Netflix | จากร้านเช่า DVD สู่ผู้นำด้านความบันเทิงทางอินเทอร์เน็ตชั้นนำของโลก - The Macho
 
Roral Enfield - Hunter 350
728x150 - Nissan Almera
728x150 - Hunter4
Netflix | จากร้านเช่า DVD สู่ผู้นำด้านความบันเทิงทางอินเทอร์เน็ตชั้นนำของโลก

นาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก Netflix ผู้ให้บริการด้านความบันเทิงออนไลน์ ในรูปแบบวิดิโอสตรีมมิ่งขนาดใหญ่ที่สุดในขณะนี้ หนัง และ ซีรีส์มากมาย ที่มาพร้อมคำบรรยายหลากหลายภาษาให้เลือก เพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้บริการกว่า 190 ประเทศทั่วโลก จุดเริ่มต้นของ Netflix เกิดจากอะไร ?แล้วอะไรเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้พวกเขา ก้าวมาสู่ผู้นำที่ให้บริการความบันเทิง ด้านวิดิโอสตรีมมิ่งระดับแถวหน้าของโลกในปัจจุบัน

Netflix เป็นบริการความบันเทิงทางอินเทอร์เน็ตชั้นนำของโลกโดยมีสมาชิกกว่า 130 ล้านรายในกว่า 190 ประเทศที่มีรายการทีวีซีรีส์สารคดีและภาพยนตร์สารคดีหลายภาษาและหลายภาษา สมาชิกสามารถรับชมได้ตลอดเวลาที่ต้องการทุกที่ทุกเวลาบนหน้าจอที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต สมาชิกสามารถเล่นหยุดชั่วคราวและดูเรซูเม่ต่อได้โดยไม่ต้องโฆษณาหรือข้อผูกพัน

อาจยังมีคนสงสัย… Netflix คืออะไร?

ใครจะเชื่อล่ะว่าจากร้านเช่า DVD ก้าวขึ้นมาเป็นสื่อยักษ์ใหญ่อันดับ 8 ที่มีมูลค่าสูงถึง 146,000 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 40.3 % จากปีก่อน แถมความแรงยังแซงหน้าบรรดาบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างเช่น Time Warner ,21st Century Fox ,Sony อย่างไม่น่าเชื่อ ชั่วโมงนี้ก็นับว่าเป็นผู้ให้บริการความบันเทิงวิดิโอสตรีมมิ่ง (Streaming Video) รายใหญ่รายหนึ่งของโลก

ซึ่งก็มีให้บริการความบันเทิงอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นซีรีส์ ภาพยนตร์ สารคดี ต่างๆ ครอบคลุมหลากหลายภาษาให้เลือกรับชม พร้อมทั้งสามารถชมผ่านอุปกรณ์ที่หลากหลาย ทั้ง  Smartphone , Smart TV , Apple TV , Computer , Ipad หรือแม้แต่ Game Console ก็สามารถรับชมได้

จุดเริ่มต้นของ Netfilx

จุดเริ่มต้นเมื่อปี 1997 โดยนาย รีด แฮสติงส์ (Reed Hastings) และ นาย มาร์ค แรนดอล์ฟ (Marc Randolph) ได้ก่อตั้งธุรกิจเช่าวิดิโอภาพยนต์ เพื่อให้บริการกับกลุ่มลูกค้าในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น และมีการจัดทำระบบการส่งไปรษณีย์สำหรับให้เช่ายืม ไม่เกิน 7 วัน เชื่อว่าหลายๆคนในยุคนั้นต้องคุ้นเคยกับสถานการณ์แบบนี้เป็นอย่างดี

จากแนวคิดเรื่องการเช่าวิดิโอออนไลน์ ในตอนแรก ก็ก่อให้เกิดไอเดียบางอย่างขึ้น จากการที่แฮสติงส์ ไปเช่าวิดิโอ แต่ส่งวิดิโอคืนล่าช้า จึงทำให้โดนปรับเงินจำนวน 40 ดอลลาร์สหรัฐ จากร้านบล็อกบัสเตอร์ (Blockbuster) ซึ่งเป็นร้านเช่าวิดิโอที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงในแถบอเมริกา (แต่ปัจจุบันปิดตัวไปแล้ว) นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นให้เขาได้คิดว่า ถ้าหากดำเนินธุรกิจเช่นนี้ คงไม่สามารถสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าได้เท่าที่ควร และอาจส่งผลร้ายต่อธุรกิจของเค้าในวันหนึ่งแน่ๆ

