ทีมชาติโปรตุเกสในขณะนี้ เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในยุคที่ดีที่สุดของพวกเขาเลยก็ว่าได้ หรืออย่างน้อยก็ใกล้เคียงกับชุดที่คว้าแชมป์ยูโร 2016 อย่างมาก ใช่แล้ว เพราะว่าในการแข่งขัน ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ที่กำลังแข่งกันอยู่ในตอนนี้ ทีมชาติโปรตุเกสมีฟอร์มที่ร้อนแรงอย่างมาก จนกูรูบางสำนักยกให้เป็นเต็งหนึ่งที่จะคว้าแชมป์ในรายการนี้เลยทีเดียว
ทีมชาติโปรตุเกสได้ก้าวขึ้นไปเป็นชาติมหาอำนาจทางฟุตบอลได้ก็เพราะมี คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ผู้ที่เคยคว้าทริปเปิลแชมป์ในระดับสโมสรได้ถึง 2 ครั้ง และความสามารถเฉพาะตัวที่ทำให้เขาถูกยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์วงการฟุตบอล รวมถึงเป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดตลอดกาลในระดับประเทศ ซึ่งผลงานการแบกทีมชาติของเขาก็การันตีได้โดย การช่วยโปรตุเกสคว้า 2 ถ้วยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในระดับยุโรปมาครองได้สำเร็จ
ซึ่งผลงานในระดับทีมชาติที่โดดเด่นนี้ ทำให้เขาได้เปรียบเมื่อมีการถกเถียงเพื่อเปรียบเทียบกับ ลีโอเนล เมสซี่ ว่าใครเก่งที่สุดในวงการฟุตบอล เพราะ เมสซี่ ไม่ได้เคยคว้าแชมป์กับทีมชาติชุดใหญ่ได้เลย แม้จะเข้ารอบชิงได้บ่อยครั้ง
อย่างไรก็ตาม ในการเริ่มต้นป้องกันแชมป์ เนชั่นส์ ลีก ของทีมชาติโปรตุเกส พวกเขาก็สามารถตบทีมชาติโครเอเชีย ทีมรองแชมป์ฟุตบอลโลก 2018 ไปได้ถึง 4-1 และสิ่งที่บ่งบอกได้อย่างชัดเจนหลังจากจบเกมนั้นก็คือ ฝอยทองก็สามารถเล่นได้อย่างโหดเหี้ยม แม้ว่าจะไม่มีซุปเปอร์สตาร์อย่าง คริสเตียโน โรนัลโด้ อยู่ในทีมก็ตาม แถมเกมรุกก็ไม่ได้ดูน่ากลัวน้อยลงไปเลยด้วย
การที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ผู้ที่เป็นดาวซัลโวสูงสุดของทีมชาติโปรตุเกส มีอาการติดเชื้อที่นิ้วเท้า จนไม่สามารถลงเล่นได้นัดที่เจอกับทีมชาติโครเอเชีย ทำให้แฟนบอกได้เห็นอะไรหลายๆอย่างจากทีมฝอยทอง
ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ การได้เห็นนักเตะหลายคนที่พิสูจน์ตัวเองให้เห็นแล้วว่า พวกเขาพร้อมแล้วกับการเป็นตัวตายตัวแทนของแข้งตัวเทพอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้
และนี่ก็คือ 5 นักเตะที่พร้อมแล้วกับการก้าวขึ้นไปเป็นตัวแทนในการแบกทีมของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้
5. Andre Silva
กองหน้ารายนี้ถือว่ากำลังรุ่งทีเดียวในการเล่นให้กับ ไอทรัค แฟร้งเฟิร์ต ซึ่งตอนนี้เขายิงไปแล้ว 8 ลูกจาก 12 เกม ในระดับสโมสร ก่อนที่ลีกจะหยุดพักไปเนื่องจากโรคระบาด
