คนจำนวนมากที่ประสบความสำเร็จในชีวิต จะมีอุปนิสัยในการนอนเเต่หัววันและตื่นเเต่เช้า เเต่นั่นก็ไม่ใช่สำหรับทุกคน มีบทความมากมายเขียนเกี่ยวกับความสำคัญของการนอนแต่หัวค่ำและตื่นนอนเเต่เช้า เพราะมันเป็นกุญแจแห่งความสำเร็จ
สำหรับบางคนมันไม่มีอะไรน่าแปลกใจ สำหรับคนที่ตื่นเช้าเสมอจะประสบความสำเร็จ อย่างไรก็ตาม เพื่อนๆ เชื่อหรือไม่ว่ามียอดมนุษย์อีกบางจำพวกที่เป็นมนุษย์ค้างคาว เเละสามารถประสบความสำเร็จระดับสูงได้เช่นกัน โดยทั่วไปแล้วคนพวกนี้จะเข้านอนเวลาประมาณตีหนึ่งถึงตีสอง ส่วนเวลาตื่นนอนก็สักประมาณ 7-8 โมงเช้า บางทีก็ 9 โมง ส่วนมากแล้วคนเหล่านี้จะไม่ได้ทำงานประจำ หากไม่เป็นฟรีแลนซ์ ก็คงจะมีกิจการเป็นของตัวเอง โดยพวกเค้าได้บอกข้อดีของการนอนดึก ตื่นสายไว้หลายข้อ แต่เราสามารถสรุปหลักๆ ได้ 10 ข้อดังนี้
1. ได้รับข่าวสารที่สด และใกล้เคียงกับความจริงมากที่สุด
วันไหนที่คุณนอนดึก คุณลองสังเกตข่าวดูนะ ข่าวช่วงกลางคืนดึกๆ ของเช้าวันใหม่ ประมาณตีหนึ่งตีสอง ส่วนใหญ่จะเป็นข่าวสด แต่ถ้าเป็นข่าวช่วงกลางวัน ข่าวจะได้รับการแต่งแต้มสีสันใส่ไข่เพิ่มความบันเทิงเรียบร้อยเเล้ว โดยเฉพาะข่าวอัพเดทเกี่ยวกับเรื่องการเงิน ธุรกิจ ข่าวกีฬา มันสดแตกต่างจากช่วงกลางวัน ซึ่งข่าวบางข่าวหากคุณได้ทราบก่อนใครย่อมเพิ่มความได้เปรียบ แต่ถ้าคุณรีบนอนเเต่หัววันคุณจะพลาดข่าวสดเหล่านี้
2. ช่วยหลีกเลี่ยงชั่วโมงเร่งด่วน
สำหรับคนที่อาศัยอยู่ในเขตชุมชนเมือง การเลือกเดินทางไปทำธุระต่างๆ นอกบ้านหลังจากผ่านชั่วโมงเร่งด่วนไปแล้วจะช่วยประหยัดเวลาจากจราจรติดขัดได้มาก ซึ่งมีการคำนวนไว้ว่าใน 1 ปี หากคุณสามารถประหยัดเวลาจากการจราจรที่ติดขัดได้ทุกวัน คุณจะมีเวลาเพิ่มขึ้นโดยรวมแล้วหลายสัปดาห์เลยทีเดียว แต่หากคุณเป็นพนักงานประจำ และเจ้านายไม่ว่าอะไรที่จะเข้างานสายเล็กน้อย และเลิกงานช้ากว่าคนอื่น การที่คุณเริ่มงานหลังจากคนอื่นๆไม่นาน เเต่จิตใจไม่ต้องว้าวุ่น หงุดหงิดจากชั่วโมงเร่งด่วน จะทำให้การทำงานของคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะจิตใจถูกรบกวนน้อยลง ซึ่งนั่นคือ โบนัส พิเศษสำหรับคนนอนดึกตื่นสาย
3. มีสมาธิในการเตรียมพร้อมสำหรับวันพรุ่งนี้
คุณสามารถวางแผนการทำงานสำหรับวันพรุ่งนี้ในตอนกลางคืน จัดเตรียมเสื้อผ้า เอกสาร อุปกรณ์ต่างๆที่ต้องใช้ให้ครบ โดยสิ่งแวดล้อมรอบตัวคุณในยามดึกนี้มันช่างเงียบสงบปราศจากสิ่งรบกวน คุณสามารถคิดแผนการสำหรับสิ่งต่างๆ ที่ต้องการได้ด้วยสมาธิที่มากกว่า แต่หากคุณยังใช้ชีวิตแบบปกติที่เคยเป็น ที่ปราศจากการเตรียมความพร้อมสำหรับวันพรุ่งนี้ คุณลองสังเกตตัวเองดูสิว่า กี่ครั้งเเล้วที่คุณลืมของตอนออกจากบ้านในตอนเช้า แล้วต้องกลับเข้ามาเอาอีกครั้ง นั่นเป็นเพราะช่วงเช้าที่รีบเร่ง ทำให้คุณสะเพร่า หลงหน้าลืมหลังไง
