อยู่ๆ ปรากฎการณ์ #10YearChallenge ก็กระจายเต็มสื่อโซเชียลเน็ตเวิร์ค ไม่มีใครรู้ว่ามันเริ่มขึ้นเมื่อไหร่หรือมาได้อย่างไร แต่สิ่งเดียวที่ทุกคนรู้คือการเข้าร่วมชาเลนจ์นี้ทำได้ง่ายๆ เพียงแค่ลงรูปในอดีตของตนเองเมื่อ 10 ปีที่แล้วเปรียบเทียบกับรูปปัจจุบัน ซึ่งแน่นอนว่าในระยะเวลา 10 ปีนี้ ทุกคนย่อมมีการเปลี่ยนแปลงไปไม่มากก็น้อย ความสนุกและเสียงฮาจึงบังเกิดภายใน #10YearChallenge อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
ข้อมูลจากเว็บไซต์ KOCO ในสหรัฐอเมริกา คาดว่าชาเลนจ์นี้เริ่มมาจาก Damon Lane หัวหน้าหน่วยข่าวพยากรณ์อากาศของสำนักข่าวเขาเอง ที่ได้แชร์ภาพการแจ้งเตือนใน Facebook เมื่อ 10 ปีก่อนเปรียบเทียบภาพปัจจุบันพร้อมกับแคปชั่นท้าทายว่า “คุณน่ะ กล้าที่จะโพสต์ภาพถ่ายของตัวเองระหว่างปี 2009 กับ ปี 2019 หรือไม่ ”
ผู้คนที่ติดตามเขาจึงรับคำท้าโพสต์รูปตัวเองบ้าง และความนิยมก็เริ่มแพร่ไปสู่ดาราเซเลปกลายเป็นเทรนด์ยอดฮิตอย่างที่เราเห็นๆ เต็มหน้าฟีด ซึ่งนอกจากดูรูปเก่าๆ แล้วชาเลนจ์นี้ยังถือเป็นกฤษ์งามยามดีในการพาตัวเองย้อนไทม์ไลน์ไปดูเหตุการณ์สำคัญๆ ของโลกเมื่อ 10 ปีก่อนเกิดว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง ที่ยังส่งผลมาถึงปัจจุบัน
1. Avatar
ไม่อยากจะเชื่อว่าหนังเรื่องนี้จะมีอายุครบรอบ 10 ปีแล้ว ด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดในยุคนั้นอย่างการรับชมหนังแบบ 3 มิติ ประกอบการกับความอลังการของภาพ แสง สี เสียง ที่ผู้กำกับ James Cameron เนรมิตดาวแพนดอร่าขึ้นมา ทำให้ Avatar วันนั้นจนถึงวันนี้ยังคงรั้งตำแหน่งอันดับ 1 สุดยอดหนังเงินตลอดกาลได้อยู่ โดยกวาดรายได้ทั่วโลกไปถึง 2,787,965,087 ดอลล่าห์สหรัฐ หรือ ประมาณ 86,900,000,000 บาท
และเชื่อว่าเกือบทุกคนก็ตั้งหน้าตั้งตารอภาคต่อของสุดยอดหนังเรื่องนี้อยู่ ซึ่ง James Cameron ก็ออกมาเปิดเผยแล้วว่า Avatar จะมีเป็นจักรวาลยิ่งใหญ่ที่มีภาคต่อถึง 5 ภาคด้วยกัน โดยภาค 2 ที่ทุกคนรอคอยจะเปิดตัวในวันที่ 18 ธันวาคม 2020 ส่วน Avatar 3 ก็จะเปิดตัวในอีกหนึ่งปีต่อมาใวันที่ 17 ธันวาคม 2021
2. 21 Guns
Green Day ขึ้นชื่อเรื่องบทเพลงแฝงนัยยะทางการเมือง ซึ่งเพลง 21 Guns จากอัลบั้ม 21st Century Breakdown นั้นเป็นการคัมแบ็คจากอัมบั้มก่อนหน้าได้อย่างสมภาคภูมิแม้จะทิ้งช่วงไปนานพอสมควร โดยเพลงนี้ได้สื่อความหมายในเชิงเรียกร้องให้หยุดทำสงครามกันสักที
เมื่อ 10 ปีที่แล้วถ้าผู้ชายคนไหนไม่รู้จักเพลงนี้คือเชยมาก เพราะสมัยนั้น Geen Day จัดว่าเป็นวงพังค์ร็อคแห่งยุคเลย แถมเพลงนี้ยังใช้ประกอบหนังฟอร์มยักษ์อีกเรื่องแห่งปีนั้นอย่าง Transformers: Revenge of the Fallen ด้วย ส่งผลให้ความฮอตของเพลงนี้พุ่งขึ้นติดชาร์จอันดับ Billboard Hot 100 อย่างรวดเร็ว นอกจากนั้นยังวามารถคว้ารางวัล Best Rock Video จาก งาน MTV Video Music Awards 2009 และรางวัล Favorite Alternative Rock Music รวมถึงถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Grammy Award ในปีนั้นด้วย
