ปัจจุบันนี้ เกมหลาย ๆ เกม มีความซับซ้อนมากขึ้นกว่าเกมสมัยก่อนมาก ด้วยตัวเรื่องราวที่สามารถเล่าออกไปได้หลายทาง ประกอบกับระบบการเล่นที่ทำให้ตัวเกมยืดยาวออกไปอีกมาก แถมยังมีอะไรให้ทำมากมายที่นอกเหนือจากการดำเนินเรื่องธรรมดาๆ อีก สำหรับเกมบางเกม หลายๆ คนอาจคิดว่าใช้เวลา 20 ชั่วโมงขึ้นไป ก็ถือว่ายาวแล้ว แต่เกมบางเกมนั้น กว่าจะเคลียร์อะไรหลายๆ อย่างหมด บอกเลยว่าปาไป 100 กว่าชั่วโมง งั้นวันนี้ เราลองมาดูกันดีกว่าว่า 10 เกมที่ใช้เวลาในการเล่นนานมาก นานจนไม่ต้องเล่นเกมอื่นกันแล้ว มีเกมอะไรบ้าง ไปดูกันเลย

1. Persona 5

เกม RPG แนวอนิเมะที่ดูเผิน ๆ เหมือนจะไม่มีอะไร แต่บอกเลยว่าตัวเกมนั้น กว่าจะเล่นจบทุกสิ่งทุกอย่าง ปาไป 100 กว่าชั่วโมงเลยทีเดียว สำหรับการรับบทเป็น Joker ในการกำจัดเหล่าปิศาจร้าย ไม่มีใครคิดว่าตัวเกมจะสามารถยืดยาวเรื่องราวต่าง ๆ ออกไปได้มากมายขนาดนี้ นอกจากเนื้อเรื่องที่ยาวแล้ว ภารกิจเสริมต่าง ๆ ของตัวเกมก็มีให้ทำแบบไม่รู้จักหมดจักสิ้นอีก บอกเลยว่าซื้อเกมนี้มาแค่เกมเดียว ก็สามารถเล่นจนคุ้มแบบไม่ต้องเล่นเกมอื่นกันแล้ว

2. Dark Souls

อีกหนึ่งเกมที่ขึ้นชื่อเรื่องความยาวของเกม ซึ่งความยาวของเกมนั้น อาจจะไม่ใช่อยู่ที่เนื้อเรื่องของเกม แต่อยู่ที่ความยากของเกมต่างหากที่ทำให้ผู้คนต่างหัวร้อนและไม่จบเกมนี้อย่างง่าย ๆ โดยปกติถ้าหากไม่ได้สนใจว่าจะตามเก็บทุกสิ่งทุกอย่างภายในเกมให้ครบ ตัวเกมจะกินเวลาเล่นเฉลี่ยประมาน 60 ชั่วโมง แต่ถ้าอยากจะเก็บรายละเอียดทั้งหมดของเกมจริง ๆ ล่ะก็ บอกเลยว่าปาไป 90 กว่าชั่วโมง รับรองเลยว่าเล่นกันจนไม่เห็นเดือนเห็นตะวันเลยทีเดียว

3. Divinity: Original Sin

เกมที่ใช้เวลายาวนานประมาน 60 ชั่วโมงกว่าจะเคลียร์ได้จบ นอกจากเนื้อเรื่องของเกมที่ออกแบบมาได้อย่างสนุกสนานแล้ว สิ่งที่ทำให้ยืดระยะเวลาในการเล่นเกม ๆ นี้ออกไปนั้น ก็คืออความอิสระของผู้เล่นที่สามารถเดินทางไปไหนก็ได้ตามใจนึกนั่นเอง เนื่องจากตัวเกมไม่ได้โฟกัสหนักให้เราดำเนินเนื้อเรื่องเพียงอย่างเดียว และนั่นก็ทำให้เกมนี้ ใช้เวลาเล่นยาวกว่าเกมทั่ว ๆ ไปอยู่พอสมควรเลยล่ะ

