แม้ปัญหาความวุ่นวายของ “สิงห์บลู” เชลซี จะคลายไปได้เปราะนึง หลังพวกเขาสามารถจบอันดับ 3 ตีตั๋วไปเล่นยูฟ่า แชมป์เปียนส์ ลีก ซีซั่นหน้าแน่นอน ไม่ว่าผลการแข่งขันนัดชิงยูโรป้าจะลงเอยแบบไหนก็ตาม

แต่ถ้าลองมองลึกลงไปถึงปัญหาการเตรียมทีมฤดูกาลหน้าแล้ว เชลซียังมีอุปสรรคมากมายรออยู่ ทั้งเรื่องของผู้จัดการทีมที่ยังไม่แน่นอนว่า “เมาริซิโอ ซาร์รี่” จะได้คุมทีมต่อไปหรือไม่ หลังมีปัญหาในรั้ว สแตมฟอร์ด บริดจ์ มาตลอดซีซั่น และทีมยักษ์ใหญ่ในเซเรีย อา ทั้งโรม่า, เอซี มิลาน และยูเวนตุส ต่างก็กำลังตามหากุนซือคนใหม่ ที่พร้อมให้เสียบ

นอกจากนั้น ปัญหาเรื่องการเสริมทัพซึ่งส่อเค้าว่าจะโดนแบนซื้อตัวนักเตะ 2 ตลาดซื้อขาย บวกกับการเตรียมตัวเสียนักเตะระดับแนวหน้าของทีมอย่าง “เอแดน อาซาร์” ไป ก็ทำให้ “เสี่ยหมี”​ โรมัน อบราโมวิช และทีมงานต้องปวดหัวกันอีกหลายตลบ

แต่ท่ามกลางปัญหามากมาย มันก็ยังพอมีแสงสว่างให้เห็นอยู่เสมอ เพราะถ้านับในระดับเยาวชนแล้ว เชลซีเป็นมหาอำนาจของเกาะอังกฤษแบบไม่เป็นสองรองใคร เพราะพวกเขาสะสมนักเตะดาวรุ่งคุณภาพไว้มากมาย จนสามารถปล่อยยืมในซีซั่นที่ผ่านมาได้มากกว่า 40 คน

เมื่อซื้อตัวไม่ได้ การดึงเหล่านักเตะตัวยืมเหล่านี้กลับสู่ทีม จึงอาจเป็นทางออกที่ให้ผลลัพธ์ดีกว่าที่คาด ซึ่งในบรรดานักเตะมากมายที่ถูกปล่อยยืม มันมีตัวทีเด็ดที่น่าพูดถึงกันตามนี้

เคิร์ท ซูม่า (ยืมไป เอฟเวอร์ตัน)

กองหลังวัย 24 ปี ถูกคาดหวังไว้สูงนับตั้งแต่ย้ายมาจากแซงต์​ เอเตียน เมื่อปี 2014 น่าเสียดายที่พอเริ่มโผล่หน้าขึ้นสู่ทีมตัวจริงบ่อยๆ กลับต้องเจออาการบาดเจ็บเข่าเล่นงาน จนต้องพัก 6 เดือน และไม่สามารถกลับมาแย่งตำแหน่งตัวจริงในทีมเชลซีได้อีกเลย

ซีซั่น 2017/18 เขาถูกยืมไปสโต๊ค ฟอร์มก็ไม่โดดเด่นเท่าไหร่ จนคิดว่าจะหมดอนาคตซะแล้ว แต่เมื่อซีซั่นที่ผ่านมากับเอฟเวอร์ตัน ซูม่ากลับมาคืนฟอร์มเก่ง เล่นได้อย่างแข็งแกร่ง จนน่าจะพอเป็นกำลังเสริมที่ดีให้กับทีม ยิ่งกับกรณีที่อันเดรส คริสเตนเซ่น อยากย้ายออกไปหาตำแหน่งตัวจริง

