Google Stadia จะเปิดให้ใช้งานในเดือนพฤศจิกายนนี้ - The Macho
 
Roral Enfield - Hunter 350
728x150 - Nissan Almera
728x150 - Hunter4
Google Stadia จะเปิดให้ใช้งานในเดือนพฤศจิกายนนี้

ในที่สุดทาง Google ก็ได้ทำการเผยข้อมูลเพิ่มเติมที่สำคัญออกมาให้เราได้ทราบกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากที่มีการเปิดตัวบริการในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดย Stadia ถือว่าเป็นระบบการเล่นเกมแบบสตรีมมิ่งผ่าน Cloud ที่เราต้องเสียเงินค่าบริการรายเดือนเพื่อเข้าใช้งานระบบ ซึ่งสามารถเข้าใช้งานได้ผ่านช่องทางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Chrome Browser, Chromecast, Smartphone, Tablet และอื่นๆ

และเมื่อคืนทาง Google ก็ได้ทำการประกาศช่วงที่จะเปิดให้ใช้งานบริการในระยะเริ่มต้นออกมาแล้วโดยมีกำหนดเปิดให้ใช้งานในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ มีประเทศทั้งหมด 14 ประเทศที่ได้ใช้งาน มีเกมอย่างต่ำ 31 เกมจาก 21 แห่ง โดยที่ตอนนี้ทาง Google ได้เปิดให้เข้าไปทำการสั่งจองล่วงหน้าได้แล้วในสมาชิกที่มีชื่อว่า Founder’s Edition โดยมีราคาอยู่ที่ $129 (ประมาณ 4,000 บาท) โดยภายในชุดจะมาพร้อมกับอุปกรณ์ต่างๆสำหรับการใช้งาน พร้อมกับสิทธิ์การใช้งาน Stadia 3 เดือน หลังจากนั้นจ่ายเดือนละ $9.99 (ประมาณ 310 บาท) โดยจะมีสมาชิกแบบฟรีตามมาในปี 2020

สิ่งที่คุณควรจะรู้ก่อนที่จะให้ความสนใจกับ Stadia จากแรกเริ่มที่เราคิดว่าตัวบริการจะมาพร้อมกับการจ่ายเงินรายเดือนเพื่อที่จะเข้าเล่นเกมต่างๆที่มีให้บริการได้แบบฟรีๆ เหมือนกับการรับชมสิ่งต่างๆบน Netflix แต่จริงๆแล้วมันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เพราะภายในบริการ Stadia ต่อให้เราจ่ายเงินรายเดือนที่ $9.99 ก็ตาม แต่มันเป็นเหมือนค่าเข้าใช้งานบริการ Stadia มากกว่า โดยตอนนี้มีเกมฟรีที่เราจะสามารถเล่นได้ทันทีหลังจากที่จ่ายเงินรายเดือนเพียงเกมเดียวคือ Destiny 2 ส่วนเกมอื่นๆเราจำเป็นที่จะต้องซื้อภายในบริการอีกที ถึงจะสามารถเล่นได้ 

” เราจะทำการขายเกมเหมือนกับที่ร้านค้าดิจิตัลอื่นๆทำ “ กล่าวโดยผู้อำนวยการด้านเกมของทาง Google อย่าง Jack Buser แน่นอนว่าตอนนี้หลายๆคนน่าจะสงสัยแล้วว่ามันมีเกมอะไรให้เราได้เล่นบ้างภายในบริการนี้ ฉะนั้นเราไปดูกันเลย

Bandai Namco: Dragon Ball Xenoverse 2

Bethesda : DOOM Eternal, DOOM 2016, Rage 2, The Elder Scrolls Online, Wolfenstein: Youngblood

Bungie: Destiny 2

Capcom: ยังไม่ระบุ

Coatsink: Get Packed (เฉพาะบน Stadia เท่านั้น)

