เปิดเผยข้อมูลออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับระบบตัวใหม่ที่จะถูกนำมาใช้งานกับอุปกรณ์พกพาของทาง Apple อย่าง iOS 14 โดยในครั้งนี้ก็ได้มีการขนฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อนในฝั่งของ Apple ให้เราได้เห็นกัน จะมีอะไรที่น่าสนใจบ้างเราไปดูกันเลย
App Clips: เป็นฟีเจอร์ที่น่าสนใจที่จะทำให้เราสามารถลดการใช้งานพื้นที่ของตัวเครื่องลงไปได้ โดยจะมีหน้าที่ในการเลือกดาวน์โหลดส่วนที่จะต้องการใช้งานเท่านั้น ทำให้ลดขนาดและระยะเวลาที่ใช้ในการดาวน์โหลดและติดตั้ง
App Library: ใครที่มีปัญหาในการแยกหมวดหมู่แอปพลิเคชันที่อยู่บนหน้าจอของเราจำนวนมาก ตอนนี้ทาง Apple ได้เพิ่มตัวช่วยในการจัดเรียงแอปพลิเคชันให้อยู่ในพื้นที่เดียวกันตามประเภททำให้ง่ายต่อการใช้งาน อีกทั้งยังสามารถซ่อนหน้าจอหลักของเราให้ไม่ต้องสไลด์ไปมาได้อีกด้วย
Apple Maps: เราอาจจะคุ้นชินกับ Google Maps มากกว่าแต่ทาง Apple ก็ยังได้มีการเพิ่มฟีเจอร์ต่าง ๆ ของแอปแผนที่ตัวเองให้ดียิ่งขึ้น และในครั้งนี้ได้มีการเพิ่มฟีเจอร์แนะนำร้านค้าและสถานที่ต่าง ๆ ให้หาได้ง่ายยิ่งขึ้น พร้อมกับเพิ่มไอค่อนต่าง ๆ เข้าไปเพิ่มเติม
CarPlay: เพิ่มความสามารถให้สามารถใช้งาน NFC เพื่อใช้สำหรับปลดล็อครถรุ่นที่รองรับได้แล้ว ซึ่งในตอนนี้ก็จะมีเฉพาะแบรนด์ BMW เท่านั้น
Home Screen and Widgets: ขึ้นชื่อว่า Widgets ก็แน่นอนว่าจะทำให้เราสามารถที่จะเข้าถึงแอปพลิเคชันต่าง ๆ ได้ง่ายยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสามารถรับข้อมูลต่าง ๆ ของแอปพลิเคชันที่รองรับให้เราได้ทราบ โดยที่ไม่ต้องเข้าไปใช้งานก็ยังได้
Messages: สามารถที่จะใช้งานฟีเจอร์ที่เกี่ยวกับการแชทได้มากยิ่งขึ้น อย่างเช่นการปักหมุดการแชทที่ใช้งานบ่อย สามารถที่จะตอบกลับเป็นรายบุคคลได้ในการแชทที่เป็นแบบกลุ่ม
Memoji: ในส่วนของ Memoji อาจจะไม่ได้เพิ่มเติมอะไรที่แปลกใหม่เข้ามามากนัก แต่ก็ยังได้เปิดอิสระให้ผู้ใช้งานสามารถที่จะปรับแต่ง Emoji ต่าง ๆ ได้มากยิ่งขึ้น
Picture in Picture: หรือที่เราคุ้นกันในชื่อว่า PIP ที่ทำให้ตอนนี้ผู้ใช้งานสามารถที่จะรับชมวิดีโอต่าง ๆ ได้แบบหน้าต่างลอย ทำให้สามารถดูสิ่งที่เราสนใจได้อย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ใช้งานแอปพลิเคชันอื่นได้ทันที
Siri: โดยปกติแล้วเราจะเห็นว่าเวลาที่กดเรียกใช้งาน Siri ตัวระบบจะมีการเด้งหน้าจอสำหรับการใช้งานขึ้นมาบดบังหน้าจอของเรา แต่ด้วยการออกแบบใหม่จะทำให้ Siri มีหน้าตาสำหรับการเรียกใช้งานที่เล็กลงมา ไม่บังหน้าจอของเราอีกต่อไป
Translate: ในที่สุดก็มีแอปสำหรับการแปลภาษาของตัวเองที่ช่วยให้เราสามารถแปลภาษาได้ผ่านทั้งการพิมพ์และการพูด โดยที่จุดเด่นคือไม่จำเป็นต้องต่อเน็ตอยู่ก็สามารถใช้งานได้
ถือว่าเป็นฟีเจอร์ที่น่าสนใจอย่างมากโดยที่ iOS 14 จะรองรับ iPhone ตั้งแต่รุ่น iPhone 6s ขึ้นไป ส่วน iPad ที่จะได้ใช้งานเป็น iPadOS 14 จะรองรับตั้งแต่ iPad Air 2 ขึ้นไป (iPad 5, iPad Pro 1 ขึ้นไป) กำหนดการปล่อยให้ใช้งานจะอยู่ในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้
ที่มา – ThisIsGame