการอ่าน
เศรษฐีเกือบทุกคนจะรักการอ่าน การอ่านเป็นวิธีการรับข้อมูลต่างๆ ที่ถาโถมเข้ามาหาเราในแต่ละวันได้รวดเร็วที่สุด ไม่มีใครเสียเวลาฟังข่าวทั้งวันหรอก เพราะทักษะการอ่านที่ดีจะทำให้คุณรับข้อมูลมหาศาลได้ในระยะเวลาอันสั้น
นอกจากนี้เศรษฐียังมักจะชอบอ่านหนังสือหรือคอนเทนต์จำพวกการพัฒนาตัวเอง รวมถึงศึกษาเรียนรู้เทคโนโลยีนวัตกรรมใหม่ๆ ตลอดชีวิต เพื่อไม่ให้ตกยกสมัย สามารถคุยกับคนรุ่นใหม่เข้าใจ มีทัศนคติการมองโลกที่ได้รับการปรับตัวอยู่ตลอดเวลา ทำให้แม้ว่าพวกเขาจะมีอายุมากแล้วก็ยังคงถูกมองว่ามีความคิดล้ำหน้า ก้าวไกล ไม่ตกยุค
ดูแลสุขภาพอย่างดีเลิศ
แหม่ก็กว่าจะสร้างเนื้อสร้างตัวจนร่ำรวยได้นั้นยากลำบาก เศรษฐีทุกคนจึงหมายปองที่จะมีชีวิตอยู่ได้นานๆ อย่างมีความสุข ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ ได้ดื่มด่ำกับความสำเร็จที่ตนสร้างไว้ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ และที่สำคัญคำกล่าวที่ถูกต้องและเป็นอมตะเสมอทุกยุคทุกสมัยก็คือ “การไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐ”
เศรษฐีเกือบทุกคนใส่ใจดูแลสุขภาพด้วยการทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมออย่างน้อยวันละ 30 นาที มีการตรวจสุขภาพเป็นประจำอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง หรือกระทั่งทานอาหารเสริม อะไรที่พวกเขาเห็นว่าจะดีต่อสุขภาพก็สรรหามาทานกันแบบไม่ได้หวงเงิน จึงไม่น่าแปลกใจว่าใครมีอาหารเสริมดีๆ ไปเสนอขายแก่คนมีเงินก็มักจะปิดการขายได้ไม่ยาก
เป้าหมายชัดเจน มีไว้พุ่งชน
ทักษะอย่างหนึ่งของเศรษฐีและว่าที่เศรษฐีในอนาคตที่มีร่วมกัน และเหนือกว่าคนทั่วไปก็คือทักษะของการตั้งเป้าหมายบนพื้นฐานความจริง ไม่ใช่เพ้อฝัน พวกเค้าจะตั้งเป้าหมายระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว และยังหมั่นตรวจสอบความสำเร็จทุกระยะที่ก้าวเดินอีกด้วย
เพราะทุกเป้าหมายมีไว้พุ่งชน Passion จึงต้องแรง แรงบันดาลใจต้องมากมายเหลือล้น ไม่หมดไฟหรือล้มเลิกกลางครัน คนจะรวยเขาจะเล่นกับเป้าหมายของเขาไม่เลิก หากไม่สำเร็จครั้งนี้ก็จะต้องมีการปรับปรุงพัฒนาแผนเพื่อให้ประสบความสำเร็จในวันหน้า นิสัยของคนจะรวยส่วนมากจะเป็นคนดื้อ ไม่เคยปราณีต่อเป้าหมาย หากไม่สำเร็จก็ไม่เลิกที่จะต่อสู้อย่างแน่นอน
และนี่ก็คือนิสัย 4 อย่างของคนจะรวย หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ปรารถนาจะมีอนาคตที่ร่ำรวย ด้วยหนึ่งสมอง และสองมือของตัวเอง ไม่รอโชคช่วย ไม่รอถูกหวย และไม่รอให้ใครมาโปรด ก็จงรีบพัฒนานิสัยของตัวเองให้ได้ดัง 4 อย่างนี้ หากทำได้เรากล้าบอกเลยว่า คุณจะรวย ในแบบที่ใครก็ขวางไม่ได้