ในยุคสมัยใหม่ การที่ใครสักคนคิดจะเริ่มต้นทำธุรกิจเล็กๆ มีกิจการเป็นของตัวเองนั้น ถือเป็นสิ่งที่ดี เพราะอาชีพงานประจำในตอนนี้อาจไม่มั่นคงต่อไป และด้วยลักษณะงานประจำที่เป็นอยู่เช่นทุกวันนี้ก็ต้องบอกเลยว่าทำให้เราร่ำรวยได้ยาก 

ดังนั้นใครที่อยากมีฐานะร่ำรวย มั่นคง เป็นอาเสี่ย อาเฮีย ก็ต้องกล้าเสี่ยง กล้าลองมามีกิจการเป็นของตัวเองกันหน่อย แต่การเข้ามาเปิดกิจการเป็นของตัวเองแบบไม่ดูตาม้า ตาเรือ ขาดการไตร่ตรองให้รอบคอบนั้น ก็มีโอกาสที่จะเจ๊งได้ง่ายเช่นกัน

การจะเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จทางธุรกิจให้สูงขึ้นได้นั้น เราจะเป็นต้องรู้ความต้องการของตลาด หรือพูดง่ายๆ ก็คือจับเทรนด์ให้ถูกนั่นเอง การที่เรารู้จักเกาะเทรนด์ไว้ ก็จะช่วยให้เราเบาแรงในการทำธุรกิจ สามารถหาลูกค้าก็หาง่ายขึ้น ดังนั้นเพื่อไม่เป็นการเสียเวลา วันนี้เราจะขอแนะนำให้เพื่อนๆ ได้รู้จักเทรนด์ธุรกิจที่กำลังมาแรง และจะมีอนาคตอีกยาวไกลไม่น้อยกว่า 10 ปี นับจากนี้ จะมีอะไรบ้าง มาดูกันเลย

การศึกษาออนไลน์ (Online Education)

ทุกวันนี้รูปแบบการศึกษาแบบเดิมๆ ในอดีตถูกให้ความสำคัญน้อยลง เพราะนอกจากจะเป็นร่ำเรียนที่ยืดยาว กินเวลาเป็นสิบๆ ปี แต่ทักษะที่ได้สำหรับใช้ประกอบสัมมาอาชีพนั้นกลับน้อยนิด เด็กจบใหม่จากระบบการศึกษาแบบเดิม เมื่อเข้าทำงานก็แทบเรียกได้ว่าต้องเข้าไปเรียนรู้งานใหม่ทั้งหมด เสียเวลาอีกนานมากกว่าจะเก่ง

ดังนั้นนักธุรกิจเจ้าของกิจการรุ่นใหม่ จึงแทบไม่ให้ความสำคัญต่อใบปริญญาเลย CEO ระดับโลก ทั้งจาก Google และ Tesla ต่างประสานเสียงกันไม่สนใจว่า “ว่าที่พนักงานจะมีใบปริญญาหรือไม่ สนแค่ว่าพวกเขาทำอะไรให้เราได้บ้าง ณ วันที่เข้ามาสมัครงาน” ด้วยเหตุนี้ การศึกษาออนไลน์ ที่เน้นด้านทักษะวิชาชีพให้พร้อมใช้งาน จึงจะเป็นอีกหนึ่งธุรกิจยอดฮิต ที่สามารถทำเงินได้มาก เช่นหากคุณต้องการเก่ง คอมพิวเตอร์กราฟิก, โปรแกรมมิ่ง, เขียนแบบ หรือ พัฒนาซอฟต์แวร์ ในปัจจุบันคุณก็สามารถซื้อคอร์สออนไลน์เพื่อเรียนรู้ได้เลย  ด้วยเหตุนี้จึงมีการคาดการณ์กันว่า ตลาดการศึกษาออนไลน์จะโตได้อีก 87,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายใน 10 ปีข้างหน้านี้

ธนาคารดิจิตอล (Digital Banking)

