5 อันดับแข้งแอฟริกันที่ยิงประตูมากที่สุดในพรีเมียร์ลีก - The Macho
 
Roral Enfield - Hunter 350
728x150 - Nissan Almera
728x150 - Hunter4
5 อันดับแข้งแอฟริกันที่ยิงประตูมากที่สุดในพรีเมียร์ลีก

สาวกศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ต่างคุ้นเคยกันดีอยู่แล้วที่จะได้เห็นบรรดานักเตะจากหลายเชื้อชาติ หลายทวีป จากทั่วทุกมุมโลกเข้ามาโชว์ฝีเท้ากันอย่างต่อเนื่อง และโดยเฉพาะอย่างยิ่งแข้งจากแอฟริกาซึ่งทำผลงานได้ดีทุกยุคทุกสมัยเลยก็ว่าได้

ขณะเดียวกัน สุดยอด 5 ผู้เล่นจาก “กาฬทวีป” เหล่านี้ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมให้กับต้นสังกัดของพวกเขาจนได้รับการจารึกสถิติว่า เป็นแข้งชาวแอฟริกันที่ระเบิดสกอร์มากที่สุดในเมืองผู้ดี

5. โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ (143 เกม 90 ประตู)

       หลังแจ้งเกิดกับ เอฟซี บาเซิ่ล ในสวิตเซอร์แลนด์ ซาล่าห์ ก็ตกเป็นเป้าหมายของทั้ง เชลซี และ ลิเวอร์พูล ซึ่งสุดท้ายกลายเป็น “สิงโตน้ำเงินคราม” ภายใต้การคุมทีมของ โชเซ่ มูรินโญ่ ที่ยอมจ่ายเงิน 11 ล้านปอนด์ คว้าตัวเข้ามาเสริมทัพเมื่อปี 2014

        อย่างไรก็ตาม ซาล่าห์ ไม่สามารถแจ้งเกิดกับ เชลซี ได้ เขามีโอกาสลงเล่นในพรีเมียร์ลีกไปเพียง 13 เกม ซัดไป 2 ประตู ก่อนจะถูกปล่อยให้กับ ฟิออเรนติน่า และ โรม่า ยืมตัวไปใช้งาน โดยในปี 2016 “หมาป่าเหลือง-แดง” จ่าเงิน 15 ล้านปอนด์ คว้าตัวเข้าไปร่วมทีมเป็นการถาวร

        ปีกชาวอิยิปต์ ระเบิดฟอร์มให้กับ โรม่า ได้อย่างสุดยอด จนทำให้ ลิเวอร์พูล ยุคกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ ทุ่มเงิน 43 ล้านปอนด์ คว้าตัวเขามายังแอนฟิลด์เมื่อปี 2017 และ ซาล่าห์ ก็พัฒนาตัวเองได้อย่างยอดเยี่ยมจนกลายเป็นกำลังสำคัญในแดนหน้าของ “หงส์แดง” ร่วมกับ ซาดิโอ มาเน่ และ โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่

        ปัจจุบัน ตัวรุกวัย 28 ปี ลงเล่นในลีกให้ ลิเวอร์พูล ไปแล้ว 130 เกม ซัดไปถึง 89 ลูก และสถิติของเจ้าตัวยังคงเพิ่มต่อไปเรื่อยๆ

4. ซาดิโอ มาเน่ (214 เกม 91 ประตู)

       มาเน่ เริ่มต้นค้าแข้งกับ เม็ตซ์ ในฝรั่งเศส ก่อนจะย้ายมาพัฒนาฝีเท้ากับ เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก ในระหว่างปี 2012-2014 จากนั้น เขาก็ย้ายข้ามฟากมาเล่นในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ กับ เซาแธมป์ตัน และทำผลงานได้อย่างสุดยอดด้วยการซัดไป 25 ประตู จาก 75 เกมให้กับ “นักบุญ”

        ในปี 2016 ลิเวอร์พูล ภายใต้การนำทัพของ เจอร์เก้น คล็อปป์ จ่ายเงิน 34 ล้านปอนด์ คว้าตัว มาเน่ มาจาก เซาแธมป์ตัน และ ตัวริมเส้นชาวเซเนกัล ก็กลายเป็นกำลังสำคัญในแนวรุก “หงส์แดง” ทันทีจนถึง ณ เวลานี้ โดยลงเล่นในลีกไป 147 เกม ซัดไป 70 ประตู

