ต้องรู้ก่อนสาย! 3 วิธีจัดการชีวิตครั้งเดียวมุ่งสู่ความสำเร็จทันที #menhack - The Macho
 
Roral Enfield - Hunter 350
728x150 - Nissan Almera
728x150 - Hunter4
ต้องรู้ก่อนสาย! 3 วิธีจัดการชีวิตครั้งเดียวมุ่งสู่ความสำเร็จทันที #menhack

เรื่องใหญ่ที่คนเรามักล้มเหลวมีมากมายหลายเหตุผล ไม่ว่าจะเกิดขึ้นจากปัจจัยภายในหรือภายนอกของตัวเรา ความจริงก็คือเรามักจะติดกับดักการใช้ชีวิตในแต่ละวัน ทำให้เราไม่สามารถมุ่งเน้นไปที่เป้าหมายได้อย่างเต็มที่ พลังงานชีวิตส่วนใหญ่ถูกแจกไปยังกิจกรรมต่างๆที่เราทำ ซึ่งนั่นทำให้เราอ่อนล้าในการวิ่งสู่เป้าหมายและดูจะไกลออกไปมากขึ้นทุกวัน และสุดท้ายกลายเป็นเพียงฝันละเมอที่ไม่อาจคว้ามาครอบครอง

ซึ่งคนที่ประสบความสำเร็จทุกคนล้วนตัดสิ่งไม่จำเป็นทิ้งจากชีวิตเพื่อเดินทางสู่เป้าหมาย เรื่องเหล่านี้เรารับรู้มาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง เพียงแต่สุดท้ายเราไม่สามารถทำได้ซักที ความสนใจในสิ่งใหม่ๆ ถาโถมเข้ามาไม่เว้นวัน วนลูปเป็นวงจรของเราที่ทำได้แค่ฝันและลงท้ายด้วยฝันซ้ำเท่านั้น เพียงแต่บทความนี้จะพาคุณพุ่งสู่เป้าหมายที่คุณฝันไว้ รู้ทันกลไกที่พยายามบิดเบือนความฝัน เลิกสับสนใรการใช้ชีวิต เพื่อพุ่งสู่ประตูแห่งความสำเร็จกัน

(Source – bustle.com)

รู้จักกลไกร่างกาย

สิ่งแรกก่อนจะมุ่งไปไหน ความเข้าใจในตัวเองสำคัญที่สุด เชื่อว่าทุกคนต่างรู้ว่าตัวเองต้องทำอะไร เพียงแต่ร่างกายไม่เล่นด้วยเท่านั้นเอง คุณมีพื้นฐานในการใช้ชีวิตแบบไหน ร่างกายย่อมไม่ละเลยหน้าที่ของตัวมัน และชอบทำสิ่งนั้นซ้ำไปซ้ำมา การที่เราจะเปลี่ยนแปลงชีวิตให้ดีขึ้น ร่างกายจะรู้สึกว่ามันยากและไม่คุ้นชิน มันจึงบอกคุณว่าแบบเดิมก็อยู่ได้นิ ไม่เปลืองแรงด้วย เก็บตุนพลังงานไว้ดีกว่า พอร่างกายรู้สึกไม่จำเป็นต่อการดำรงชีพ มันจึงขออยู่แบบชิวๆเหมือนเดิม นี่คือเหตุผลง่ายๆที่ทำให้เราไม่รู้สึกว่าต้องกระตือรือร้นต่อความฝันที่เราจะเดินไป คุณจึงจำเป็นต้องรู้เป็นอย่างแรกเกี่ยวกับกลไกของร่างกายที่ทำให้ชีวิตไม่ก้าวหน้า

