Onewheel Pint สเก็ตบอร์ดไฟฟ้ารุ่นใหม่ขับขี่และทรงตัวง่ายด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำ - The Macho
 
Roral Enfield - Hunter 350
728x150 - Nissan Almera
728x150 - Hunter4
Onewheel Pint สเก็ตบอร์ดไฟฟ้ารุ่นใหม่ขับขี่และทรงตัวง่ายด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำ

ทุกวันนี้โลกเรามีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสำหรับช่วยการเดินทางในเมืองมากมายไม่ว่าจะเป็นสเก็ตบอร์ด, จักรยานไฟฟ้า, สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าหรือ Segway ที่พากันฮิตทั่วบ้านทั่วเมืองอยู่พักหนึ่ง

ถึงสภาพฟุตบาทและมารยาทบนท้องถนนของประเทศไทยจะไม่เอื้อต่อการใช้งานพาหนะทุ่นแรงเหล่านี้แต่สำหรับบางคนการซื้อหามาไว้ใช้เพื่อเดินทางเชื่อมไปยังป้ายรถเมล์ สถานีรถไฟฟ้าหรือท่าเรือแค่เพียงระยะทางสั้นๆ ก็คุ้มกว่าการยืนรอคิววินมอเตอร์ไซต์ที่แถวยาวเยียดแถมยังช่วยทุ่นทั้งแรงและค่าใช้จ่ายได้ในเวลาเดียวกันด้วย

ล่าสุด Onewheel แบรนด์สเก็ตบอร์ดที่เคยส่งผลงาน Onewheel XR สเก็ตบอร์ดดีไซน์แปลกตาออกมาเมื่อปี 2013 ด้วยการออกแบบที่ผสมผสานระหว่างความเท่ของสเก็ตบอร์ดเข้ากับนวัตกรรมจักรยานไฟฟ้าได้ลงตัวทำให้ผลงานของเขาประสบความสำเร็จอย่างมากในหมู่สเก็ตเตอร์

ซึ่งคราวนี้เขากลับมาพร้อม Onewheel Pint ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ยังคงเอกลักษณ์ล้อขนาดกลางติดอยู่กลางบอร์ดและใช้ไฟฟ้าในการขับเคลื่อนเอาไว้เหมือนรุ่นก่อน แต่ปรับราคาให้ย่อมเยาว์กว่าเดิมและใส่ความมินิมอล ลดความเท่แมนๆ ดิบๆแบบสเก็ตเตอร์ลงแล้วเติมความเรียบทันสมัยเข้าไปมากขึ้นโดยใช้สีเฮิร์ทโทนเป็นหลักเพื่อให้ภาพลักษณ์เอื้อต่อการใช้งานได้ทุกเพศทุกวัย

สำหรับแผ่นบอร์ดมีความยาว 27 นิ้วถือว่ามีขนาดเล็กกว่าแบรนด์อื่นๆถึง 15% และน้ำหนักก็เบากว่าด้วย โดยมาพร้อมหูจับบริเวณด้านข้างเพื่อช่วยให้การเคลื่อนย้ายสะดวกขึ้นจะถือขึ้นรถเมล์หรือรถไฟฟ้าก็สบายๆ  

ไม่เพียงเท่านี้ตัวบอร์ดยังมาพร้อมหน้าจอ LED สำหรับแสดงสถานะระหว่างเดินทาง เช่น สถานะแบตเตอรี่และรวมถึงข้อมูลที่จำเป็นซึ่งสามารถรองรับการเชื่อมตัวผ่านแอพพลิเคชันได้แถมยังมีแผงไฟ LED อัตโนมัติสำหรับส่องไฟขณะใช้งานยามค่ำคืนมาด้วย

แม้หน้าตาจะดูขับยากและต้องใช้การทรงตัวไม่ต่างจากสเก็ตบอร์ดทั่วไปแต่จริงๆ ไม่ยากอย่างที่คิดเพราะการขับเคลื่อนของสเกตบอร์ดรุ่นนี้ใช้พลังงานไฟฟ้า 750 วัตต์ จากมอเตอร์ด้านในและมีระบบเซ็นเซอร์รักษาการทรงตัวช่วยไม่ให้ล้มจ้ำเบ้าแม้ขับขี่บนพื้นผิวไม่เรียบก็ตาม  ส่วนการบังคับทิศทางก็ไม่ยากอย่างที่คิดเพียงถ่ายน้ำหนักตัวไปด้านหน้าเพื่อเร่งความเร็ว โน้มตัวไปด้านหลังเพื่อชะลอความเร็ว

นอกจากนั้นยังมีเทคโนโลยี Simple stop dismount ที่ช่วยให้การขับขี่ง่ายและใช้งานขั้นสูงได้เร็วขึ้นโดยสามารถทำความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 26 กิโลเมตรต่อชั่วโมง วิ่งได้ไกลสูงสุด 13 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง

เรียกว่าน่าจะเหมาะกับสายสตรีทแฟชันผู้ต้องการทำให้การเดินทางในเมืองมีความสนุกมากขึ้นโดยเฉพาะในเมืองที่มีตรอกซอกซอยลัดต่างๆที่รถเข้าไปไม่ถึง ใครอยากได้สักอันตั้งหน้าตั้งตารอเปิดจองได้ภายในเดือนพฤษภาคมนี้ ราคาขายอยู่ที่ 950 ดอลล่าร์หรือประมาณ 30,150 บาท แต่ถ้าจะใช้ในไทยหมั่นดูหน้าระวังรถหลังไว้ให้ดีด้วยน้า

Source & Picture : dailygizmo|onewheel

Suthamat
The girl with flowers tattoo

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save