5 วิธีการประท้วงสุดครีเอทีฟจากทั่วโลก - The Macho
 
Roral Enfield - Hunter 350
728x150 - Nissan Almera
728x150 - Hunter4
5 วิธีการประท้วงสุดครีเอทีฟจากทั่วโลก

การประท้วงเป็นสิ่งที่มีมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่การเกิดขึ้นของรูปแบบการปกครองและสังคม ศาสตร์แห่งการต่อต้านผู้มีอำนาจโดยผู้อยู่ใต้อำนาจมีการวิวัฒนาการมาอย่างต่อเนื่องให้เข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป บางการประท้วงก็สามารถสร้างแรงกระเพื่อมและสร้างการเปลี่ยนแปลงได้จริง แต่ก็มีหลายครั้ง ที่ผลการประท้วงเป็นไงอาจไม่น่าสนใจเท่า “วิธีการประท้วง” ที่นำเสนอออกมา และนี่คือตัวอย่าง 7 วิธีประท้วงสุดครีเอทีฟจากทั่วโลก อ่านเอาไว้เป็นข้อมูล ถ้าเขาไม่ให้วิ่ง ก็ไม่ใช่ปัญหา

1.ใช้ตุ๊กตาประท้วงแทน

จริงอยู่ที่ประเทศรัสเซียเป็น 1 ในมหาอำนาจของโลก แต่ก็เป็นประเทศที่มีการจำกัดสิทธิมากมายเช่นเดียวกัน ทำให้นักเคลื่อนไหวชาวรัสเซียต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์มากขึ้นในการสร้างการประท้วง และนี่คือผลที่ได้

ปี 2012 ในเมืองบาร์นาอูล ประเทศรัสเซีย ผู้คนที่นั่นถูกสั่งห้ามไม่ให้ออกมาประท้วงหรือเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีรัสเซียที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งประชาชนจำนวนไม่น้อย มีความเคลือบแคลงใจถึงความโปร่งใสในการเลือกตั้งครั้งนี้ ที่ดูเหมือนจะเปิดทางให้ วลาดิเมียร์ ปูติน ได้ครองตำแหน่งอีกครั้ง ประชาชนกลุ่มหนึ่งในเมือง บาร์นาอูล (ที่ถูกห้ามไม่ให้ออกมาประท้วง) จึงเกิดหัวใส นำตุ๊กตา ของเล่น เลโก้ พร้อมติดป้ายประท้วงถึงความไม่โปร่งใสของการเลือกตั้งมาวางไว้ที่พื้นที่สาธารณะ เพื่อเป็นตัวแทนในการประท้วงนั่นเอง ซึ่งทำให้ตำรวจในพื้นที่ถึงกับกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ต้องไปร้องอัยการให้วินิจฉัยว่าผิดกฎหมายไหม แหม่ อยากจับน้องหมีเข้าคุกขนาดนั้นเลยรึคุณตำรวจ

2. ปล่อยบอลลูนพร้อมข้อความจี๊ดๆ

ในปี 2015 ได้มีการประชุม G7 หรือการประชุม Group of Seven ที่ประกอบด้วยกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก ทั้ง 7 (แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร และสหรัฐฯ) โดยมีจุดประสงค์ในการประสานความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการผลิต ในปีนั้นจัดขึ้นที่เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมัน ซึ่งช่วงนั้น ภาวะเศรษฐกิจโลกก็ลุ่มๆ ดอนๆ ปัญหาความยากจน (รวยกระจุก จนกระจาย) เกิดขึ้นเป็นวงกว้าง ซึ่งหลายฝ่ายก็จับตาดูการประชุมครั้งนี้ว่าจะมีแนวทางในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างไร เพื่อเป็นการกระตุ้น (ปนกระทุ้ง) นักเคลื่อนไหวกลุ่มหนึ่งจึงเกิดไอเดีย นำบอลลูนรูปใบหน้าผู้นำโลกที่เข้าร่วมประชุม ปล่อยขึ้นฟ้าพร้อมข้อความว่า “G7 ที่รัก อย่าเป็นแค่ล้มร้อนๆ ที่ไร้ประโยชน์ ทำอะไรจริงจังเพื่อแก้ปัญหาความยากจนซักทีเหอะ!”

