ใครเป็นแฟนซุปเปอร์ฮีโร่ไม่ว่าจะฝั่ง Marvel หรือ DC เอง ก็คงจะเคยจิตนาการเล่น ๆ ว่าถ้าเหล่าฮีโร่ทั้งสองหลุดจากหน้าหนังสือของอีกฝั่งไปรวมเข้ากับอีกฝั่งผลของมันจะออกมาเป็นอย่างไร
เพราะตัวละครฮีโร่ทั้งสองค่ายเองก็เก่งไม่ด้อยไปกว่ากัน จากที่แทนจะสู้แต่กับเหล่าร้ายหากข้ามมาสู้กันเองคงจะมันส์ไม่ใช่น้อย บนโลกอินเตอร์เน็ตจึงเกิดกระทู้ถามตอบเอาสนุก ๆ ขึ้นมามากกมายว่าถ้าตัวละครตัวนั้นมาจับเข้ากับตัวนี้ใครจะคว้าชัยชนะไป ส่วนใหญ่ก็มักวิเคราะห์ยกให้ฝ่ายที่ตัวเองเชียร์เป็นผู้ชนะซะส่วนใหญ่
ถ้าไม่ใช่แฟนการ์ตูนตัวจริง แต่เป็นแฟนภาพยนตร์หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าเมื่อปี 1976 เกิดสิ่งที่แฟนการ์ตูนซูเปอร์ฮีโร่คิดว่าไม่มีทางเป็นไปได้ขึ้น เมื่อสองค่ายการ์ตูนยักษ์ใหญ่จากฝั่งเมริกาอย่าง DC และ Marvel ได้จับมือกันนำตัวละครเด่นของพวกเขามาปะทะกันแล้วตีพิมพ์เป็นการ์ตูนเรื่องใหม่ที่สร้างความเซอร์ไพร์ให้กับคนอ่าน
Carmine Infantino หัวเรือใหญ่แห่ง DC Comic ในขณะนั้นและ Stan Lee หัวเรือใหญ่ฟาก Marvel Comic ได้มากลายเป็นเพื่อนสนิทกัน ทำให้ทั้งสองเกิดไอเดียที่จะนำตัวละครมาผจญภัยร่วมกัน ประเดิมด้วยผลงานชิ้นแรกที่นักอ่านพากันประหลาดใจอย่าง Superman vs. the Amazing Spider-Man (1976) ตามด้วย Batman vs. Hulk (1981), และ X-Men vs. The New Teen Titans (1982) อีกทั้งยังมี The Avengers vs. The The Justice League of America ที่เป็นผลงานการเขียนและวาดของ Gerry Conway และ George Pérez โดยมี Roy Thomas เป็นผู้แต่งพล็อตเรื่องซึ่งยังไม่ได้ตีพิมพ์
จนกระทั่งในปี 1996 ทั้งสองค่ายได้ร่วมมือกันสร้างโปร์เจ็คยักษ์ใหญ่ของการรวมเอาตัวละครทั้งหมดของสองฝั่งซุปเปอร์ฮีโร่มาต่อสู้กันในนามว่า Amalgam Comics
เนื้อเรื่องพูดถึงกำแพงมิติของทั้งสองฝั่งที่อยู่ดี ๆ เกิดผิดปกติขึ้นมา ตัวละครทั้งสองค่ายจึงสลับไปโผล่สถานที่ต่างๆแบบไม่มีสาเหตุ คนที่อยู่เบื้องหลังคือสิ่งมีชีวิตระดับจักรวาลทั้งสองฝั่งที่ควบคุมมิติของตัวเอง แบ่งเป็นฝั่งสีแดงและสีฟ้าที่ไม่เคยสนใจใยดีกันมาก่อนจนกระทั่งพวกเขาต้องการให้อีกฝั่งถูกทำลาย
การตัดสินความเป็นอยู่ของจักรวาลนั้นจึงต้องเลือกนักรบออกมาสู้วัดกันใครแพ้มากกว่าก็ต้องไป โดยในตอนนี้จะมีตัวละครพิเศษที่สร้างขึ้นมาเฉพาะเล่มในชื่อว่า Access เป็นตัวกลางค่อยวาร์ปไปมาระหว่างโลกทั้งสอง
ยกแรกผลชนะตัดสินโดยนักเขียนและบรรณาธิการชนะคนละ 3 คะแนนเสมอกัน ยกสองเพื่อความเป็นธรรมพวกเขาใช้ผล vote ของนักอ่านในการตัดสิน ซึ่งผลชนะรวมทั้งหมดตกเป็นของ Marvel ฝั่งค่าย DC กลายเป็นผู้แพ้จักรวาลต้องมลายสิ้นแต่เพื่อหยุดยั้งการหายไปของ DC ตัวละคร Access ตัดสินใจรวมจักรวาลทั้ง 2 เข้าด้วยกันเพื่อให้ DC อยู่รอด
จักรวาล Amalgam จึงเกิดขึ้นตัวละครหลายตัวถูกผนวกเข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น Superman+Captain America กลายเป็น Super-Soldier, Batman+ Wolverine กลายเป็น Dark Claw, Spider-Man+Superboy กลายเป็น Spider-Boy, Iron Man+Green Lantern กลายเป็น Iron Lantern, Wonder Woman+Storm กลายเป็น Amazon และยังมีตัวละครอื่นอีกมากมายที่เกิดจาการรวมร่างกัน แถมยังมีหนังสือแยกของตัวเองออกมายาวไปเลย ช่วงนั้นทั้งสองค่ายต่างก็หยุดการตีพิมพ์เล่มของตัวเองแล้วมาตีพิมพ์การ์ตูนในชื่อ Amalgam Comics เป็นหลัก
จุดสิ้นสุดของเทรนด์นี้อยู่ตรงที่ Jim Shooter บรรณาธิการบริหารของ Marvel Comic ในขณะนั้น รู้สึกไม่พอใจการรวมซูเปอร์ฮีโร่จากสองฟากฝั่ง เมื่อทาง DC นั้นต้องการใช้ The New Teen Titans ซึ่งเป็นคอมิกส์ที่ขายดีที่สุดของตนอีกครั้ง แต่จิมไม่ยอมเพราะเขาต้องการให้ X-Men ของ Marvel ไปปะทะกับกลุ่ม The Legion of Super – Heroes ด้วยเหตุนี้จิมจึงของโบกมือลาการร่วมมือในครั้งนี้และครั้งต่อ ๆ ไปในขณะที่โปรเจ็คอย่าง The Avengers vs.The Justice League of America ซึ่งยังไม่ได้ตีพิมพ์ในขณะนั้นก็หมดสิทธิ์ได้ลืมตาอ้าปากด้วย แต่สุดท้ายก็ยกมาปัดฝุ่นตีพิมพ์ใหม่ช่วงปี 2003 -2004
ส่วนบทสรุปสุดท้ายใน Amalgam จบลงด้วยการเขียนให้ทั้งสองฝั่งกลับมาทำงานของตน สิ่งมีชีวิตระดับจักรวาลแดงกับฟ้าหันหน้ามาจับมือเพื่อดึงจักรวาล DC และ Marvel ทุกคนกลับไปใช้ชีวิตดังเดิมโดยจำอะไรเหตุการณ์ครั้งนั้นไม่ได้ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่มีเพียง Access ยังคงจำทุกอย่างได้เป็นอย่างดีและต้องคอยดูแลจักรวาลทั้งสองไปให้สมดุลกันต่อไปเรื่อย ๆ
Source : Starpics Special – Avengers : Marvel Cinematic Universe |
voeten | kotaku