4. ความคิดสร้างสรรค์จะเกิดขึ้นสูงสุดในช่วงเวลากลางคืน
หลายคนในช่วงเช้าที่ตื่นนอนขึ้นมามักจะคิดถึงแต่สิ่งที่ต้องทำในวันนี้ หลายเรื่องเป็นเรื่องที่น่าวิตกกังวล ซึ่งทั้งหมดนั้นทำให้คุณเกิดความเครียด เเต่ในช่วงกลางคืนนั้นคุณได้ผ่านประสบการณ์ทั้งดีเเละไม่ดีของเเต่ละวันมาเเล้ว มันเป็นช่วงเวลาที่ดี ที่ผมจะได้คิดวิเคราะห์ เสริมจุดดีแก้ไขข้อด้อยต่างๆ ให้กับการทำงาน คุณจะนั่งทำสิ่งต่างๆ ที่ต้องการสมาธิ ไม่ว่าจะเป็นการนั่งเขียนบทความ การเขียนแบบ การคำนวณต่างๆ ไม่มีใครมารบกวน ซึ่งคุณคิดว่าดีแค่ไหน ถามใจคุณดู
5. สามารถนอนหลับได้สนิทไร้ความกังวล
ใครบ้างล่ะที่อยากที่จะตื่นนอนด้วยนาฬิกาปลุก? สำหรับหลายคนเเล้ว การตั้งนาฬิกาปลุกนั้นเป็นสาเหตุที่ทำให้นอนหลับไม่ลึก การได้นอนลงบนเตียงในเวลาการคืนด้วยการรับรู้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ต้องใช้สำหรับวันพรุ่งนี้ได้ถูกเตรียมพร้อมเเล้ว มันทำให้เป็นการนอนหลับที่ปราศจากความกังวล พอตื่นนอนตอนเช้า คุณสามารถนั่งจิบกาแฟชิล ก่อนออกไปทำกิจการงานต่างๆ ข้างนอกบ้านได้อย่างสบายใจ
6. สามารถออกกำลังกายได้มากขึ้น
งานวิจัยด้านฟิตเนสเสริมสร้างกล้ามเนื้อ และความแข็งแกร่งของร่างกายแนะนำว่า สภาพร่างกายเราเหมาะกับการออกกำลังกายในช่วงบ่ายแก่ๆ หรือเย็นๆ มากกว่า เพราะการทำงานของปอด อุณหภูมิร่างกาย เส้นเอน เส้นเลือด ความยืดหยุ่นของร่างกายจะพร้อมที่สุดในช่วงเวลานี้ ดั้งนั้นการเข้าฟิตเนสในช่วงเย็นๆ ที่ว่างหลังจากเสร็จจากเสร็จงานจะเหมาะสมที่สุด จึงไม่มีความจำเป็นเลยที่จะต้องตื่นนอนขึ้นมาตั้งแต่ตีสี่ตีห้าเพื่อออกกำลังกายในตอนเช้า
7. ความกังวลเรื่องการทานอาหารเย็นหมดไป ความสุขสนุกกลับคืนมา
เป็นสิ่งที่ทราบโดยทั่วกันว่า เราควรจะต้องควบคุมน้ำหนักให้เหมาะสมกับเพศเเละอายุ การที่จะทำเช่นนั้นได้เราจะต้องทานอาหารมื้อเย็นไม่หนักมาก มันช่างเป็นเรื่องที่น่าผิดหวังยิ่งนัก ที่ได้ยินคำแนะนำเช่นนี้ เเล้วมันก็ยากที่จะทำตามด้วย เพราะมื้อเย็นเป็นมื้อที่มีความสุข สนุกที่สุด เป็นช่วงเวลาของการนัดเดท สังสรรค์กับเพื่อนในร้านอาหาร โดยปกติถ้างานทั้งหมดของของใครหลายๆ คนรวมถึงการออกกำลังกายด้วยเสร็จสิ้นด้วยในเวลา 1 ทุ่ม ช่วงเวลานี้จะเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายกำลังเกิดการเผาผลาญพลังงาน (metabolism) ได้ยอดเยี่ยมที่สุดเวลาหนึ่งพอดี อาหารเย็นที่คุณทานเข้าไป จะถูกเผาผลาญอย่างหมดจดเพื่อนำไปซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอต่างๆในร่างกาย ดังนั้นคุณสามารถทานสเต็กได้อย่างหมดกังวลในช่วงเวลา 1- 2 ทุ่ม ซึ่งนี่คือความสุขที่เราได้มาฟรีๆ เพียงแค่รู้จักช่วงจังหวะเวลาที่เหมาะสม