4. The Legend Of Zelda: Breath Of The Wild

แฟรนไชส์แถวหน้าของฝั่ง Nintendo อย่าง Zelda ที่มาในเกม Open World ออกผจญภัยในดินแดนกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตานามว่า Hyrule ซึ่งเป็นปกติของเกมแนว Open Wolrd อยู่แล้วที่ใช้เวลาเล่นยาวนานกว่าเกมแนวอื่น ๆ  แต่อยากจะบอกว่าถ้าหากโฟกัสไปที่การดำเนินเนื้อเรื่องอย่างเดียว ตัวเกมก็กินเวลาไปกว่า 50 ชั่วโมงแล้ว และสำหรับใครที่ต้องการจะเคลียร์ทุกอย่างภายในเกม บอกเลยว่าเตรียมข้าว เตรียมน้ำ เตรียมที่นอนให้พร้อม เพราะตัวเกมจะกินเวลากว่า 150 ชั่วโมง เชื่อเลยว่าทาง Nintendo ทำเกมออกมาได้คุ้มเกินคุ้มมากจริง ๆ

5. ARK: Survival Evolved

ถึงแม้จะเป็นเกมออนไลน์ที่สามารถเล่นกับเพื่อน ๆ ได้ แต่อย่าคิดว่าเกมนี้ไม่ได้โฟกัสไปที่เนื้อเรื่อง เพราะถ้าหากว่าผู้เล่นตัดสินใจเล่นแบบ Single Player เกมนี้จะกินเวลาไปกว่า 70 ชั่วโมงเลยทีเดียว ลากยาวเรื่องราวตั้งแต่ตื่นขึ้นมาบนเกาะไปจนถึงสร้างบ้านสร้างฐานเพื่อสู้รบกับเหล่าไดโนเสาร์เลย ตัวเกมมีฟีเจอร์มากมายของตัวเกมที่มีออกมาให้ผู้เล่นได้เลือกเล่นกันอย่างสนุกสนาน รวมถึงการพาวเวอร์อัพต่าง ๆ นานา บอกเลยว่า 70 ชั่วโมงนั้น ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร

6. The Witcher 3

อีกหนึ่งเกม Open World ที่ใช้เวลาในการเล่นนานมาก ( ก.ไก่ สิบล้านตัว) แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับสไตล์ผู้เล่น ถ้าใครที่เล่นแต่เนื้อเรื่อง ความยาวของเกมก็จะประมาน 60 ชั่วโมง แต่ความจริงแล้ว ผู้สร้างเกมไม่ได้ตั้งใจจะให้ผู้เล่นจมปลักอยู่กับเนื้อเรื่องอย่างเดียว แต่ออกแบบตัวเกมออกมาเพื่อให้ผู้เล่นสามารถเล่นได้ยาวนานกว่า 200 ชั่วโมงกันไปเลย แค่เห็นจำนวนชั่วโมงก็เหงื่อตกแล้ว แต่ก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่ เพราะแผนที่ภายในเกมนั้น กว้างสุดลูกหูลูกตากว่าเกมอื่น ๆ มาก ถ้าหากเล่นจบภายในเวลาแค่ 60 ชั่วโมง ก็คงจะไม่คุ้มค่าแรงคนออกแบบเกมสักเท่าไหร่

7. Darkest Dungeon

เกมแนว RPG สุดดาร์คที่เล่นกับจิตใจของผู้เล่นในการกระทำต่าง ๆ โดยตัวเกมจะเป็นแนว 2D ที่ใช้กลยุทธ์ในการเล่นอย่างหนักหน่วงมาก เราสามารถใช้กลยุทธ์ต่าง ๆ ได้อย่างหลากหลาย แต่ศัตรูมักจะมีทริคต่าง ๆ มาให้เราตกหลุมพรางตลอดเวลา ตัวเกมจะมีค่าความตึงเครียดของตัวละคร ซึ่งถ้าหากตัวละครเรามีความเครียดสะสมมาก ก็จะส่งผลต่อรูปเกมให้ยากขึ้นกว่าเดิมด้วย ซึ่งตรงจุด ๆ นี้แหละ ที่ทำให้การต่อสู้แต่ละครั้งนั้น ยาวนานมาก และกินเวลาไปกว่าหลายสิบชั่วโมงเลยทีเดียวกว่าจะเคลียร์ทุกอย่างภายในเกมได้อย่างสมบูรณ์