ไม่ว่าซูม่าจะได้กลับมาลุ้นตัวจริง หรือท้ายสุดทีมอยากจะปล่อยตัวออกไป เชลซีก็ต้องได้ค่าตัวระดับเกิน 10-15 ล้านปอนด์ กลับมาแหละ

เมสัน เมาท์ (ดาร์บี้ เคาท์ตี้)

กองกลางดาวโรจน์วัยแค่ 20 ปี ทำผลงานในการยืมตัวได้ดีอย่างต่อเนื่อง 2 ซีซั่น ทั้งกับวิเทสส์ อาร์เน็ม ซีซั่นก่อน และดาร์บี้ เคาท์ตี้ ซีซั่นล่าสุด จนถูกดึงขึ้นไปซ้อมกับทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่แล้วถึง 2 ครั้ง 2 ครา

เมาท์เป็นกองกลางที่เล่นเกมรุกได้ดี มีสถิติยิงให้ทีมเกิน 10 ลูกทั้ง 2 ฤดูกาล น่าจะเป็นอะไหล่ชั้นดีหากเชลซีต้องการปรับเปลี่ยนแผงกลาง ทั้งการหมดสัญญายืมตัวของมาเธโอ โควาซิซ และความไม่แน่นอนของจอร์จินโญ่ ที่อาจจะเพิ่มขึ้น หากซาร์รี่ไม่ได้คุมทีมต่อ

แทมมี่ อับบราฮัม (แอสตัน วิลล่า)

กองหน้าหุ่นชะลูดวัย 21 ปี ขึ้นไปติดทีมชาติอังกฤษมาแล้ว โชว์ฟอร์มกับแอสตัน วิลล่า ทีมสุดท้ายที่ได้เลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีก ได้อย่างยอดเยี่ยม ยิงในลีก 25 ประตู​ เป็นรองดาวซัลโว พร้อมกับมีชื่อติดทีมยอดเยี่ยมของศึกแชมเปียนชิพ อีกต่างหาก

จุดเด่นของแทมมี่ คือการเล่นเป็นศูนย์หน้าตัวเป้า ซึ่งน่าจะเป็นอีกมิติที่เชลซีต้องการในอนาคต แม้ทีมจะต่อสัญญากับโอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ออกไปอีก 1 ฤดูกาล แต่ก็เป็นที่แน่นอน ว่าพวกเขาจะไม่ปล่อยแทมมี่ออกไป และน่าจะมีโอกาสลงเล่นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในซีซั่นหน้าด้วย

โอลา ไอน่า (โตริโน่)

แบ็คที่เด่นเกมรุกรายนี้ เกิดที่ลอนดอน แต่ปัจจุบันเลือกเล่นให้ทีมชาติไนจีเรียไปเรียบร้อย ซีซั่นล่าสุด ไอน่าย้ายแบบยืมตัวไปเล่นกับโตริโน่ ในเซเรีย อา แม้จะไม่ได้ลงตัวจริงต่อเนื่องโดยตลอด แต่เขาก็พิสูจน์ฝีเท้าได้ดี และน่าจะเข้ามาทดแทนตำแหน่งแบ็คที่ยังไม่นิ่งของเชลซีได้

แบ็คขวาตัวจริงของเชลซีในปัจจุบันเป็นของเซซาร์ อัซปลิกูเอต้า หลังวิคเตอร์ โมเสส ดูจะหมดอนาคตกับทีม ส่วนดาวิเด้ ซัปปาคอสต้า ก็ดูจะได้รับโอกาสเล่นน้อยเกินไป อาจมีแนวโน้มย้ายทีมในซัมเมอร์นี้

เคนเนดี้ (นิวคาสเซิล)

แนวรุกริมเส้นบราซิเลี่ยน ถูกยืมตัวไปอยู่กับนิวคาสเซิล ในช่วง 1 ฤดูกาลครึ่งที่ผ่านมา ผลงานของเขายังลุ่มๆ ดอนๆ มีทั้งช่วงที่ยึดตำแหน่งตัวจริงได้ และช่วงที่ฟอร์มฝืด ต้องตกไปเป็นตัวสำรอง

