หลังจากการแข่งนัดคอมมูนิตี ชิลด์ 2018 ที่ทีมแชมป์เก่า “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เอาชนะทีม “สิงโตนำ้เงินคราม” ไป 2-0 คว้าแชมป์ไปครอง ถือเป็นการเปิดฉากศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2018-19 แล้ว

ถือเป็นการเปิดฤดูกาลอย่างเต็มตัว ซึ่งจะประเดิมสนามคู่แรกในวันที่ 10 สิงหาคม 2018 นี้ ซึ่งทางร้านพนันถูกกฎหมายของประเทศอังกฤษได้มีการออกราคาต่อรองสำหรับแชมป์ฤดูกาลใหม่นี้แล้ว มาดูกันว่าทีมเต็งทั้ง 6 ทีมมีสถานการณ์ก่อนเปิดฤดูกาลเป็นอย่างไรและจริงๆ ใครกันจะคว้าแชมป์ปีนี้

 

เต็ง 6 “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล

หลังจากอาร์เซน่อล อาร์แซน เวนเกอร์ ลาออกจากการคุมทีมกว่า 22 ปี อาร์เซน่อลก็ได้ อูไน เอเมรี จากหมดยุคสมัยภายใต้การบัญชาทัพของตำนานผู้จัดการทีม อาร์แซน เวนเกอร์ อันยาวนานถึง 22 ปี อูไน เอเมรี อดีตเทรนเนอร์ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ที่มีประสบการณ์มากมายที่เคยทำสถิติคว้าแชมป์ยูโรปา ลีก 3 สมัยซ้อนกับ เซบีย่า มาแล้ว มาสานงานต่อจากเวนเกอร์พร้อมสร้างทีมของตัวเองโดยนำเข้า 5 ผู้เล่นใหม่สู่เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ได้แก่ สเตฟาน ลิคท์สไตเนอร์ ฟูลแบ็กวัย 34 ปีกัปตันทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์จาก ยูเวนตุส แบบฟรีๆ ที่พกพาประสบการณ์มาเพียบแทนที่ แพร์ แมร์เตซัคเกอร์ ที่เพิ่งแขวนสตั๊คไปได้อย่างดี กับ โซคราติส ปาปาสตาโธปูลอส กองหลังทีมชาติกรีซวัย 30 ปีจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และตำแหน่งผู้รักษาประตูที่ได้ แบรนด์ เลโน่ ผู้รักษาประตูทีมชาติเยอรมันวัย 26 ปีจาก เลเวอร์คูเซ่น ที่จะมาทดแทน ปีเตอร์ เช็ก ที่ร่วงโรย ส่วนรุ่นใหม่ได้แก่ ลูคัส ตอร์เรร่า กองกลางตัวรับทีมชาติอุรุกวัยวัย 22 ปีจาก ซามพ์โดเรียด้วย ค่าตัว 25 ล้านปอนด์ กับ มัตเตโอ เกนดูซี่ มิดฟิลด์ทีมชาติฝรั่งเศส ยู-20 วัย 19 ปีของ ลอริยองต์ ค่าตัว 7 ล้านปอนด์

โดยรวมถือว่าการเสริมทัพของอาร์เซน่อลไม่ได้หวือหวาอะไรมากนัก อาจเป็นพราะเป็นปีแรกของ อูไน เอเมรี ที่คงต้องใช้เวลาศึกษาผู้เล่นที่เดิมที่มีอยู่ก่อนปรับแต่งทีมกันต่อไป แต่ด้วยผู้เล่นที่มีอยู่ก็ไม่ได้ถึงกับแย่อะไรมาก แต่ถือว่ามทีมมีขนาดค่อยข้างเล็กเมื่อเทียบกับขุมกำลังทีมอื่นๆ ในระดับเดียวกัน ดังนั้นปีนี้เป้าหมายหลักของทีมปืนใหญ่น่าจะหวังกับไปอยู่ในกลุ่มท๊อป 4 เพื่อกลับไปเล่นยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกให้ได้ แล้วไปลุ้นบอลถ้วยเอาโดยเฉพาะยูโรป้าถือว่า อูไน เอเมรี ถูกโฉลกอยู่ เฮียแกน่าจะเอาดีบอลถ้วยสักถ้วยได้ งานดีอาจได้แชมป์ยูโรปา ลีก กลับไปเล่นแชมเปียนส์ลีกโดยไม่ต้องไปตะกายที่ 4