ถึงช่วงนี้ทางวงจะยังไม่ได้ปล่อยผลงานใหม่ออกมา แต่ซิงเกิ้ลล่าสุด Back In The USA เมื่อปี 2017 นั้นก็ช่วยให้แฟนคลับหายคิดถึงได้ หากใครตาม Green Day มาตั้งแต่อัลบั้มแรกจนถึงปัจจุบันจะรู้ดีว่าถึงแม้พวกเค้าจะเงียบไปบ้างครั้ง หายไปหลายปีแต่ก็ไม่เคยหยุดนิ่งที่จะสร้างผลงานใหม่ๆมามอบให้แฟนเพลงเสมอ
3. Michael Jackson กับการจากไปตลอดกาล
เป็นข่าวช็อควงการบันเทิงโลกเลยสำหรับการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของราชาเพลงป็อบ Michael Jackson เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2009 ด้วยอาการหัวใจล้มเหลว ซึ่งเป็นการจากไปก่อนจะเริ่มทัวร์คอนเสิร์ตเพื่ออำลาวงการเพียงหนึ่งเดือนเท่านั้น
ช่องเพลง VH1/VH1 Classic’s ได้จัดให้การเสียชีวิตของเขาอยู่ในอันดับ 1 ของหัวข้อ “100 เหตุการณ์ที่ช็อคที่สุดในโลกดนตรี” เพราะการเสียชีวิตครั้งนั้นสร้างปรากฎการณ์ทั้งบนโลกอินเตอร์เน็ตและสื่อต่างๆอย่างไม่เคยมีมาก่อน ยอดจำหน่ายเพลงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว พิธีไว้อาลัยศพมีการถ่ายทอดสดออกอากาศไปทั่วทุกมุมโลกโดยมีผู้ชมมากกว่าพันล้านคนและในปี 2010 บริษัทโซนี่มิวสิกเอ็นเตอร์เทนเมนต์ ใช้เงินกว่า 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำสัญญากับกองทุนจัดการมรดกของ Michael Jackson เพื่อขอสิทธิในการจัดจำหน่ายผลงานหลังเสียชีวิตของเขาตลอดทศวรรษ นับเป็นสัญญาที่มีมูลค่าสูงที่สุดตั้งแต่เคยมีมาในประวัติศาสตร์อุตสาหกรรมดนตรี
เมื่อปี 2016 นิตยสาร Forbes จัดให้เขาเป็นบุคคลมีชื่อเสียงที่ทำรายได้สูงสุดอันดับ 1 หลังเสียชีวิตไปแล้ว ด้วยรายได้กว่า 825 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2016 เพียงปีเดียว ซึ่งสูงที่สุดตั้งแต่มีการบันทึกไว้โดยสิ่งพิมพ์
ถึงแม้ปี 2019 ราชาเพลงป๊อป ผู้มีท่าเต้น Moonwalk เป็นเอกลักษณ์ประจำตัวคนนี้จะลาจากแฟนเพลงไปจนถึง 10 ปีแล้ว แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าเข้ายังคงมีอิทธิต่อการสร้างผลงานเพลงในศิลปินปัจจุบันหลายคน ทั้งในสายฮิปฮอป อาร์แอนด์บี และร็อค รวมถึงอิทธิพลในเรื่องของแฟชั่นด้วย
4.ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
เปลี่ยนโหมดบันเทิงมาเป็นเรื่องสุขภาพบ้าง จำสโลแกน “กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ” กันได้หรือเปล่า ช่วงนั้นเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ชนิดเอ (H1N1) ได้ระบาดไปทั่วโลก ไม่เว้นแม้แต่ประเทศไทย โดยเริ่มแรกระบาดในทวีปอเมริกาเหนือที่ประเทศเม็กซิโก หลังจากนั้นไม่นานเชื้อไวรัสสายพันธุ์นี้ก็แพร่ระบาดไปทางฝั่งประเทศอเมริกาแล้วก็ขยายไปอีกหลายประเทศ
