จากการสร้างความปลอดภัยทางอารมณ์ไปจนถึงการสนับสนุนการเติบโตของกันและกัน ต่อไปนี้เป็นกฎทอง 9 ข้อของความสัมพันธ์ที่ดีที่ควรยอมรับ โดยอ้างอิงจากผู้เชี่ยวชาญ

จะดีไหมถ้ามีคู่มือปฏิบัติเพื่อรับมือกับสถานะการณ์ความรัก แม้ว่ามันจะไม่มีกฎเกณฑ์ที่ตายตัวอยู่จริง แต่ก็มีหลักการสากลที่นำไปสู่ความสัมพันธ์ที่ดีต่อสุขภาพ แน่นอนว่าทุกความสัมพันธ์นั้นแตกต่างกัน แต่ความสัมพันธ์ทั้งหมดต้องการการทำงาน และจังหวะที่ควรจะเป็น ดังนั้นจึงเป็นเรื่องดีที่จะคำนึงถึงกฎบางอย่างเมื่อสำรวจความซับซ้อนของการเป็นมนุษย์ที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์อีกคนหนึ่ง มาดูกันว่ากฎทอง 9 ข้อของความสัมพันธ์ที่ดีที่ควรยอมรับ นั้นมีอะไรที่น่าเอาไปปรับใช้กันได้บ้าง

?1. สร้างความปลอดภัยทางอารมณ์

กฎข้อหนึ่งของความสัมพันธ์ที่ดีคือการสร้างความปลอดภัยทางอารมณ์ Chris Gazdik, LCSW และผู้ก่อตั้งกล่าวสมาคมจิตบำบัดเมโทรลินากล่าว

ความปลอดภัยทางอารมณ์คืออะไร? อ้างอิงจากบทความในโรคจิตกลางโดย Sonya Matejko “ความปลอดภัยทางอารมณ์เป็นรากฐานของความรัก และความสัมพันธ์ที่ดี มันเกี่ยวกับการสร้างความไว้วางใจกับอีกคนหนึ่ง และรู้สึกปลอดภัยพอที่จะเปิดเผย และอ่อนแอกับพวกเขา”

ความรักที่ปราศจากความปลอดภัยทางอารมณ์เป็นสูตรสำหรับความผิดปกติ ดังนั้นการสร้างบรรยากาศของความไว้วางใจ และความเปราะบางไม่สามารถต่อรองได้สำหรับความสัมพันธ์ที่ดีแบบไดนามิก

?2. รับมือกับความไม่มั่นคงของคุณ

หากคุณสงสัยว่าจะทำอย่างไร ขั้นตอนแรกคือการรับมือกับความไม่มั่นคงส่วนบุคคลที่สามารถขับเคลื่อนได้รูปแบบความสัมพันธ์ที่ไม่แข็งแรง

นักวิจัย และนักจิตวิทยาคลินิก John Gottman พูดถึงสภาวะความไม่มั่นคงหลัก 2 ประการที่ผู้คนมักจะต้องเผชิญ: กลัวการกลืนกิน (ความคิดที่จะสูญเสียความเป็นตัวของตัวเอง) หรือกลัวการถูกทอดทิ้ง

Gazdik กล่าวว่า “การจัดการความไม่ปลอดภัยขั้นต้นเป็นสิ่งสำคัญต่อความสัมพันธ์ที่ดี “โดยผิวเผิน เราพูดถึงการสื่อสาร แต่สิ่งที่ต้องเกิดขึ้นจริง ๆ ก็คือให้ทั้งสองคนจัดการประสบการณ์ทางอารมณ์ภายในของพวกเขา เพื่อให้พวกเขาสามารถใช้ทักษะการสื่อสารที่อาจมีอยู่แล้ว แต่ถูกปิดใช้งานเนื่องจากความไม่มั่นคงหลักของพวกเขา”

การทำความเข้าใจว่าความกลัวที่จะถูกทอดทิ้ง หรือถูกกลืนกิน นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณมีความสัมพันธ์กับผู้อื่นหรือไม่นั้นเป็นสิ่งสำคัญ การรับมือกับความกลัวเหล่านั้นเพื่อไม่ให้รบกวนการสื่อสารที่ดีคือขั้นตอนต่อไป