เขาคือหนึ่งในตัวความหวังในแดนหน้าของทีมชาติโปรตุเกส ที่กำลังเก็บเกี่ยวประสบการณ์ใหม่ๆอย่างต่อเนื่องหลังจากฉายแววเก่งตอนอยู่กับทีมปอร์โต้ ซิลวาได้พิสูจน์ตัวเองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยการพาฟอร์มของตัวเองกลับมาได้ หลังจากฟอร์มตกอยู่นานที่เอซี มิลาน
จากการที่เขามีประสบการณ์ในการลงเล่นเกมใหญ่ๆอย่างต่อเนื่อง ทำให้เขาได้รับโอกาสเป็นหนึ่งในกองหน้าของทีมชาติโปรตุเกส และผลงานของเขาในตอนนี้ก็คือ 16 ลูกจาก 35 เกมกับทีมชาติชุดใหญ่ ถ้ายังจำกันได้ อังเดร ซิลวา ซึ่งสถิตินี้ได้รวมการที่เขาได้ไปแข่งในทัวร์นาเม้นต์ฟุตบอลโลก 2018 ด้วย
4.Joao Cancelo
เจา คันเซโล่ เป็นหนึ่งในคนที่ได้ยิงประตูในกมที่ที่เจอกับทีมชาติโครเอเชียด้วย อันที่จริงเขาน่าจะได้ประตูเพิ่มอีก แต่กลับพลาดโอกาสทองไปอย่างน่าเหลือเชื่อ แต่ถึงกระนั้นในสายตาแฟนบอล เขาคือคนที่ฉายแววออกมาอย่างรวดเร็วในระดับทีมชาติ หลังจากที่พลาดการติดทีมไปเล่นในฟุตบอลโลก 2018 อย่างน่าเสียดาย
อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ คันเซโล่ ได้สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองในฐานะหนึ่งในแบ็คขวาที่ดีที่สุดในโลกฟุตบอลคนหนึ่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เขาเป็นนักเตะที่มีค่าตัวแพงที่สุดในตำแหน่งแบ็คขวา หลังจากแทนเชสเตอร์ ซิติ ได้จ่ายค่าตัวให้กับยูเวนตุสไปถึง 60 ล้านปอนด์
แม้ว่าในตอนนี้ เป๊ป กวาดิโอล่า จะเลือก ไคล์ วอร์คเกอร์ เป็นตัวหลักของซิตี้ แต่เมื่อ คันเซโล่ ได้มีโอกาสลงเล่น เขาก็ทำได้ดี และไม่มีอะไรผิดพลาดเลยแม้แต่น้อย จากการที่ คันเซโล่ สามารถยิงประตูได้ และสร้างโอกาสให้เพื่อนได้แม้ว่าจะเล่นในตำแหน่งฟูลแบ็ค ทำให้เขาเป็นคนเดียวในตำแหน่งกองหลังที่เข้ามาในลิสต์นี้
นอกจากฟูลแบ็คแล้ว ด้วยความสามารถในการเล่นเกมรุก เขายังสามารถเปลี่ยนไปเล่นเป็นปีก และวิงแบ็คได้อีกด้วย ในวัย 26 ปี ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมทีเดียวถ้าจะให้ก้าวขึ้นมาเป็นเสาหลักของทีม
3.Joao Felix
ดาวรุ่งคนล่าสุดของทีมชาติโปรตุเกส เจา เฟลิกซ์ จากแฟนคลับของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และตอนนี้เขาพร้อมแล้วที่จะรับหน้าที่แทนไอดอลของเขาในทีมชาติโปรตุเกส
เฟลิกซ์ มักถูกมองว่าเป็นเด็กที่มีพรสวรรค์มากที่สุดในบรรดานักเตะอายุเท่ากันเสมอ จนทำให้เขาถูก แอตเลติโก้ มาดริด ซื้อตัวไปจาก เบนฟิก้า ด้วยค่าตัว 126 ล้านยูโร ซึ่งเป็นค่าตัวที่แพงที่สุดที่เบนฟิก้าเคยได้จากนักเตะคนนึง และแพงเป็นอันดับ 4 ที่ทีมตราหมีเคยจ่ายในการซื้อตัวนักเตะ
ซึ่งก็เป็นข้อพิสูจน์แล้วว่า ดิเอโก้ ซิเมโอเน่ เห็นความสำคัญกับดาวเตะวัย 20 ปี รายนี้ขนาดไหน โดยหลักจากที่เขาลงเล่นให้กับตราหมีไป 36 เกม เขาทำประตูไปได้ 9 ลูกกับอีก 3 แอสซิส