3. เอาสวนไป ปลูกต้นไม้กลางถนนมันซะเลย

ในปี 1999 นายกเทศมนตรีนิวยอร์ก Rudolph Giuliani ได้มีนโยบายปราบปรามอาชญากรรมและคนไร้บ้านที่ระบาดทั่วกรุงนิวยอร์ก โดยเขามองว่า สวนสาธารณะ กลายเป็นที่มั่วสุม และแหล่งก่ออาชญากรรม ดังนั้นเขาจึงทำการ นำสวนสาธารณะ 198 แห่งในนิวยอร์กมาประมูลให้แก่บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อใช้สร้างบ้านโดยที่ไม่ถามความเห็นของประชาชนสักคำ หลังจากที่มีการนำรถแบคโฮไปถางเพื่อปรับที่ดินในสวนสาธารณะ ประชาชนจึงเริ่มคิดวิธีการประท้วง ซึ่งวิธีที่ได้ก็คือ คุณเอาพื้นที่สวนไปใช่ไหม งั้นเราสร้างพื้นที่สวนเอง โดยผู้ประท้วงได้ทำการนำดินมาถมที่และปลูกต้นไม้บริเวณกลางถนนมันเสียเลย ซึ่งการปลูกต้นไม้ครั้งนี้ ส่งผลให้ Rudolph Giuliani ต้องกลับไปตั้งหลักและล้มแผนพัฒนาที่ดินของตัวเอง และชาวนิวยอร์กก็ได้สวนคืน

4. ใส่กระโปรง ประท้วงความรุนแรงทางเพศ

ในปี 2015 มีเหตุสะเทือนขวัญที่สั่นสะเทือนไปทั่วอินเดีย เมื่อนักศึกษาสาวมหาลัยอายุ 23 ปี ถูกข่มขืนบนรถบัสในกรุงนิวเดลี และเมื่อมีข่าวข่มขืน หลายคนก็มักโทษว่า “เครื่องแต่งกาย” เป็นสาเหตุหลักของการข่มขืน หลายคนโทษว่าการแต่งตัววับๆแวมๆ และล่อแหลมของผู้หญิง ถือเป็นการยั่วยวนให้เกิดการข่มขืนขึ้น ยิ่งเป็นประเทศที่สิทธิสตรีค่อนข้างถูกจำกัดอย่างอินเดียแล้วด้วย ทำให้คำพูดดังกล่าวดูจะมีมูล ทำให้ชายหนุ่มชาวอินเดียกลุ่มหนึ่งไม่เห็นด้วย จึงออกมาเคลื่อนไหวต่อต้าน ซึ่งวิธีการก็คือ ใส่กระโปรงโชว์มันซะเลย เพื่อแสดงให้เห็นว่า การแต่งกายไม่ใช่ต้นเหตุของการข่มขืน และช่วยโฟกัสไปที่สาเหตุจริงๆ ของมันเสียที

5. ล้างธงชาติ ล้างคอร์รัปชัน

คอร์รัปชันมีทุกที่ ไม่เว้นแม่แต่ในประเทศเปรู เมื่อปี 2000 ประธานาธิปดี Alberto Fujimori กำลังอยู่ในช่วงลงชิงตำแหน่งประธานาธิปดีอีกสมัย ซึ่งประธานาธิปดีเจ้าของเก้าอี้เดิมคนนี้ มีข่าวในเรื่องการใช้อำนาจและกฎหมายในมือเพื่อกำจัดคู่แข่งทางการเมืองมาโดยตลอด ชาวเปรูทั้งชายและหญิงที่ไม่เห็นด้วยในพฤติกรรมบ้าอำนาจของ Alberto Fujimori จึงได้ออกมาร่วมกันเคลื่อนไหวโดยการ ซักธงชาติ แสดงถึงการ ล้างสิ่งสกปรก (การเมืองของ Alberto Fujimori) ให้ออกไปจากประเทศแห่งนี้เสียที ซึ่งภายหลังไม่นาน Alberto Fujimori ก็ถูกจำคุกและตัดสินโทษในข้อหาสั่งฆ่า 25 ศพ อาจจะไม่ได้เกี่ยวกับการซักธงในครั้งนั้น แต่ก็มั่นใจได้ว่าประชาชนชาวเปรูน่าจะดีใจไม่น้อยเลยล่ะ

Text – Rinininn

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save