Netflix

จากเหตุการณืวันนั้น จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นให้เกิดนโยบายใหม่ คือ ให้บริการให้ลูกค้าที่เช่าวิดิโอในราคา 7.99 ดอลลาร์สหรัฐ (หรือประมาณ 260 บาท) โดยไม่จำกัดจำนวนเรื่อง จำนวนครั้งที่ยืม และ ที่สำคัญ ไม่จำกัดเวลาคืน  แต่ลูกค้าต้องทำการสมัครสมาชิก และชำระค่าบริการเป็นรายเดือนซะก่อน ซึ่งนโยบายนี้ทำให้ Netflix สามารถล้มคู่แข่งที่สำคัญนั้นคือ Blockbuster ได้

ซึ่งในปี 2002 เคยมีการเสนอซื้อบริษัท Netflix ในราคา 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ Netflix ได้ปฏิเสธไป ก็ถือว่าพวกเขาเดินมาถูกทางอย่างไม่น่าเชื่อ และต่อมาพวกเขาก็ก้าวเข้าสู่จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ เมื่อในวันที่ 29 พฤษาคม ปี 2002 Reed Hastings ได้นำ Netflix เข้าระดมทุนในตลาดหุ้น Nasdaq โดยมีราคาหุ้นปิดอยู่ที่ $15.00 และในปี 2007 Netflix ให้บริการความบันเทิง ในรูปแบบ DVD แก่ลูกค้ามากกว่า 1,000 ล้านแผ่นทั่วสหรัฐอเมริกาเลยทีเดียว

ความโดดเด่นที่เห็นได้ชัดของ Netflix

ต้องยอมรับว่า สิ่งที่โดดเด่นอย่างเห็นได้ชัดของ Netflix คือ การเลือกภาพยนตร์ ซีรีย์ที่มีความแตกต่าง ซึ่งไม่ได้คำนึงว่าภาพยนตร์ หรือซีรีย์ เรื่องนี้จะต้อง โด่งดัง หรือเป็นกระแสในขณะนี้ แต่พวกเขากลับสร้างทางเลือกให้กับผู้ชมที่มีความชอบเฉพาะกลุ่ม ให้เลือกชมตามความต้องการ โดยเน้นที่คุณภาพเป็นหลัก เนื้อหาในแต่ละซีรีย์ต้องมีการเล่าเรื่องที่ยอดเยี่ยม งานภาพ และ การเล่าเรื่อง สร้างพลัง อารมณ์ร่วม ทำให้ผู้ชมเข้าถึงอรรถรสได้แบบเต็มๆ

และสิ่งที่พวกเขาเหนือจากค่ายอื่นๆคือ การสร้าง Content ของตัวเอง พวกเขาเชื่อว่า ถ้าพวกเขาสร้างหนัง หรือ ซีรีย์เป็นของตัวเอง จะสามารถขยายขอบเขตความบันเทิงได้หลายประเทศทั่วโลก โดยไม่ต้องกังวลเรื่อง “ลิขสิทธิ์” ซึ่งพวกเขาได้เริ่มทำอย่างจริงจังในปี 2013 และมีการพัฒนาการผลิตให้มีคุณภาพที่ดี ยกตัวอย่างซีรีส์ดังอย่าง Stranger Things , Black Mirror , 13 Reasons Why , House of Cards และภายนตร์ สารคดี ทอร์คโชว์ เกมโชว์ อื่นๆ อีกมากมาย

จากร้านเช่า DVD ตอนนี้กลายเป็นทีมสร้างหนังซะแล้ว นั้นทำให้เห็นว่า Netflix ไม่ใช่แค่ผู้ให้บริการความบันเทิงสตรีมมิ่งเพียงอย่างเดียว แต่พวกเขายังเป็นนักสร้างสรรค์ผลงานที่มีคุณภาพอีกด้วย ถือว่าเป็นการเพิ่มความพิเศษให้ ดูโดดเด่น แตกต่าง และเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่สามารถดึงดูดผู้ใช้บริการได้เพิ่มมากยิ่งขึ้น

