ปี 2018 ที่ผ่านมาเป็นปีที่มีเทรนหลายอย่างบูมขึ้นแล้วดับไปอย่างรวดเร็ว เรามาดูกันดีกว่าว่ามีอะไรไป และอะไรจะมาต่อในปี 2019 นี้
VR & AR
1-2 ปีที่ผ่านมานับว่านี่เป็นเทคโนโลยีที่ถูกพยายามนำมาเปลี่ยนแปลงประสบการณ์ของตลาดต่างๆ แต่ก็ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ายังไม่สามารถเข้าสู่ตลาด Mass ได้ แต่เข้าสู่ตลาดของผู้ที่มีกำลังซื้อได้บ้าง เช่น ตลาดเกม หรืออย่างการมาของ Pokemon GO ก็จุดกระแสให้ หลายค่ายเกมอยากที่จะพัฒนาเกมแนว AR ตาม แต่การเดินตามรอยเท้าคนที่สำเร็จอย่างมากก็ยากที่จะทำได้ดีเท่า และระยะเวลาในการพัฒนาก็ยาวนานเกินไปทำให้กระแส AR จาก Pokemon GO หายไปด้วย
ส่วน VR ก็ยังอยู่เฉพาะกลุ่มด้วยเทคโนโลยี และอุปกรณ์เพิ่มเติม ทำให้ถูกนำไปใช้ทางด้านประสบการณ์ความบันเทิงอย่างการชมภาพยนตร์ และเกมเสียส่วนใหญ่ โดยยังมีข้อเสียคือผู้ใช้บางส่วนมีอาการมึนหัวเมื่อใช้นานๆ นับว่าเป็นสองเทคโนโลยีที่ยังต้องพัฒนาต่ออีกพักใหญ่
Block Chain หรือ สกุลเงินดิจิตอล
ปีที่ผ่านมาเมื่อต้นปีเทรนที่มาแรงมากหนีไม่พ้น “Block Chain” หรือ “เงินดิจิตอล” ที่หลายคนคุ้นหูกันดีกับสกุลเงินหนึ่งในหลายๆ สกุลเงินดิจิตอลนั่น คือ “Bitcoin” ที่มีการกว้านซื้อการ์ดจอเพื่อมาขุดเหมือง Bitcoin กัน แล้ววูบหายไปช่วงท้ายปี 2018 หลังจากที่เริ่มได้สัญญาณว่าเหมือง Bitcoin แตกแล้ว ซึ่งเหตุที่เกิดการร่วงของค่าเงินดิจิตอลมาจาก ต้นทุนในการขุด คือพวกอุปกรณ์ และค่าไฟต่างๆ สูงกว่ามูลค่าของเงิน Bitcoin ที่ได้มา
ช่วงที่บูมจริงๆ น่าจะเกิดจากการเก็งกำไรจากตัวเงินสกุลดิจิตอลนี้มากกว่า แต่ด้านการใช้งานจริงยังไม่สามารถใช้ได้เท่าไหร่นัก เนื่องจากมีร้านค้าจำนวนน้อยที่ยอมรับการจ่ายเงินด้วยสกุลเงินดิจิตอลนี้
แต่ปลายปี 2018 นี้ยังมีข่าวว่า Facebook เองเตรียมทำสกุลเงินดิจิตอลของตัวเอง ซึ่งนี่น่าจะมีการขยับครั้งใหญ่อีกครั้ง เนื่องจากจำนวนผู้ใช้ Facebook มีจำนวนมากทั่วโลก มีโอกาสที่สกุลเงินนี้จะกลายเป็นสากลได้มากขึ้น ถ้าคิดภาพไม่ออกให้เปรียบเทียบกับสแตมป์ของ 7-11 น่าจะใกล้เคียง คือถ้ามีคนยอมรับ แล้วสามารถนำมาใช้จ่ายได้ หรือแลกกลับมาเป็นเงินจริงได้มันมีโอกาสจะไปด้วยตัวมันเองต่อได้เช่นกัน
อ้างอิงจาก – cheddar
ตลาดโทรศัพท์มือถือ
ตลาดโทรศัพท์มือถือ เข้าใกล้ยุคอิ่มตัว โดยเราสามารถสังเกตุได้จากช่วง 1 ปีที่ผ่านมา โทรศัพท์มือถือที่เปิดตามมาใหม่จะไม่ค่อยมีเทคโนโลยีที่หวือหวาเท่าไหร่แล้ว (หลายคนแซวว่านี่จะน่าเพราะว่าการจากไปของศาสดาสตีฟ จอบส์ของแอปเปิ้ลเลย) ต้องมารอลุ้นกันว่าต่อจากยุคโทรศัพท์สมาร์ทโฟนเปลี่ยนโลกแล้ว อะไรจะเป็นยุคถัดไป ซึ่งบริษัทที่พยายามจะสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ อย่าง Google หรือ Facebook เองก็แข่งกันอย่างดุเดือด เพราะถ้าใครชนะเกมนี้เรียกว่าอยู่ในตลาดกันยาวเป็น 10 ปีเลยทีเดียว
เทรนเทคโนโลยีที่จะมาในปี 2019
Artificial Intelligence (AI)
“Artificial Intelligence” ที่เรียกย่อๆ ว่า “AI” หรือแปลว่า “ปัญญาประดิษฐ์ “
โดย AI จะเข้ามาแทนการทำงาน routine ที่ทำซ้ำๆ ไม่จำเป็นต้องใช้ความสามารถในการสร้างสรรค์อะไรไปจากเดิมมาก ซึ่งเราก็จะเห็นว่าช่วงนี้หลายหน่วยงานเริ่มดึง AI เข้ามาใช้แล้ว เช่น Call center เราสามารถแชทกับบอทแทนคนสำหรับคำถามเดิมๆ ที่มีคนถามเข้ามาเยอะๆ ซึ่งไม่เพียงแต่หน่วยงานใหญ่เท่านั้นที่ใช้ เราหลายคนก็ยังใช้ AI กันแบบไม่รู้ตัวเช่น ใครที่ขายของผ่านการออนไลน์ Facebook เองก็พัฒนา AI ที่ช่วยตอบคำถามอัตโนมัติให้แอดมินเพจต่างๆ ไม่ต้องตอบเองเวลาเจอคำถามซ้ำๆ เดิมๆ
ซึ่งแน่นอนงานของใครที่ไม่ได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์เพิ่มเติมอาจจะถูกแทนที่ด้วย AI ความเสี่ยงตกงานของคนก็จะสูงขึ้น และแน่นอนภายในไม่เกิน 5 ปี AI จะพัฒนาก้าวกระโดดกว่านี้มากจนอาจทำให้โลกเปลี่ยนชนิดหน้ามือเป็นหลังมือในทุกธุรกิจเลยก็ว่าได้
ภาพจาก – cisin, Virtual Reality Pop, hacked, Nextgov, cit