ทุกรายเส้น ล้วนมีความหมายซ่อนอยู่ รู้กันป่าวว่ารอยหมึกที่จารึกลงบนร่างกายเรานั้น แต่ละลายนั้นมีความหมายอย่างไร แล้วมันกี่ประเภทกันนะ และสำหรับคนที่กำลังมองหาลายสักดีๆ วันนี้เราจะมาดูกันว่า แต่ละลายสัก แต่ละประเภท มีความหมายอะไรซ่อนอยู่บ้าง เมื่อรอยสักที่เลือกไม่ใช่แค่ภาพที่ชอบ แต่มันยังถูกแบ่งได้ออกเป็นหลายสไตล์ตามเทคนิคและรูปแบบที่เลือกใช้ ใครกำลังมองหารอยสักเท่ๆ เราอยากให้อ่าน 5 สไตล์นี้ก่อน
1. Stick and Poke
การวาดเส้นง่ายๆ ที่หลายคนเรียกมันว่าสไตล์มินิมอลนั่นแหละ ด้วยลายเส้นสีดำที่ดูเรียบง่าย เหมาะสำหรับคนที่อยากเริ่มต้นจากรอยสักขนาดเล็ก ซึ่ง Stick and Poke เป็นงานที่ใช้เวลา และพื้นที่บนร่างกายไม่มาก หรือเรียกอีกอย่างว่า Hand Poke Tattoo เป็นการสักโดยไม่ใช่เครื่อง จะมีแค่เข็มและหมึกเท่านั้น เป็นวิธีที่ใช้มาตั้งแต่อดีต อาศัยเทคนิคและความแม่นยำในการลงเข็ม งานละเอียดแบบนี้เรียกได้ว่าเป็นรอยสัก DIY และกลายมาเป็นความนิยมในยุคสมัยนี้
2. Single Needle/Dotwork
เป็นรอยสักที่มีลายเส้นหนา เน้นการดีไซน์ เป็นงานที่ละเอียด และซับซ้อน โดยการใช้เทคนิคเฉพาะ “ลักษณะที่กำหนดคือเส้นริ้วและการวาดคล้ายๆ Airbrush โดยใช้จุดเป็นตัวต่อเรื่องราว เป็นการสร้างความลึกซึ้ง และส่งผลให้เกิดรอยสักที่ละเอียดอ่อนมาก หากคุณกำลังคิดจะเริ่มสักในแบบที่มีสไตล์ครั้งแรก….นี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี
3. Old School
เป็นลายสักที่มีความหมาย และลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ซึ่งสไตล์ “Old School” จะเน้นสีและลายเส้นอันมีเอกลักษณ์ โดยจุดเริ่มต้นในศตวรรษที่ 18 กัปตัน เจมส์ คุก นักเดินเรือและนักสำรวจชาวอังกฤษ ที่กลับมาพร้อมกับรอยสักที่บอกเล่าถึงเรื่องราวในการเดินทางของเขา ซึ่งมันได้รับแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมจีน ญี่ปุ่น และหมู่เกาะทั่วแปซิฟิก จึงถือเป็นจุดกำเนิดลวดลาย Old School
ซึ่งมีหลายลวดลายให้เลือกยกตัวอย่างเช่น ลาย ANCHORS สมอเรือ เพราะสมอเรือนั้นถือเป็นอาวุธที่ช่วยดูแลเรื่องความปลอดภัยให้กับนักเดินเรือ เปรียบเสมือนตัวแทนของความมั่นคง หากขาดสมอเรือในการเดินเรือ ก็จะขาดที่ยึดเรือเอาไว้นั่นเอง และบ่อยครั้งที่เรามักเห็นรอยสักคำว่าแม่ หรือชื่อคนรักของนักเดินเรือ จนเหมือนเป็นสัญลักษ์ประจำตัวไปแล้วนั้น นอกจากนี้ลายสมอเรือยังได้รับความนิยมจนถึงปัจจุบัน ซึ่งหมายถึงเตือนพวกเขาถึงความมั่นคงไม่เปลี่ยนแปลงนั่นเอง
4. Japanese
ถ้าพูดถึงรอยสักของญี่ปุ่น ย้อนนึกไปถึงมังกรเต็มหลัง รวมไปถึงเรื่องราวของยากูซ่ากันใช่มั๊ยล่ะ แม้ว่าความรู้สึกเกี่ยวกับรอยสักในสังคมญี่ปุ่นมักจะเกี่ยวข้องกับการก่ออาชญากรรมซะส่วนใหญ่ แต่องค์ประกอบและความสมดุล ก็เป็นกุญแจสำคัญในสไตล์นี้ ซึ่งเบื้องต้นรอยสักนั้น ถูกนำมาใช้ในสังคมญี่ปุ่นเพื่อวัตถุประสงค์ทางจิตวิญญาณ หรือถ่ายทอดสถานะทางสังคม ถ้าเคยดูหนังแนวยากูซ่า มาเฟีย ก็น่าจะนึกภาพกันออก
เนื่องจากความเชื่อเรื่องโชคลาง ว่ารอยสักนั้นมีความเชื่อมโยงกับสิ่งมีชีวิตบางอย่างกับความเชื่อ แต่ในเวลาเดียวกันรอยสักก็จะถูกนำมาใช้เพื่อระบุชนชั้นที่แตกต่างกัน เป็นสิ่งที่ผลักดันการยอมรับรอยสักอย่างกว้างขวางโดยมีผู้คนจำนวนมากนำเสนอตัวตนของตนเองผ่านรอยสักเหล่านี้
5. Blackwork
เชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยเห็นรอยสักที่ใช้หมึกสีดำเข้มที่ต้นแขน ซึ่งนั่นก็คือรอยสักสไตล์ Blackwork ที่เน้นความหนาแน่นของพื้นที่ โดยแรเงาสีดำทำให้เกิดภาพที่สวยงาม สไตล์นี้สร้างรอยสักที่มีความคอนทราสสูงมาก แต่ยังคงความเรียบง่าย แฝงความดุดัน เหมาะกับสายโหดที่ต้องการแสดงจุดยืนของรอยสักที่ชัดเจน
ทราบความหมายกันแล้ว รวมถึงที่มาที่ไปกันแล้ว ทีนี้ก็อยู่ที่ว่าเราชอบสไตลืไหน และควรเลือกและตัดสินใจให้ดี เพราะรอยสักพวกนี้มันไม่ใช่สติกเกอร์แทททู ที่พอถูๆก็ลบออกได้ แต่มันจะอยู่กับคุณไปอีกนานแสนนาน แต่หากใครที่ยังคิดไม่ออก เราก็มีไอเดียคร่าวๆ สำหรับรอยสักเล็กๆ สไตล์มินิม่อล ที่เหมาะสำหรับมือใหม่อยากสัก เอาเป็นว่าก็เข้าไปเลือกดูกันได้ กับ MINIMAL TATTOO STYLE | รวมรอยสักผู้ชายสไตล์มินิมอล
1 Comment
Comments are closed.
[…] อ้างจากแหล่งที่มา: … […]