Codemasters: GRID

Deep Silver: Metro Exodus

Drool: Thumper

Electronic Arts: ยังไม่ระบุ

Giants Software: Farming Simulator 19

Larian Studios: Baldur’s Gate 3

nWay Games: Power Rangers: Battle for the Grid

Rockstar Games: ยังไม่ระบุ

Sega: Football Manager

SNK: Samurai Shodown

Square Enix: Final Fantasy XV, Tomb Raider Definitive Edition, Rise of the Tomb Raider, Shadow of the Tomb Raider

2K Games: NBA 2K, Borderlands 3

Tequila Works: Gylt (เฉพาะบน Stadia เท่านั้น)

Warner Bros: Mortal Kombat 11

THQ: Darksiders Genesis

Ubisoft: Assassin’s Creed Odyssey, Just Dance, Tom Clancy’s Ghost Recon Breakpoint, Tom Clancy’s The Division 2, Trials Rising, The Crew 2

ทาง Google ได้บอกว่านี้ไม่ได้เป็นรายชื่อเกมทั้งหมดที่จะมีให้บริการบน Stadia แต่จะมีเกมอะไรมาเพิ่มบ้างก็ต้องไปรอดูกันในงาน E3 2019 ที่จะจัดขึ้นภายในสัปดาห์หน้า และต้องไปติดตามกันอีกทีในช่วงเดือนพฤศจิกายน แน่นอนว่าบริการตัวนี้ไม่มีรายชื่อประเทศในโซนเอเชียโผล่มาให้ได้ทดสอบกันอีกด้วย จึงมีความเป็นไปได้ที่บริการนี้จะไม่ได้กลายมาเป็นที่นิยมในวงกว้างนัก

สำหรับการใช้งานในช่วงแรกเมื่อเราจ่ายเงิน $129 จะได้รับจอย Stadia รุ่น Night Blue, Chromecast Ultra, สิทธิ์ใช้งาน Stadia Pro 3 เดือน, เกม Destiny 2: Collection, ได้เป็นรายชื่อของผู้ที่เข้าทดสอบแบบ Founder’s Edition และ Stadia Buddy Pass ที่จะสามารถส่งคำเชิญให้เพื่อนมาใช้บริการได้ 3 เดือน โดยอุปกรณ์ที่จะใช้งานเล่นได้ในตอนเริ่มจะประกอบไปด้วย Chrome Browser, Chromecast และสมาร์ทโฟนตระกูล Google Pixel 3 และ 3a เท่านั้น แต่จะมีการขยายอุปกรณ์ที่รองรับเพิ่มเติมในอนาคต

โดยตอนนี้มีกำหนดของรูปแบบการให้บริการอยู่ด้วยกัน 3 แบบคือ Founder’s Edition ที่จ่ายครั้งเดียว $129 จะได้รับบริการตามที่เราได้กล่าวไว้ข้างต้น ตามมาด้วย Stadia Pro ที่จ่ายเดือนละ $9.99 จะสามารถเล่นเกมได้ความละเอียดสูงสุด 4K เฟรมเรต 60FPS ระบบเสียง 5.1 Surround สามารถซื้อเกมต่างๆได้ พร้อมกับรับเกม Destiny 2: Collection ไปเล่นได้ฟรี มีส่วนลดต่างๆให้สำหรับการซื้อเกม Stadia Base ใช้งานฟรีไม่เสียเงิน เล่นเกมความละเอียดสูงสุด 1080p เฟรมเรต 60FPS ระบบเสียง Stereo สามารถซื้อเกมต่างๆได้

ทาง Google ได้บอกว่าความเร็วในการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตขั้นต่ำในการเล่นเกมบนความละเอียด 720p จะใช้งานความเร็ว 10Mbps ส่วนการเล่นบนความละเอียด 1080p จะใช้งานความเร็ว 20Mbps สุดท้ายที่ 4K ใช้ความเร็ว 35Mbps นี้เป็นข้อมูลทั้งหมดที่เราได้จากการออกมาให้ข้อมูลจากทาง Google เกี่ยวกับบริการ Google Stadia โดยข้อมูลเพิ่มเติมอาจจะมีมาให้เราได้ทราบกันอีกครั้งในงาน E3 2019 ก็จับตาดูกันให้ดีเลย

ที่มา – ThisIsGame

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save