        ปีกวัย 28 ปี ถือเป็นคีย์แมนคนสำคัญของ ลิเวอร์พูล ตลอดหลายปีที่ผ่านมาในการพาพลพรรค “หงส์แดง” คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, ยูฟ่า ซุเปอร์ คัพ และแชมป์สโมสรโลก

3. ยาคุบู อเยกเบนี่ (252 เกม 95 ประตู)

       หนึ่งในนักเตะที่อยู่คู่กับวงการฟุตบอลเมืองผู้ดีมาอย่างยาวนาน ยาคุบู เป็นนักเตะจอมพนเจรเคยเล่นให้กับหลายสโมสรในอังกฤษไล่ตั้งแต่ พอร์ทสมัธ, มิดเดิ้ลสโบรช์, เอฟเวอร์ตัน, เลสเตอร์ ซิตี้, แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส, เรดดิ้ง และ โคเวนทรี

        ดาวยิงชาวไนจีเรีย เป็นศูนย์หน้าที่แข็งแกร่ง และสามารถยืนค้ำกับบรรดากองหลังในพรีเมียร์ลีกได้อย่างไม่เป็นรอง นอกจากนี้ ยาคุบู เป็นคนที่ใช้โอกาสไม่เปลืองนัก แต่น่าเสียดายที่เข้าเจ้าตัวไม่มีโอกาสเล่นให้กับสโมสรระดับท็อปในอังกฤษ

        ยาคุบู ประกาศแขวนสตั๊ดในวัย 35 ปี เมื่อปี 2017 หลังจากเป็นนักเตะไร้สังกัดมานานหนึ่งปี แต่สถิติกระหน่ำประตูของเขาในพรีเมียร์ลีกนั้น แฟนบอลหลายคนคงไม่ลืมอย่างแน่นอน

2. เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ (242 เกม 97 ประตู)

       อเดบายอร์ ถือเป็นักเตะที่แฟนบอล อาร์เซน่อล ทั้งรัก และเกลียดเลยก็ว่า โดยหลังย้ายจาก โมนาโก มาเล่นกับ “ไอ้ปืนใหญ่” ในปี 2016 ยุคกุนซือ อาร์แซน เวนเกอร์ นั้น เขาก็แจ้งเกิดได้อย่างยอดเยี่ยมตลอด 3 ปีกับสโมสรด้วยการยิงในพรีเมียร์ลีกไปถึง 46 ประตู

        ในปี 2009 หัวหอกชาวโตโก ตัดสินใจย้ายจาก อาร์เซน่อล ไปเล่นกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ท่ามกลางความโกรธของสาวก “เดอะ กันเนอร์ส” และตลอด 2 ปีกับพลพรรค “เรือใบสีฟ้า” อเดบายอร์ ก็ซัดไปอีก 15 ประตู ก่อนจะย้ายไป เรอัล มาดริด

        อเดบายอร์ หวนกลับมาเล่นในอังกฤษอีกครั้งกับ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ในระหว่างปี 2011-2015 และซัดไปอีก 35 ประตู จากนั้น ก็ย้ายไปเล่นกับ คริสตัล พาเลซ อีก 1 ปี บวกเพิ่มอีก 1 ประตู ก่อนจะพเนจรไปเล่นกับ อิสตันบูล บาซัคเซเฮียร์, เคย์เซริสปอร์ และเพิ่งยกเลิกสัญญากับ โอลิมเปีย เมื่อปี 2020

1. ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา (254 เกม 104 ประตู)

       สุดยอดศูนย์หน้าทีมชาติไอวอรี่ โคสต์ และหนึ่งในนักเตะตำนานของ เชลซี ดร็อกบา ย้ายจาก โอลิมปิก มาร์กเซย มาเล่นในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ ในยุคกุนซือ โชเซ่ มูรินโญ่ และพาสโมสรประสบความสำเร็จมากมายในระหว่างปี 2004-2012 พร้อมกระหน่ำในลีกไปถึง 100 ประตู

       หลังจากนั้น ดร็อกบา อำลา เชลซี ไปเล่นกับ เซี่ยงไฮ้ เสิ่นหัว, กาลาตาซาราย และหวนกลับมาเล่นกับ เชลซี อีกครั้งในปี 2014-2015 พร้อมบวกเพิ่มในลีกไปอีก 4 ประตู ก่อนจะย้ายไปเล่นกับ มอนเทรอัล อิมแพคท์ และแขวนสตั๊ดกับ ฟีนิกซ์ ไรซิ่ง เมื่อปี 2018

ภาพประกอบ : skysports.com,

Che Navapun

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save