เต็ง 5 : “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์

เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ยังไม่ขยับอะไรในตลาดนักเตะเลย แม้จะไม่มีใครเข้าแต่ก็ไม่เสียใครที่สำคัญกับทีมออกไปเลย ถือเป็นทีมที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ และมีทีมที่ลงตัวในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา และยึดตำแหน่งท๊อป 4 มาได้อย่างต่อเนื่อง ถืงขนาดมีลุ้นแชมป์แต่ก็โดนปาฏิหารย์ของเลสเตอร์ตัดหน้าแชมป์ไป โดยรวมทีมท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ยังเป็นทีมที่ครบเครื่องและมีสิทธิ์จะลุ้นแชมป์ได้อยู่ แต่ปัญหาที่ติดอยู่มาตลอดคือความสม่ำเสมอนั่นเอง การทดแทนตัวหลักน่าจะเป็นเรื่องที่น่ากังวล แต่กลับไม่มีการเสริมทีมในปีนี้ นั่นอาจทำให้ทีมอย่างสเปอร์เจอสถานกาณ์แบบเดิมๆ ขึ้นมาแต่ไม่สุด

ถ้าพูดถึง 11 ตัวแรกของสเปอร์แล้ว ไม่มีใครสงสัยในความยอดเยี่ยมแน่นอน ทีมที่นำโดย แฮร์รี่ เคน ที่ยิงต่อเนื่องทุกฤดูกาล ที่สนับสนุนโดย เดเล่ อัลลี่, ซน เฮือง-มิน, คริสเตียน อีริคเซ่น และผู้รักษาประตูแชมป์โลกอย่าง อูโก้ โยริส แต่แล้วถ้าทีมหลักเจ็บหรือเล่นไม่ออกล่ะ อาจทำให้ผลไม่เป็นไปอย่างใจ โดยรวมสเปอร์จึงยังไม่ใช่ผู้ท้าชิงแชมป์อย่างแน่นอน แต่คงดีพอจะไปอยู่ในระดับเดิมได้ไม่ยาก ซึ่งดูได้จากอัตราต่อรอง แม้ปีที่แล้วจะได้ที่ 3 แต่ไม่มีใครเชื่อว่าจะเข้าใกล้แชมป์เลยจนหล่นมาเป็นเต็ง 5

เต็ง 4 : “สิงโตน้ำเงิน” เชลซี

หลังจากมีปัญหาภายในและ อันโตนิโอ คอนเต้ ก็ถูกอัปเปหิออกจากตำแหน่งหลังคว้าได้แค่ที่ 5 เมื่อฤดูกาลก่อนและได้ ริซิโอ ซาร์รี่ กุนซือชาติเดียวกันจาก นาโปลี มาแทน และได้นักเตะใหม่ จอร์จินโญ่ มิดฟิลด์ทีมชาติอิตาลีเจ้าของค่าตัว 50 ล้านปอนด์ที่เหน็บตามมาจาก นาโปลี เพื่อเป็นศูนย์กลางในการสร้างทีมของเขาเองให้เป็นทีมที่เล่นเกมรุก แถมได้ จานฟรังโก้ โซล่า ตำนานนักเตะเชลซีมาเป็นมือขวา

แม้ตอนนี้จะยังไม่มีนักเตะหลักคนไหนของทีมถูกขายออกไป แต่กระแสเรื่องย้ายออกมีมากกว่าเข้า แถมเป็นนักเตะหลักอย่าง อาซาร์ หรือ กูร์กตัวส์ ที่มีข่าวว่ารีล มาดริดสนใจอยู่ กับ วิลเลียน ที่มีข่าวว่าบาร์เซโลน่าจะถอยไปใช้งาน ซึ่งดูแล้วถ้าไม่ย้ายตอนนี้ มกราคมก็มีเสียวอยู่ดี เพราะดูแล้วอาซาร์เองก็สนใจไปหาประสบการณ์ใหม่ๆ แล้ว ซึ่งถ้าอาซาร์ไปจริง อาจมีผลถึงขั้นหมดลุ้นแชมป์เลยทีเดียว เพราะปีที่แล้วเขามีส่วนช่วยทีมอย่างมากแบบที่ไม่รู้จะหาใครแทนได้ตอนนี้ จึงทำให้เชลซียังไม่ถึงขั้นขึ้นไปเอาแชมป์ในปีนี้ได้