8. รู้สึกถึงพลังอำนาจในตัวเองที่สามารถกำหนดโชคชะตาชีวิตเองได้โดยเด็ดขาด
ยอดมนุษย์จำพวกมนุษย์ค้างคาวจะใช้ช่วงเวลากลางดึกๆ ใกล้ เข้านอนในการตอบเมลล์ ส่งเมล์สั่งงาน ติดตามสถานการณ์ต่างที่เกิดขึ้นในรอบ รวมทั้งข่าวความเคลื่อนไหวที่เป็นกระแสในโลกโซเชียลต่างๆ พร้อมให้คำแนะนำ ชี้แจงงานกับทีมงานถึงสิ่งที่จะต้องทำในวันพรุ่งนี้ จากนั้นพวกเขาก็จะเข้านอนโดยรู้ทุกสิ่งที่ได้ทำในวันที่ผ่านมา และสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันต่อๆ ไป ตอนเช้าคนเหล่านี้สามารถตื่นนอนรับวันใหม่ พร้อมรับความท้าทาย ทีมงานทุกคนของพวกเขาก็จะตื่นเช้ามาพร้อมกับเห็นรายละเอียดการสั่งงาน และคำแนะนำต่างๆ ที่ได้ส่งไปให้เเล้ว ทำให้ทีมงานทุกคนสามารถเริ่มงานได้ทันทีโดยไม่ต้องรออะไร หากคุณทำได้เช่นนี้ทุกวัน ก็เหมือนกับว่าคุณสามารถกำหนดโชคชะตาได้ด้วยมือของคุณเอง
9. ได้ชมฟุตบอลถ่ายทอดสดคู่สำคัญ
ฟุตบอลคู่สำคัญมักจะเตะกันดึกเมื่อเทียบกับเวลาในบ้านเรา ดังนั้นถ้าคุณรีบเข้านอนก็จะพลาดการชมแมทช์การแข่งขันที่สุดมันส์ของสโมสรดังๆ ระดับโลกจากหลายประเทศในยุโรปที่ต้องมาฟาดแข้งห้ำหั่นกันในถ้วยใหญ่ สำหรับคนที่รีบเข้านอนก็คงทำได้อย่างมากเเค่ตื่นมาฟังผลการแข่งขันในตอนเช้า
10. ได้ดำเนินชีวิตตามหลักของปราชญ์ยิวเพื่อความก้าวหน้าในชีวิต
“Tikkun Olan” เป็นคำฮิบบรูของคนยิวที่แปลว่า “ซ่อมแซมโลก” (Repair the world) การจัดเตรียมตารางงานของคนประสบความสำเร็จที่นอนดึกทั้งหลายจะใช้เวลาในช่วงกลางดึกก่อนเข้านอน เพื่อทำจิตใจให้สงบตั้งใจที่จะอุทิศตนเพื่อเป็นผู้นำในการดำเนินการบริษัทที่ดี เพื่อหวังจะมอบสิ่งดีๆให้กับทุกคนไม่ว่าจะเป็นลูกค้า เเละสังคมรอบตัว ทุกตารางงานของคนเหล่านี้ถูกจัดทำขึ้นวันต่อวัน ก็เพื่อสนองความตั้งใจที่จะทำให้โลกน่าอยู่กว่าเดิม
หลายคนประสบความสำเร็จด้วยการจัดเวลาแบบระบบทั่วไปคือ เข้านอนเเต่หัวค่ำเเล้วตื่นเเต่เช้า ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะเราก็ถูกสอนแบบนั้นเสมอตั้งเเต่ยังเป็นเด็ก เเต่สำหรับหลายคนพอโตขึ้นมา มีกิจการ เเละวิถีชีวิตเป็นของตัวเอง พบว่าการจัดตารางเวลาแบบนั้นไม่เหมาะกับตัวเอง เราเชื่อว่าทุกท่านก็ควรมีตารางเวลาเป็นของตัวเองเช่นกัน ดังนั้นอย่าให้ใครบังคับ ทุกคนควรจัดช่วงจังหวะเวลาให้สอดคล้องกับสภาพความเป็นอยู่ เเล้วคุณจะประสบความสำเร็จมากขึ้นกว่าเดิม
Text – Sujate Wanchat