ในปัจจุบันสังคมเงินสดเริ่มแปรรูปไปอยู่ในรูปแบบสังคมไร้เงินสด การสัมผัสเงินในรูปแบบ แบงค์ หรือเหรียญ จึงเริ่มลดน้อยลงเรื่อยๆ อีกทั้งการระบาดของโควิด ที่ทำให้ชาวโลกต้องลดการสัมผัสเงิน ก็ยิ่งทำให้สังคมไร้เงินสดเติบโตรวดเร็วขึ้นไปอีก

เทคโนโลยีการเงิน หรือ Fintech จึงเติบโตอย่างก้าวกระโดดและมีความซับซ้อนขึ้น ซึ่งมันไม่ได้ส่งเสริมแค่ระบบการทำธุรกรรมออนไลน์ และกระเป๋าตังค์อิเล็กทรอนิกส์เท่านั้น แต่ยังมีการมาของสกุลเงินดิจิตอลต่างๆ ซึ่งนับวันชาวโลกจะให้คุณค่ามากขึ้น ยิ่งกว่าทองคำเสียแล้ว ทำให้ปัจจุบันทั่วโลกมีบริษัทสตาร์ทอัพหน้าใหม่ๆ เข้ามาร่วมเล่นในธุรกิจ FinTech มากมาย จึงมีการคาดการณ์กันว่าธุรกิจนี้จะเติบโตได้อย่างยั่งยืนไม่มีที่สิ้นสุด

5G อินเตอร์เน็ต (Internet 5G)

ปัจจุบันหลายประเทศทั่วโลกกำลังทยอยเข้าสู่เทคโนโลยีอินเตอร์เน็ต 5G ที่เร็วกว่า 4G กว่าพันเท่า และกำลังอยู่ในช่วงวิจัยพัฒนาอินเตอร์เน็ต 6G ด้วย จึงคาดการณ์ได้ว่าอินเตอร์เน็ต 5G จะให้บริการชาวโลกอย่างน้อยๆ ก็ไม่ต่ำกว่า 5 ปีนับจากนี้

การมาของอินเตอร์เน็ต 5G จะทำให้เกิดธุรกิจต่างๆ ตามมามากมาย เพราะด้วยอินเตอร์เน็ตที่เร็วขึ้น ก็สามารถทำอะไรได้มากขึ้น อะไรที่ไม่สามารถทำได้ในสมัยก่อน ตอนนี้ก็ทำได้แล้ว ยกตัวอย่างเช่น เทคโนโลยี Internet of Thing ที่มาพร้อมกับ 5G จะก่อให้เกิด บ้านอัจฉริยะ (Smart Home), เมืองอัจฉริยะ (Smart City), ระบบจัดการพลังงานอัจฉริยะ (Smart Grid) และ ยานยนต์ไร้คนขับ เป็นต้น

บริการสุขภาพทางไกล (Telehealth and Home Medical Services)

ซึ่งก็คือการให้บริการทางการแพทย์จากระยะไกล ไม่ว่าจะเป็นการให้คำปรึกษา ตรวจโรค วินิจฉัยโรค สั่งยา รวมถึงการรักษาทางไกลด้วย ซึ่งตอนนี้เราจะเห็นได้ว่าเทคโนโลยีนี้ทำให้แพทย์สามารถผ่าตัดทางไกลได้แล้ว

แต่ที่ไกลตัวเราที่สุด ที่คนไทยทุกคนสามารถจับต้องได้ไม่ยากแล้วตอนนี้ก็คือการให้บริการปรึกษาด้านสุขภาพ และวินิจฉัยโรคต่างๆ ผ่านแอปพลิเคชั่นนั่นเอง

ด้วยสังคมที่รีบเร่ง ร่วมกับอินเตอร์เน็ตที่พัฒนาอย่างก้าวกระโดด ทำให้ธุรกิจนี้มีอนาคตที่ดีอย่างยั่งยืน ไม่ต่ำกว่า 10 ปีอย่างแน่นอน

ธุรกิจค้าขายออนไลน์ (E-Commerce)