9 ส.ค. 2018 –  กูร์กตัวส์ ย้ายไปรีล มาดริด ตามคาดแต่ได้ มาเตโอ โควาซิช มิดฟิลด์ทีมชาติโครเอเชีย มายืมใช้งานเป็นการทดแทน และก็ต้องไปสอย เคปา อาร์ริซาบาลาก้า ผู้รักษาประตูสถิติโลก คนใหม่จาก แอธเลติก บิลเบา ในราคา 71 ล้านปอนด์ ก็ไม่รู้ว่าจะทดแทน กูร์กตัวส์ ที่เป็นระดับโลกไปแล้วได้แค่ไหน

 

เต็ง 3 : “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

แมนฯ ยูไนเต็ด ทีมี โชเซ่ มูรินโญ่ คุมทีมเป็นทีมที่มีความแน่นอน เอาผลที่ต้องการได้ ความคงเส้นคงวาของแมนยูถือเป็นจุดแข็ง อย่างปีที่แล้วก็คว้าอันดับ 2 มาได้ แม้ในตลาดซื้อขายครั้งนี้จะยังไม่มีอะไรขนาดจะทำให้ทีมก้าวกระโดด ได้นักเตะที่พอจะน่าสนใจอย่าง เฟร็ด มิดฟิลด์ทีมชาติบราซิลวัย 25 ปีจาก ชัคห์ตาร์ โดเน็ตส์ค มาด้วยค่าตัว 52.5 ล้านปอนด์ แต่นักเตะหลักเดิมๆ ก็ยังอยู่กันครบ และปีนี้อาจจะเป็นปีของ ป๊อกบา ที่เพิ่งพาทีมฝรั่งเศสคว้าแชมป์โลกมาหมาดๆ และนักเตะผีแดงก็ฟอร์มดีกันหลายคนในฟุตบอลโลกที่ผ่านมา

ปีนี้น่าจะเป็นปีที่จะตัดสิน โชเซ่ มูรินโญ่ แล้วว่าจะได้อยู่ต่อหรือไม่ หลังจากยังพาทีมปีศาจแดงกลับมายิ่งใหญ่ไม่ได้ แต่ก็ดูจะเป็นปีที่ทีมปีศาจแดงไม่สามารถดึงดูดผู้เล่นดังๆ ได้เหมือนสมัยป๋าเฟอร์กี้อีกแล้ว แถมเงินที่จะใช้จับจ่ายก็อาจไม่มากเท่าไหร่อีกด้วย ทำให้มูรินโญ่เองก็คงไม่คุ้นมือกับทีมที่ไม่สามารถนำนักเตะที่ต้องการมาให้เขาได้เหมือนสมัยอยู่ทีมยักษ์อื่นๆ บวกกับรูปแบบการเล่นของเขากลายเป็นเครื่องหมายที่ทำให้นักเตะหลายคนอาจจะลังเล แต่เชื่อเถอะความสามารถของเขาก็จะยังพาทีมอยู่ในระดับที่ไม่อายใคร แต่อาจไม่ใช่ที่แฟนบอลต้องการเท่านั้น

 