?3. ซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกของคุณ

การซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกของคุณเป็นกฎความสัมพันธ์ที่สำคัญอีกข้อหนึ่งที่ต้องปฏิบัติตาม ไม่มีทางหลีกเลี่ยงหากคุณต้องการอยู่ในสหภาพที่ดีต่อสุขภาพ

“คู่ของคุณอาจจะฉลาด แต่พวกเขาไม่สามารถอ่านใจของคุณได้ตลอดเวลา ตัวคุณเองก็เช่นกัน พวกเขาจะไม่รู้ว่าอะไรรบกวนคุณ หรือคุณคาดหวังให้พวกเขาทำอะไรบางอย่าง เว้นแต่คุณจะบอกพวกเขา”

จริงอยู่ ความไม่มั่นคงหลักที่กล่าวถึงข้างต้นอาจทำให้การแสดงความรู้สึกของคุณโดยไม่ถูกเซ็นเซอร์เป็นเรื่องน่ากลัว จำไว้ว่า ความรู้สึกของคุณไม่ใช่ภาระ คู่ครองที่ห่วงใยคุณจะต้องการได้ยินว่ามีอะไรผิดปกติ และชื่นชมในความซื่อสัตย์ของคุณ

?4. เผชิญกับความขัดแย้งแบบตัวต่อตัว

การเผชิญหน้ากับความขัดแย้งเป็นสิ่งสำคัญ “การหลีกเลี่ยงปัญหาในความสัมพันธ์ของคุณไม่ได้ทำให้ปัญหาทุกอย่างหมดไป โดยปกติแล้วจะนำไปสู่ความไม่พอใจ การถอนตัว หรือความเลวร้ายที่เติบโตเป็นภูเขา” ดังนั้น “การพูดคุยเกี่ยวกับปัญหาอย่างตรงไปตรงมา และให้เกียรติกัน ช่วยให้คุณรู้สึกปลอดโปร่ง และทำงานร่วมกันเพื่อแก้ปัญหาเหล่านั้น” เมื่อมีปัญหาก็ต้องแก้ไขให้ตรงจุด อย่าเอาแต่เงียบนิ่งแล้วทิ้งปัญหาไว้จนเกิดการสะสมในใจ จนยากที่จะแก้ไข หรือมันอาจจะสายเกินไปที่จะแก้ไข

?5. แสวงหาความเข้าใจ

ความขัดแย้งที่มีประสิทธิผลขึ้นอยู่กับหลักการสำคัญ: การพยายามทำความเข้าใจซึ่งกันและกันแทนที่จะพยายามทำในสิ่งที่ถูกต้อง

แม้ว่าการเปิดใจกว้างท่ามกลางความไม่ลงรอยกันอาจเป็นเรื่องที่ท้าทาย แต่การสละเวลาเพื่อรับฟังความคิดเห็นของกันและกันแทนที่จะกระโดดเข้าร่วมเพื่อพิสูจน์ประเด็นคือกฎความสัมพันธ์ที่พลิกเกมที่ต้องยอมรับ จำไว้ว่าคุณไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยกับบางสิ่งเพื่อทำความเข้าใจกับอารมณ์นั้นๆ บางครั้งมันต้องคิดถึงใจเขาใจเรา แล้วจัดการอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัย ไม่ว่าจะเป็นตัวคุณ หรือคู่ของคุณก็ตาม

?6. ไม่เห็นด้วยอย่างสุภาพ

พูดถึงความขัดแย้งเป็นสิ่งสำคัญที่จะต่อสู้อย่างยุติธรรม. ความเคารพควรคงที่แม้ในท่ามกลางการโต้เถียงที่ตึงเครียด

“ในความสัมพันธ์ที่ดี คุณยังคงรู้สึกว่าคนรักของคุณเคารพ และห่วงใยคุณ แม้ว่าพวกเขาจะไม่เห็นด้วย แต่คุณก็ยังรู้สึกเคารพพวกเขา ไม่มีการดูหมิ่น ดูแคลน คำพูดเชิงก้าวร้าวหรือคำขู่ใดๆ”