ทางออกที่ดีที่สุดคือทำมันทันที เริ่มจากสิ่งง่ายไปหายาก การเปลี่ยนกิจวัตรประจำวันใหม่ดูจะเป็นเรื่องที่ไม่ยาก แต่คนส่วนใหญ่ทำได้เพียงไม่กี่วันก็กลับมาอยู่ในสภาพเดิม นั่นหมายถึงเรื่องนี้ยากเอาการ ลองเริ่มจากการเปลี่ยนเวลานอน ให้เร็วขึ้นซัก 15-30 นาทีในตอนเริ่มต้น ทำซ้ำซัก 3-4 วัน แล้วจึงค่อยปรับเพิ่ม วิธีการแบบนี้จะทำให้ร่างกายคุณชินไปในที่สุด สุดท้ายเมื่อปรับเข้าถึงเวลาตามที่ต้องการ ร่างกายจะคุ้นชิน ต่อให้คุณลืมตั้งนาฬิกาปลุกในตอนเช้า ร่างกายจะตื่นเองด้วยกลไกทางธรรมชาติ เท่านี้คุณก็สำเร็จในการภารกิจแรกในการกลับมามีชีวิตที่ดีขึ้นได้แล้ว เรื่องอื่นก็เช่นกัน มันยากมากที่จะหักดิบเปลี่ยนแปลงอย่างเฉียบพลัน ลองทำอย่างมีแบบแผน ค่อยๆปรับให้ร่างกายเรียนรู้สิ่งใหม่ เมื่อเข้าใจร่างกายแล้วปัญหาในการออกไปล่าฝันจะพบอุปสรรคน้อยลง เพราะเจ้าของร่างคือเรา ต้องทำให้มันพร้อมเดินทางไปกับเรา

(Source – forbes.com)

จัดการปัญหาชีวิตให้อยู่หมัด

คุณรับมือกับปัญหาชีวิตอย่างไร? คำตอบของคำถามนี้จะเป็นสิ่งที่ทำให้กลายเป็นคุณ เมื่อมีความทุกข์ บางคนออกไปดื่มเหล้า บางคนออกไปหาเพื่อน บางคนร้องไห้ และบางคนพยายามมองหาข้อดีจากสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะหาทางออกแบบไหนล้วนไม่ผิด เพราะนั่นเป็นทางออกของการแก้ปัญหาของแต่ละคน เป็นกลไกของร่างกายในการคลายความเครียดออกจากร่างกาย ช่วงเวลาที่จิตใจอยู่ในภาวะไม่สมดุล คือช่วงเวลาแห่งความโลเล วอกแวก และสับสน เจ้าร่างกายตัวแสบจะออกมายุติความกังวลด้วยการทำให้จิตใจเบาลง ด้วยการกระทำที่ไม่ค่อยดีนัก เช่น การปฏิเสธ การโกหก(คนอื่นและตัวเอง) โทษคนอื่น หรือการบิดเบือนความจริง ขึ้นอยู่กับแต่ละคนและในแต่ละช่วงเวลา สิ่งเหล่านี้ทำให้ตัวเราผ่อนคลายความเครียดลง แต่มันเป็นเพียงการแก้ปัญหาระยะสั้นเท่านั้น และส่งผลเสียในระยะยาวในตัวเราเอง แม้แต่การมองโลกในแง่ดี หรือการบอกตัวเองว่าพรุ่งนี้จะดีขึ้น ก็อาจส่งผลเสียในระยะยาวได้เช่นกัน