อย่างไรก็ดี ในซีซั่นใหม่ที่เชลซีไม่อาจซื้อตัวเพิ่มเติมได้ โอกาสของเคนเนดี้อาจจะมีมากขึ้น เพราะอาการบาดเจ็บของคัลลัม ฮัดสัน-โอดอย และรูเบน ลอฟตัส-ชีค ที่น่าจะไม่พร้อมทันช่วงออกสตาร์ทฤดูกาล

รีส เจมส์ (วีแกน)

อีกหนึ่งแคนดิเดทแบ็คขวาในอนาคตที่น่าติดตาม เจมส์ถือเป็นขาประจำของทีมชาติอังกฤษชุดยู-19 ต่อเนื่องด้วยยู-20 โดยผลงานของเขากับวีแกนในการยืมตัวซีซั่นล่าสุดจัดว่าโดดเด่น เพราะเขาสามารถคว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของสโมสรเลยทีเดียว

มองโดยภาพรวม ซีซั่นหน้าอาจจะยังไม่ถึงเวลาของเขา และมีสิทธิ์ถูกยืมตัวไปยังสโมสรอื่นอีก หากทีมเลือกจะใช้บริการของโอลา ไอน่า ขึ้นมาซัพพอร์ตตัวจริง ทำให้เขาน่าจะต้องรอโอกาสแจ้งเกิดต่อไป หลังมาอยู่กับเชลซีตั้งแต่อายุ 7 ขวบ เป็นมาแล้วทั้งแชมป์เอฟเอ ยูธ คัพ 2 สมัย และเป็นดาวรุ่งยอดเยี่ยมของอคาเดมี่ในซีซั่น 2017/18 อีกด้วย

เจค คาล์ก-สเลเตอร์ (วิเทสส์ อาร์เน็ม)

กองหลังตัวกลางดาวรุ่งวัย 21 ปี ซึ่งเคยประเดิมสนามทีมชุดใหญ่ไปแล้วตั้งแต่ปี 2016 พร้อมได้รับคำชมจากจอห์น เทอร์รี่ ว่าเขาจะสามารถพัฒนาตัวเอง และอาจกลายเป็นตัวแทนของอดีตกัปตันสิงห์บลูในอนาคต

แม้การยืมตัวหลังจากปี 2016 จะไม่ประสบความสำเร็จนัก แต่เขาก็กลับมาสร้างผลงานที่โดดเด่นได้อีกครั้งเมื่อซีซั่นที่ผ่านมากับวิเทสส์ อาร์เน็ม ทีมพันธมิตรของสิงห์บลู ที่ใช้บริการยืมตัวนักเตะดาวรุ่งไปเล่นเป็นประจำ โดยเจคลงสนามให้วิเทสส์ 36 นัด เป็นตัวหลักสำคัญของทีมในลีก

ฟิคาโย่ โทโมรี่ (ดาร์บี้ เคาท์ตี้)

กองหลังตัวกลางที่เกิดที่แคนาดา เป็นหนึ่งในสมาชิกทีมชาติอังกฤษชุดยู-20 ที่ได้แชมป์โลกเมื่อปี 2017 ร่วมกับนักเตะสังกัดสิงห์บลูอย่าง เจค คาล์ก-สเลเตอร์ และโดมินิค โซลันกี้ ที่ต่อมาย้ายไปร่วมทีมลิเวอร์พูล (ตอนนี้ไปอยู่บอร์นมัธแล้ว)

โทโมรี่ มีฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมกับดาร์บี้ของแฟรงค์ แลมพาร์ด เขาได้รับเลือกเป็นนักเตะยอดเยี่ยมของสโมสร ลงเล่นให้ทีมในทุกถ้วยถึง 55 นัด ความแข็งแกร่งของเขา พาดาร์บี้ได้ลุ้นตั๋วเลื่อนชั้นจนหยดสุดท้าย แม้จะพลาดท่าให้วิลล่าในที่สุด