เต็ง 2 : “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล

การที่ลิเวอร์พูลของ เจอร์เก้น คล็อปป์ สามารถขึ้นมาเป็นเต็ง 2 น่าจะมาจากการทุ่มซื้อนักเตะอย่างมหาศาลแบบที่ไม่เคยมาก่อน ประกอบกับการเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกเมื่อปีที่แล้วที่แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการของทีม ทำให้หลายคนเชื่อว่านี่แหละคือปีของหงส์แดงแล้ว การได้ตัว นาบี้ เกอิต้า, ฟาบินโญ่, เซอร์ดาน ชากิรี่ และผู้รักษาประตูสถิติโลกอย่าง อลิสสัน เบ็คเกอร์ แม้จะเสีย เอ็มเร่ ชาน ไปแบบฟรีๆ แต่เชื่อว่าคนที่เข้ามาถือเป็นการแก้ปัญหาที่ตรงจุดของทีม รวมกับทีมเดิมที่แข็งแกร่งอยู่แล้วอยู่กันครบ

ในปีก่อนมีช่วงที่หงส์แดงมีนักเตะเจ็บทำให้ทีมทรุดไปบางช่วงแต้มเลยหายไปหรือความผิดพลาดส่วนบุคคลก็เชื่อว่าจะถูกแก้ไขได้แล้ว ทุกตำแหน่งมีตัวตายตัวแทน แถมได้นักเตะที่เจ็บยาวๆ กลับมาเกือบหมดขาดแค่ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ซึ่งดูเหมือนตอนนี้จะมีการพูดถึงการกลับมาของจอมเซิ้ง แดเนียล สเตอร์ริดจ์ ที่กลับมาในคราบคนใหม่ เหมือนได้นักเตะใหม่เกรดเอมาเลยทีเดียว ถ้าไม่เจ็บอีกนะ ทำให้ปีนี้ถือว่า ลิเวอร์พูล มีลุ้นที่สุดแต่ปัญหาเดิมๆ ของหงส์แดงคือประสบการณ์ในการเป็นแชมป์ยังอ่อนนัก ความเสมอต้นเสมอปลายจะเป็นตัวบ่งบอกโอกาสคว้าแชมป์ที่รอคอยมากว่า 29 ปี

เต็ง 1 : “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้

แชมป์เก่าและแชมป์คอมมูนิตี ชิลด์ 2018 ของ เป๊ป กวาร์โอล่า ยังคงเป็นทีมที่สมบูรณ์แบบ การสร้างประวัติศาสตร์เป็นทีมแรกบนลีกสูงสุดของอังกฤษที่เป็นทำได้แต้มได้ 100 คะแนนที่ชนะรวดมากที่สุด 18 นัดติดต่อกัน หนีทีมอื่นไปแบบม้วนเดียวจบ กำลังหลักอยู่กันครบและได้ ริยาด มาห์เรซ จากเลสเตอร์มาเสริมทัพอีก โอกาสคว้าแชมป์ติดต่อกันไม่ไกลแน่นอน

ทีมของ เป๊ป ถือว่าสมบูรณ์และนักเตะหลักเป็นชุดเดิมๆ ที่เข้าใจและทันกันอยู่แล้ว การได้มาห์เรซที่เซ้นต์บอลน่าจะเข้ากับทีมได้ไม่ยาก แต่ถ้ากลับไปนึกถึงปีที่แล้ว ทีมเรือใบสีฟ้าก็มีช่วงหลุดฟอร์มไปบ้างแต่ได้ลูกยิงช่วงทดเวลาเอาตัวรอดเก็บ 3 แต้มไปได้หลายนัด เชื่อว่าปีนี้ทีมคู่แข่งน่าจะเริ่มศึกษากันมากขึ้น แต่ก็ยังเชื่อว่ายากที่ใครจะหยุดเรือลำนี้ได้ง่ายๆแน่

 

 

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2018-19 นี้อาจดูเหมือนการซื้อตัวจะคึกคักกับแค่ทีมหงส์แดงที่ทุ่มสุดกำลังเพื่อหวังกลับมาคว้าแชมป์ที่รอคอยให้ได้ แต่เรือใบสีฟ้าจะเป็นกระดูกชิ้นใหญ่มากที่จะทำให้มันไม่เกิดขึ้น ปีนี้เชื่อว่าจะเป็นปีแห่งการต่อสู้ของ เป๊ป กวาร์โอล่า กับ เจอร์เก้น คล็อปป์ อย่างแท้จริง ทีมที่เล่นเกมรุก 2 ทีมจะบุกถล่มทุกทีมแล้วคว้าแชมป์!