เพื่อนๆ ที่กำลังตรากตรำทำงานในช่วงปลายปีนี้เครียดกันบ้างมั้ย? ทั้งปัญหาเศรษฐกิจ การเมืองและสังคมที่กำลังรุมเร้าในช่วงนี้อาจเข้าไปเพิ่มความเครียดให้กับการทำงานมากยิ่งขึ้น
ใครที่เป็นเช่นนั้นอยู่วันนี้เรามีข่าวดีจะมาแจ้งให้ทุกคนได้ทราบว่า ผลวิจัยชี้ว่าการฟังเพลงคลอระหว่างการทำงานนั้นสามารถช่วยลดความเครียด เพิ่มสมาธิ และแรงบันดาลใจในการทำงานได้ แต่เพื่อนๆ ต้องเลือกเพลงฟังกันให้ถูกต้องกับลักษณะของงาน
ในปี ค.ศ. 2005 มีผลงานวิจัยที่มีชื่อหัวข้อว่า The Effect of Music Listening on Work Performance ได้เผยผลลัพธ์จากงานวิจัยว่า การฟังเพลงนอกจากจะเป็นกิจกรรมคลายเครียดอันดับต้นๆ ของทุกคนบนโลก ที่ช่วยให้เราสามารถหลบหนีจากสังคมที่วุ่นวาย มามีความสุขกับสิ่งที่อยู่ใกล้ตัว และช่วยสร้างความเพลิดเพลินบันเทิงใจแล้ว การฟังเพลงสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้อีกด้วย แต่มีข้อแม้ที่สำคัญที่คุณควรจะทราบไว้ ซึ่งเราได้สรุปไว้ให้ดังนี้
เพลงแบบไหนเหมาะที่ฟังระหว่างการทำงาน ?
เพื่อให้ผู้อ่านได้มั่นใจในสิ่งที่เราแนะนำ คำตอบของข้อนี้เราได้มาจากคุณ ฮอลแลนด์ ไฮย์ (Holland Haiis) ผู้เชี่ยวชาญด้านมนุษย์ศาสตร์ที่เคยได้ให้สัมภาษณ์กับนักข่าว The Huffington Post ในประเด็นนี้ว่า หากคุณต้องการมีสมาธิกับการทำงานที่มีลักษณะของการอ่านทำความเข้าใจ หรือการเขียนอะไรสักอย่าง ดนตรีที่เหมาะสำหรับฟังร่วมกับกิจกรรมลักษณะนี้ก็คือดนตรีเบาๆ แบบไม่มีเนื้อร้อง แต่หากคุณต้องทำงานที่มีลักษณะซ้ำที่ไม่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์อะไรมาก เช่น การป้อนข้อมูล หรือเก็บข้อมูลการทดลอง เพลงที่เหมาะกับงานลักษณะนี้ก็คือ เพลงที่มีจังหวะหนักๆ หรือเพลงที่มีเนื้อหาปลุกใจซึ่งมันจะช่วยให้สมองเรารู้สึกตื่นตัวอยู่ตลอด และมีแรงบันดาลใจระหว่างการทำงานมากขึ้น
นอกจากนี้ ไฮส์ ยังบอกอีกว่า มีเพลงอีกสองประเภทที่เหมาะกับงานทุกรูปแบบได้แก่ เพลงซาวด์แทร็ก และ ดนตรีคลาสสิก เขาชี้ว่าการฟังเพลงซาวด์แทร็กจากภาพยนตร์ที่เราชื่นชอบจะช่วยให้เราทำงานได้ดีขึ้น เพราะผลการวิจัยชี้ให้เราได้ทราบว่าการฟังเพลงที่เรารู้สึกคุ้นเคย จนไม่ได้ใส่ใจเนื้อหาของเพลงมากนัก จะช่วยสมองเราปรับตัวเข้าสู่โหมดการทำงานได้เร็วขึ้น
ส่วนดนตรีคลาสสิกนั้นถือเป็น “ยาวิเศษ” สำหรับการทำงานเลยก็ว่าได้ เพราะผลวิจัยชี้ว่าจังหวะและเสียงจากดนตรีคลาสสิกจะช่วยเพิ่มสมาธิและความคิดสร้างสรรค์แก่ผู้คนที่กำลังทำงาน ซึ่งอิทธิพลของดนตรีคลาสสิกที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานนี้ถูกเรียกว่า “โมสาร์ท เอฟเฟกต์” (Mozart Effect) ซึ่งเราจะได้พูดกันในหัวข้อถัดไป
โมสาร์ท เอฟเฟกต์ คืออะไร ?
โมสาร์ท เอฟฟเฟกต์ เป็นปรากฏการณ์ทางร่างกายที่ถูกทำให้เป็นที่รู้จักในปี ค.ศ. 1993 จากผลงานวิจัยที่มีชื่อว่า Music and Spatial Task Performance ซึ่งในการวิจัยในมีการให้กลุ่มตัวอย่างฟังเสียงจากดนตรีเปียโน Mozart’s Sonata ระหว่างการทำงาน ซึ่งผลการวิจัยพบว่าเสียงดนตรีดังกล่าวสามารถกระตุ้นการทำงานของสมอง เพิ่มความสามารถเชิงตรรกะ และพัฒนาความจำของผู้เข้าร่วมทดสอบได้อย่างมีนัยยะสำคัญ
เพลงแบบไหนไม่เหมาะที่จะเปิดฟังระหว่างการทำงาน ?
สำหรับประเด็นสุดท้ายที่เราจะมาพูดกันในครั้งนี้ก็คือลักษณะของดนตรีที่ไม่มีความเหมาะสมเลยในการเปิดฟังระหว่างการทำงานประกอบด้วย เพลงป๊อป และเพลงที่มีเนื้อหาที่เราให้ความสนใจ เพราะเพลงเหล่านี้จะทำให้สมาธิของเราไปจดจ่อกับเนื้อหาของเพลงมากกว่างานที่อยู่ตรงหน้า โดยเฉพาะเพลงที่มีเนื้อหาเข้ากับสภาพอารมณ์ของเราในตอนนี้ซึ่งจะทำให้เราอินกับมันเป็นพิเศษเพราะนอกจากมันจะดึงเราออกจากห้วงอารมณ์ไม่จากงานเราแล้ว มันยังพาเราจมดิ่งเข้าสู่เนื้อหาของเพลงได้ง่าย เช่น เพลงรัก หรือเพลงที่มีเนื้อหาอกหักรักคุดทั้งหลาย
และนี่ก็คือข้อควรรู้ และข้อดีของการเปิดเพลงฟังระหว่างการทำงานที่เราอยากแจ้งให้เพื่อนๆ ได้ทราบในครั้งนี้ ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับหนุ่มสาววัยเรียนวัยทำงานกันทุกคน เมื่อได้ทราบประโยชน์กันไปแล้วก็อย่าลืมลองหาเพลงเหมาะๆ เปิดฟังระหว่างการทำงานกันดู ไม่แน่ว่ามันอาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ดีขึ้นได้มากครับ