โอกาสของโทโมรี่ในซีซั่นถัดไป ขึ้นอยู่กับนักเตะคนอื่นในตำแหน่งเดียวกัน ทั้งอนาคตของคริสเตนเซ่น และซูม่า รวมถึงการเลือกใช้งานเพื่อนร่วมรุ่นอย่าง เจค คาล์ก-สเลเตอร์ ด้วย

เทรวอร์ ชาโลบาห์ (อิปสวิช)

กองกลางที่สามารถถอยลงมาเล่นกองหลังได้รายนี้ อายุแค่ 19 ปีเท่านั้น โดยเขาเป็นน้องของนาธาเนียล ชาโลบาห์ อดีตนักเตะสิงห์บลูที่ปัจจุบันย้ายไปร่วมทีมวัตฟอร์ดแล้ว

ชื่อของชาโลบาห์คนน้อง ถูกพูดถึงอย่างเซอร์ไพรส์ตั้งแต่รอบชิงเอฟเอ คัพในปี 2018 ซึ่งอันโตนิโอ คอนเต้ เลือกเขาเป็นหนึ่งในตัวสำรอง ซึ่งท้ายที่สุดเชลซีชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไป 1-0

ฤดูกาลที่ผ่านมา ชาโลบาห์ย้ายไปร่วมทีมอิปสวิชแบบยืมตัว ลงเล่นมากถึง 43 นัด ทำได้ 2 ประตู รวมถึงเข้าไปเป็นขาประจำในอังกฤษชุดเล็กยู-20 ไปเป็นที่เรียบร้อย

นั่นล่ะฮะ นี่แค่ 9 ราย จากรายชื่อกว่า 40 คนที่สิงห์บลูเขาปล่อยยืมตัวไป ยังไม่รวมพวกที่อาจจะย้ายออกถาวรในอนาคตอันใกล้อย่าง ทิมูเอ้ บากาโยโก้ (เอซี มิลาน), มาริโอ พาซาลิซ (อตาลันต้า), เคนเน็ธ โอเมรูโอ้ (เลกาเนส) หรือพวกที่เอาแน่เอานอนไม่ได้อย่าง มิชชี่ บาสชูอายี่, ชาร์ลี่ มูซอนด้า หรือดาวรุ่งตลอดกาล ลูคัส เปียซอน ที่ถูกยืมตัวกันจนลืม

ดังนั้น แม้อาจจะฟังดูขัดๆ ที่เชลซีจะหวนมาใช้นักเตะปล่อยยืมของตัวเอง มากกว่าทุ่มเงินซื้อเข้ามา แต่ด้วยปัญหาต่างๆ ก็ทำให้โอกาสในแนวทางนี้ดูจะเมคเซ้นส์ขึ้นมาเยอะเลย

และถ้าหากเชลซีจะมาทางนี้จริงๆ การคุมทีมสิงห์บลูยุคใหม่ ก็อาจจะต้องการคนที่เข้ามาปลุกสปิริตของทีม และเหล่าดาวรุ่ง โดยไม่ต้องแคร์นักเตะระดับสตาร์มากเท่าเดิม

ชื่อที่อาจจะเหมาะหากซาร์รี่ไม่ได้อยู่คุมทีมต่อในซีซั่นหน้า ก็น่าจะลงเอยลงตัวที่ “แฟรงค์ แลมพาร์ด” ตำนานของทีม ได้อยู่เหมือนกัน

Picture : Derby Telegraph, Daily Express, Metro, Sportskeeda, Eurosport, Read Chelsea, Mirror, 90Min, Pulse.ng, Sky Sports, Number of Things, De Gelderlander, Derby County, Football League World, Fox Sports