8. Stardew Valley

เกมแนวทำฟาร์มที่เสมือนให้เราได้เข้าไปอยู่ในโลกนั้นจริง ๆ บอกเลยว่าเล่นกันอย่างลืมหูลืมตา ลืมหน้าที่การงานในชีวิตจริงมาก ๆ เพราะตัวเกมมีอะไรให้ทำหลากหลายมาก มากจนไม่คิดว่าตัวเกมแนวทำฟาร์มที่ดูเหมือนจะธรรมดา ๆ จะใส่ฟีเจอร์ต่าง ๆ ได้มากขนาดนี้ ทั้งการทำฟาร์ม ทำเหมือง เลี้ยงสัตว์ สร้างสิ่งของ หาแฟน และอีกมากมาย ตัวเกมจะจำลองการใช้ชีวิตจริงแบบที่สามารถเล่นได้เพลินสุด ๆ แถมตัวละครกว่า 30 ตัวภายในเกมที่เราสามารถทำความรู้จักได้ เหมาะมากจริง ๆ สำหรับใครที่ต้องการหลีกหนีจากความวุ่นวายของชีวิตจริง เพราะเกมนี้จะทำให้คุณเพลิดเพลินจนไม่นับวันเวลากันเลยทีเดียว สำหรับเวลาในการเล่นนั้น คงไม่ต้องพูดถึง 100 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ

9. Forza Motorsport 5

หลายคนคงจะแปลกใจว่าทำไมเกมแนวรถแข่งถึงติดเข้ามาในโพลนี้ เพราะตัวเกม Forza Motorsport 5 นั้น มีเนื้อเรื่องหลักให้เล่นซึ่งใช้เวลากว่า 50 ชั่วโมงเลยทีเดียว แถมมีตัวละครให้เล่นกว่า 70 ตัว และรถสวย ๆ กว่า 200 คันให้ได้เลือกใช้ คงไม่ต้องบอกว่าทำไมถึงเล่นเกมนี้ได้นาน และสำหรับใครที่ไมได้เล่นเนื้อเรื่องหลักอย่างเดียว บอกเลยว่าตัวเกมมี Content อื่น ๆ อีกมากมายให้ได้เล่นกันกว่า 200 ชั่วโมง เชื่อเลยว่าเป็นเกมแนวรถแข่งที่ทำออกมาคุ้มเกินเกมมาก ๆ

10. Rainbow Moon

เกมที่ดูเหมือนจะธรรมดา ๆ ในช่วงแรก แต่เล่นไปเล่นมา บอกเลยว่าตัวเกมเรื่องมีการเล่นที่ใช้กลยุทธ์มากขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็นเกมที่เหนือชั้นทางด้านกลยุทธ์มากจริง ๆ ตัวเกมเป็นแนวต่อสู้แบบเดินตามช่องที่มีเนื้อเรื่องและเนื้อหาทั้งหมดยาวนานกว่า 80 ชั่วโมง เรียกได้ว่ายาวนานไม่แพ้เกมฟอร์มใหญ่เกมอื่น ๆ เลย การต่อสู้ในแต่ละครั้งของตัวเกมนั้น จะมีสิ่งต่าง ๆ ให้ผู้เล่นได้ลิ้มลองกลยุทธ์และวิธีการต่อสู้อยู่เรื่อย ๆ ซึ่งตรงนี้แหละที่เพิ่มความยาวของเกมให้นานและเพลินขึ้นไปอีกมากเลยทีเดียว

และทั้งหมดก็คือ 10 เกมที่ใช้เวลาเล่นนานมากกว่าจะจบ บอกเลยว่าเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับใครที่กำลังมองหาเกมสักเกมที่เล่นแบบคุ้มเกินคุ้ม และไม่อยากเปลี่ยนเกมเล่นบ่อย ๆ สำหรับใครที่มีเกมยาว ๆ เกมอื่นมาแนะนำนอกจาก 10 เกมที่ว่ามานี้ ก็ลองคอมเม้นกันเข้ามาได้นะ

ที่มา – ThisIsGame