อาการของผู้ป่วยจะมีไข้สูง ไอ จาม มีน้ำมูก อาจมีอาการปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามเนื้อตัว และอาจมีอาการในระบบทางเดินอาหารร่วมด้วย เช่น คลื่นไส้ อาเจียน
ปัจจุบันได้กลายเป็นไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล(Seasonal Influenza)ที่พบปะปนกับสายพันธุ์ต่างๆ ทั่วไป ซึ่งมักพบมากในช่วงฤดฝนแลฤดูหนาว และถึงแม้ว่าผู้ป่วยที่ไม่มีโรคประจำตัวจะสามารถหายได้เองโดยไม่จำเป็นต้องพบแพทย์ แต่ทุกๆปีกลับมีรายงานจำนวนผู้ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่โดยเฉพาะสายพันธุ์ H1N1 เพิ่มมากขึ้นในประเทศไทย ฉะนั้นอย่านิ่งนอนใจว่าเรื่องมันผ่านไปนานแล้ว ไม่น่าจะติดเชื้อได้ เพราะไม่มีใครรู้ว่าเจ้าเชื้อไวรัสนี้จะแวะมาทักทายอีกเมื่อไหร่ ฉะนั้นควรพุ่งตัวไปฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่เพื่อป้องกันการติดเชื้อกันบ้าง ทั้งผู้มีโรคประจำตัวและ ประชาชนทั่วไปเลย
5.สงกรานต์เลือด
ปิดท้ายด้วยเหตุการณ์ทางการเมืองของไทยในอดีตเมื่อ 10 ปีที่หลายคนอาจลืมไปแล้วอย่าง “สงกรานต์เลือด” ช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน 2009 เกิดเหตุการณ์เดินขบวนประท้วงของกลุ่มคนเสื้อแดงในพื้นกรุงเทพฯและพัทยาเพื่อขับไล่รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ออกจากตำแหน่ง โดยมีผู้เข้าร่วมประท้วงมากถึง 100,000 คน และด้วยความยืดเยื้อประกอบกับความรุนแรงที่ทวีคูณมากขึ้น รัฐบาลจึงประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อควบคุมสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้น ซึ่งกลับทำให้เกิดการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมถึงเจ้าหน้าที่ทหารกับกลุ่มผู้ชุมนุมอยู่บ่อยครั้ง ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์นั้นถึง 135 ราย บาดเจ็บสาหัส 45 ราย และเสียชีวิต 2 รายซึ่งตำรวจสัณนิษฐานว่าเป็นการฆาตกรรมระหว่างการชุมนุมไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหตุชุมนุมทางการเมืองโดยตรง
ในที่สุดการชุมนุมก็ยุติลงวันที่ 14 เมษายน และหลังจากนั้น 10 วัน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จึงออกมาประกาศยกเลิกพระราชกำหนดสถานการณ์ฉุกเฉินเมื่อเห็นว่าสถานการณ์คลี่คลายแล้ว
ปี 2019 นี้เป็นปีที่คาดกันว่าคนไทยจะได้เลือกตั้งอีกครั้งหลังจากตกอยู่ภายใต้อำนาจของคณะรัฐประหารมาเนิ่นนาน ไม่ว่าผลการเลือกตั้งจะออกมาอย่างไรก็ตาม คนไทยควรจำเหตุการณ์นี้ไว้เป็นบทเรียนและย้ำว่ากับตัวเองว่าอย่าปล่อยให้เรื่องน่าสลดใจถูกบันทึกบนหน้าประวัติศาสตร์ไทยอีกครั้ง