จะว่าไปแล้วธุรกิจนี้ก็ปังมาได้ไม่ต่ำกว่า 10 ปีก่อนหน้านี้แล้ว การันตีได้จากการเติบโตของบริษัทอีคอมเมิร์ซใหญ่ๆ ระดับโลก เช่น Amazon, Alibaba, Shopee, Lazada และอื่นๆ อีกมากมาย ที่ไม่ว่าใครจะเข้ามาจับธุรกิจนี้ต่างก็ร่ำรวย ปังปุริเย่ไปตามๆ กัน

การเติบโตของธุรกิจนี้จะไม่หยุดลงเพียงเท่านี้ แต่จะเติบโตก้าวหน้าไปเรื่อยๆ อย่างยั่งยืนด้วยแพลตฟอร์มการค้าขายออนไลน์รูปแบบใหม่ๆ ที่มีการพัฒนาขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง

ธุรกิจหุ่นยนต์ และการควบคุมอัตโนมัติ (Robotic and Automatic Control)

แม้ว่าปัจจุบันเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์จะก้าวเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันเรามากขึ้น แต่ก็ยังไม่เท่ากับ หุ่นยนต์บื้อๆ รวมถึงโปรแกรมควบคุมอัตโนมัติต่างๆ ที่แทบจะมีบทบาทในทุกๆ ส่วนของชีวิตประจำวันเราแล้ว

ตัวอย่างที่มีให้เห็นชัดเจน เช่น โรงงานใหญ่ๆ ที่แทนที่แรงงานด้วยแขนกล, ตู้ขายของอัตโนมัติ ที่เข้ามาแย่งงานพ่อค้า แม่ค้า รวมถึงสะดวกซื้อ Express ต่างๆ เป็นต้น จะเห็นได้ว่าตอนนี้เครื่องจักรทุกอย่างบนโลกสามารถใส่ระบบอัตโนมัติเข้าไปให้มันสามารถสั่งการได้ด้วยเสียง, กดปุ่ม รวมถึงตอบสนองจากการตรวจจับด้วยเซ็นเซอร์ต่างๆ ได้แล้ว ใครที่มีความรู้ด้านนี้ ก็สามารถเข้ามาจับธุรกิจนี้ ผลิตสินค้าและบริการต่างๆ มากมาย เพื่อตอบสนองความต้องการของสังคม

ธุรกิจอาหาร (Food Tech)

ปิดท้ายด้วยธุรกิจอาหาร ซึ่งเรามองออกได้ไม่ยากเลยว่าธุรกิจนี้จะเป็นที่ต้องการของโลกตลอดไป ใครที่เข้ามาจับธุรกิจนี้จะเติบโตได้อย่างยั่งยืน  

เห็นได้ชัดว่าโลกของเราทุกวันนี้ประสบปัญหาประชากรล้นโลก ในขณะที่สิ่งแวดล้อมเลวร้าย โลกร้อน สภาพอากาศแปรปรวน การผลิตอาหารโดยพึ่งพาลมฟ้าอากาศแบบสมัยก่อนจึงเป็นเรื่องที่ทำได้ยากแล้ว ทำให้ตอนนี้การผลิตอาหารหลายชนิดต้องใช้เทคโนโลยีเข้าช่วย ทั้ง ประมง กสิกรรม และปศุสัตว์

และนี่ก็คือ 7 เทรนด์ธุรกิจอนาคตไกลสำหรับคนรุ่นใหม่ที่เราอยากแนะนำให้ชาว The Macho ทุกคนรู้จักในครั้งนี้ ก็หวังว่าจะเป็นที่ชื่นชอบถูกใจสำหรับคนที่กำลังมองหาธุรกิจทำกันทุกคน หลังจากที่ได้อ่านจบไป ใครมีสกิลเชี่ยวชาญใน 7 เทรนด์ที่เราได้นำเสนอไปนี้ โอกาสเป็นของคุณแล้ว อยู่ที่คุณจะกล้าทำฝันให้เป็นจริงหรือไม่ ถ้ากล้า ก็จงลุกมาทำธุรกิจกันครับ