และ อีกหนึ่งนโยบายที่สำคัญ ที่ทำให้ผู้ชมชื่นชม Netflix นั่นก็คือ “พวกเขาไม่มีนโยบายให้มีโฆษณาระหว่างการฉาย” ซึ่ง Reed (CEO) เคยกล่าวเอาไว้ เพื่อทำให้การรับชมลื่นไหลมากที่สุด ต้องไม่สะดุดที่โฆษณา และยังให้ความสำคัญในเรื่องของคุณภาพความละเอียดสูง ซึ่งเทคโนโลยีที่ทำให้วิดิโอไม่กระตุกแม้อินเตอร์เน็ตจะสโลวมากก็ตาม รวมไปถึงเหล่าฟังก์ชันการดาวน์โหลดรายการเพื่อเก็บไว้ดูภายหลัง ก็ทำให้เหล่าบรรดาผู้ใช้บริการทั้งหลาย ไม่อยากย้ายค่ายไปไหนเลยทีเดียว

 

 

 

 

 

นอกจากนี้ ในปัจจุบัน Netflix ทำงานกับผู้ผลิตในหลากหลายประเทศ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็รวมถึงประเทศไทยของเราด้วยนะรู้ยัง เพื่อการทำงาน ที่สามารถผลิต และสร้างคอนเทนต์ออกมาให้ตรงใจผู้ชมมากที่สุด ทั่วทุกมุมโลก โดยที่ไม่มีขอบเขตขอเรื่องวัฒนธรรม และภาษา มาเป็นอุปสรรค

Netflix กับก้าวเข้าสู่ผู้นำด้าน Streaming Video ระดับโลก

และจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของ Netflix ในการก้าวสู่ยุควิดิโอสตรีมมิ่งอย่างเต็มรูปแบบก็เริ่มขึ้น เมื่อกระแส DVD เริ่มเข้าสู่ยุคที่ความเร็วของ Internet เข้ามามีบทบาทมากขึ้น ก็ทำให้คนทั่วโลกเริ่มหันมาเสพความบันเทิงในรูปแบบออนไลน์กันมากขึ้น Netflix จึงได้ให้บริการในระบบวิดิโอสตรีมมิ่งผ่านอินเตอร์เน็ต เต็มรูปแบบในปี 2007 และได้ร่วมมือกับผู้พัฒนาฮาร์ดแวร์เพื่อนำบริการความบันเทิงของตัวเองสู่ช่องทางการให้บริการที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของคนในยุคปัจจุบันมากยิ่งขึ้น

โดยได้เริ่มต้นจากการพัฒนาร่วมกับ เครื่องเล่น Blu-Ray , เครื่องเล่นเกมไมโครซอฟต์ Xbox 360 , สัญญาณดาวเทียมโทรทัศน์ ในปี 2008 และ เครื่องเล่นเกม Sony PS3 , ผู้ผลิตสัญญาณอินเตอร์เน็ต ในปี 2009 ถัดมาในปี 2010 ก็เริ่มก้าวเข้าสู่วงการ Smart Phone และ อุปกรณ์ในเครือ Apple รวมถึงเครื่องเล่นเกม Wii

ซึ่งการที่ Netflix ร่วมมือกับค่ายพัฒนาฮาร์ดแวร์ที่มีชื่อเสียงต่างๆ ก็ส่งผลให้พวกเขาเติบโดมากยิ่งขึ้น และได้เป็นที่รู้จักในตลาดโลกในเวลาอันรวดเร็ว กับความสำเร็จในปัจจุบัน พวกเขาได้ประกาศว่าเฉพาะไตรมาสแรกของปีนี้ จำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้นถึง 7.41 ล้านคน เลยทีเดียว ซึ่งทำให้เห็นว่าการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง นั้นสามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้ใช้บริการด้านความบันเทิงในปัจจุบันได้อย่างดี

นอกเหนือจากการเป็นผู้นำด้านความบรรเทิงแล้ว ยังมีแนวคิดที่ดี เเละเป็นเหมือนแบบอย่างที่ดี ในเรื่องของการให้ความสำคัญที่สุดในงานบริการ นั่นก็คือ การทำให้เห็นถึงการเอาใส่ใจผู้บริโภคอย่างแท้จริง , การเอา Inside จากคนดูมาพัฒนา และต่อยอดนโยบายของบริษัท , การค้นหาเพื่อให้รู้ว่า คนดู อยากดูอะไร? และการสร้างทางเลือกใหม่ๆ ให้กับผู้ชม ให้ได้รับความสะดวกสบายในการเข้ามาใช้บริการ ซึ่งนั้นเป็นจุดแข็งที่ดีที่สุดของ Netflix ซ่งสิ่งเหล่านี้ก็ส่งผลให้พวกเขาก้าวขึ้นสู่บริษัทที่ให้บริการความบันเทิงรายใหญ่รายหนึ่งของโลก ได้ในเวลารวดเร็ว

อ้างอิง

Sharry

Writer, Project Editor, Photographer

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save