ตามหลักการแล้ว คุณแก้ไขข้อขัดแย้งด้วยการหาทางประนีประนอม และแม้ว่าจะเป็นไปไม่ได้ แต่คุณก็ยังรู้สึกปลอดภัย อย่างที่บอกไปข้างต้นว่าทุกๆความสัมพันธ์ต้องทำความเข้าใจร่วมกัน

?7. ยอมรับซึ่งกันและกันในสิ่งที่คุณเป็น

การรัก และยอมรับตัวตนที่พวกเขาเป็นคือพื้นฐานของความสัมพันธ์ที่ดี ผู้คนมักประสบปัญหาเมื่อพวกเขาพยายามให้คู่รักทำตามสคริปต์ หรือเป็นไปตามความคาดหวังที่อยากจะให้เป็น

“ความสัมพันธ์ที่ดีมีรากฐานมาจากความรักซึ่งกันและกันตามความเป็นจริง ข้อบกพร่อง และทุกอย่าง ไม่ใช่ความรักในอุดมคติ” …“ถ้าคุณวางคู่ของคุณไว้บนความคาดหวัง คุณจะพบกับความคับข้องใจ และความผิดหวัง หากคุณพยายามเปลี่ยนพวกเขาโดยที่พวกเขาไม่ต้องการเปลี่ยน พวกเขาจะรู้สึกไม่พอใจ และเจ็บปวด”

?8. ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

ดังนั้นคุณจึงไม่สามารถ และไม่ควรพยายามบังคับให้คู่ของคุณเปลี่ยนแปลง อย่างที่กล่าวไป สิ่งเดียวที่คงที่ในชีวิตคือการเปลี่ยนแปลง ผู้คนมีวิวัฒนาการ คุณและคู่ของคุณก็เช่นกัน

“ความสนใจ งานอดิเรก และความสัมพันธ์ภายนอกของคุณจะเปลี่ยนไป คุณหรือคู่ของคุณอาจเผชิญกับความเจ็บป่วยทางจิต การเสพติด ความโศกเศร้า และอื่นๆ อีกมากมาย”

ตามที่บอกไปว่า ถ้าหากคุณมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการเติบโตของกันและกัน — และสนับสนุนในช่วงเวลาที่ยากลำบาก— คุณจะสามารถรักษาความสัมพันธ์ของคุณให้มีความสุข และแข็งแกร่งได้ เป็นกฎที่ดีที่จะนำมาใช้

?9. มีความเห็นอกเห็นใจ

แม้ว่าคุณจะรัก และยอมรับซึ่งกันและกัน แต่คุณก็จะมีช่วงเวลาที่รู้สึกหงุดหงิดกับนิสัยใจคอ และข้อบกพร่องบางอย่างของอีกฝ่าย คุณจะผิดหวังซึ่งกันและกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ด้วยเหตุผลดังกล่าว ความเห็นอกเห็นใจจึงเป็นส่วนประกอบสำคัญของความสัมพันธ์ที่ดี

“ความเห็นอกเห็นใจมีอยู่หลายวิธี เช่น ในวงจรการขอโทษ และการให้อภัย” เมื่อใดก็ตามที่คุณถูกล่อลวงให้วิจารณ์หรือตัดสินคู่ของคุณ ให้จำกฎพื้นฐานนี้ไว้ และใช้ความเมตตาให้เขา

ท้ายที่สุดแล้วความรักมีหลายรูปแบบ บางครั้งมันก็ท้าทาย และบางครั้งก็ยุ่งเหยิง แต่ถ้าคุณคำนึงถึงกฎทองข้างต้นทั้ง 9 ข้อที่เราหยิบยกมาในวันนี้ คุณจะส่งเสริมเงื่อนไขที่จำเป็นสำหรับความสัมพันธ์ที่ดีได้ไม่มากก็น้อย มันอาจจะไม่ได้ใช้ได้ดีในกับบางสถาณการณ์ หรือกับบางคู่ แต่อย่างน้อยๆ มันก็เป็นแนวทางที่ดีในการจะเอาไปปรับใช้กับความรักความสัมพันธ์ เพื่อให้มันเป็นไปในทิศทางที่ดี

#lover #relationship #date #dating #ความรัก #ความสัมพันธ์ #การเดท #SEX #PASSION #เป้าหมายของชีวิต #การดูแลความสัมพันธ์ #ความสัมพันธ์ #ความรัก #แฟนเก่า #ความรัก #relationship