การแก้ปัญหาชีวิตที่ดีที่สุดคือการ แก้ไขสิ่งที่ทำผิดพลาดเท่าที่แก้ได้เท่านั้น และยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น หากคุณฆ่าสุนัขข้างบ้านตายโดยไม่ตั้งใจ ถอยรถและมองไม่เห็นว่าน้องหมานอนอยู่ คุณอาจโกหกข้างบ้าน หรือบิดเบือนความจริง เพื่อเอาตัวรอด และก็ได้ผล ข้างบ้านไม่รู้ว่าคุณทำ แต่สุดท้ายคุณก็กลับมานั่งทุกข์ใจที่ฆ่าสัตว์อยู่ดี คุณกังวลที่อาจมีกล้องหรือคนเห็นเหตุการณ์ในตอนนั้น เรื่องราวเริ่มเครียดขึ้น ความกระวนกระวายใจเริ่มครอบงำ คุณเริ่มโทษนู้นโทษนี่ สุดท้ายจากเรื่องราวที่ไม่ได้ตั้งใจให้เกิดขึ้นก็กลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตจากทั้งภายนอกและภายในใจตัวเอง สาเหตุหลักมาจากการแก้ปัญหาผิดตั้งแต่เริ่ม การรับมือกับปัญหาจึงเป็นเหตุผลสำคัญอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เราไม่สามารถเดินตามฝันได้ เพราะต้องติดอยู่กับความทุกข์ใจและการแก้ปัญหามากมายที่บานปลายออกไป การแก้ปัญหาที่ดีที่สุดจึงกลายเป็นเพียงการยอมรับความจริง รับผิดชอบในสิ่งที่ทำผิดพลาดไป และเดินหน้าต่ออย่างไม่ประมาทอย่างเดิมอีก ต่อให้คนอื่นจะเกลียดคุณที่เคยทำผิดเอาไว้ แต่นั่นคือเรื่องที่คุณไม่อาจหยุดให้คนอื่นไม่คิดได้ คุณจึงต้องเดินหน้าต่อไป กลับมาโฟกัสที่เป้าหมาย และพุ่งทะยานออกไปอีกครั้ง เก็บประสบการณ์ความเลวร้ายจากปัญหาใรครั้งนั้นไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำอีก

(Source – greenhouse.io)

ทำทันที

เคยคิดไหมว่าเราต้องใช้เวลากี่ปีในการทำให้ความฝันประสบความสำเร็จ บางคนอยากไปเที่ยวยุโรป บางคนอยากได้รถหรู บางคนอยากมีบริษัทเป็นของตัวเอง และคนส่วนใหญ่อยากรวย เป้าหมายของทุกความฝันจะเป็นไปไม่ได้เลย หากคุณไม่ลงมือทำ ไม่มีใครเสกสิ่งของได้ มีแต่คนที่ลงมือทำเท่านั้นที่จะมีโอกาสไปถึงฝันที่ตั้งไว้ ทุกความฝันยากทั้งหมด ต้องฝ่าฟันถึงจะเรียกว่าความฝัน เพราะหากมันง่าย มันจะเป็นเพียงความต้องการเท่านั้น ไม่ยิ่งใหญ่และคู่ควรต่อการฝ่าฟัน สุดท้ายก็จะเกิดความต้องการใหม่ๆมาอีก

ที่จริงความฝันก็เช่นกัน มีได้มากมาย แต่ต้องฝ่าฟันถึงจะสำเร็จ ฝันเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ หลายคนจึงเดินไปไม่ถึง มันจึงคุ้มค่าที่ได้ทำตามฝัน เราจึงต้องทำทันทีในการสร้างความฝันให้เป็นจริง เปร่งประกายแสงเจิดจ้าให้ทุกคนรู้ว่าความสำเร็จมันยอดเยี่ยมแค่ไหน เกิดมาชาตินี้ลูกหลานจะจดจำวีรชนของครอบครัว ในฐานะคนล่าฝันที่บรรลุเป้าหมาย เรื่องราวจะถูกเล่าขานได้อีกนานแสนนาน เพียงแค่วันนี้ยังคงเป็นเพียงภาพเบลอๆ ที่มองไม่ชัด หากเราลงมือทีละน้อยๆ ให้ร่างกายเข้าใจ แก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างเป็นระบบ สร้างภูมิต้านทานให้กับชีวิต เป้าหมายที่หวังเอาไว้ไม่มีทางเป็นไปไม่ได้ และที่สำคัญที่สุด “ความสำเร็จของคนเราไม่เหมือนกัน อย่าไปหยิบความชอบของคนอื่นมาเป็นเป้าหมายของตัวเอง” ลพกม.

Meru Meru

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save