ถึงแม้ เฟลิกซ์ จะไม่ได้เป็นนักเตะที่ยิงได้บ่อย แต่เขาก็โชว์ความสามารถอันน่าเหลือเชื่อได้หลายต่อหลายครั้ง หรือจะให้พูดอีกอย่างก็คือนี่เป็นการลงทุนสำหรับอนาคตก็ว่าได้
เฟลิกซ์ เป็นนักเตะตัวรุกที่เล่นได้หลายตำแหน่ง แต่ตำแหน่งที่เขาเล่นได้ดีที่สุดก็คือหน้าต่ำ ที่คอยต่อบอลในแนวลึกเพื่อสร้างโอกาสให้เพื่อนทำประตู ประตูที่เขายิงใส่ทีมชาติโครเอเชียในศึก ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก อาจเป็นจุึดเริ่มต้นของการเป็นจอมถล่มประตูในอนาคตของทีมชาติโปรตุเกสก็เป็นได้
2.Bernado Silva
ดาวเตะวัย 26 ปี ผู้มีนามว่า แบร์นาโด้ ซิลวา รายนี้ เป็นอีกหนึ่งคนที่กำลังเล่นอยู่ในพรีเมียร์ลีก เขาคือเพลเมคเกอร์เท้าซ้ายที่ดีที่สุดในโลกคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ ส่วนตำแหน่งที่เขาเล่นได้ดีที่สุดก็คือ ปีกขวา เขามักจะใช้เท้าซ้ายพาบอลตัดเข้ากลางสนามได้อย่างมหัศจรรย์อยู่บ่อยครั้ง และถึงแม้ว่าเขาจะถูกจับให้เล่นในแนวลึกกลางสนาม เขาก็ทำได้ดีไม่แพ้กันด้วยความสามารถในการจ่ายบอลอันชาญฉลาด และสายตาที่เฉียบแหลม
ซิลวา เป็นตัวของทีมชาติโปรตุเกสมาตั้งแต่ปี 2017 เขามีส่วนสำคัญในการช่วยทีมสู้ศึกทั้งในคอนเฟดเดอเรชั่น คัพ 2017 และ ฟีฟ่า เวิร์ล คัพ 2018
อย่างไรก็ตาม ซิลวา เป็นนักเตะที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในระดับสโมสร โดยในหน้าแรกที่แฟนบอลทุกคนได้เห็นเขาก็คือ ในฤดูกาล 2016/17 ที่โมนาโกสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ลีกเอิง และไปโชว์ฟอร์มเทพในแชมเปี้ยนส์ลีก
แต่จุดพีคที่สุดในชีวิตของเขาก็คือหลังจากได้มาค้าแข้งกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในพรีเมียร์ลีก เขากลายเป็นตัวสร้างสรรค์เกมสุดเพอร์เฟ็คภายใต้ปรัชญาของ เป๊ป กวาดิโอล่า ซิลวา ได้เป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกถึง 2 ครั้ง เอฟ เอ คัพ 1 ครั้ง และลีก คัพ 3 ในฤดูกาล 2018/19 ซิลวา ได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ปัจจุบันเขายิงให้เรือใบสีฟ้าไปแล้วถึง 30 ลูก และแอสซิสไป 35 ครั้ง
ซิลวา พลาดการรับใช้ชาติในศึกยูโร 2016 ที่ทีมชาติโปรตุเกสได้เป็นแชมป์ไปอย่างน่าเสียดายเนื่องจากอาการบาดเจ็บ แต่ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็ได้คว้าแชมป์ให้กับประเทศได้ในศึก เนชั่น ลีก เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งในทัวร์นาเม้นต์นั้นเขาได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดจากูรูหลายสำนัก ปัจจุบันเขาลงเล่นในนามทีมชาติไปแล้วกว่า 44 เกม เรียกได้ว่าเป็นคนที่ทีมชาติโปรตุเกสขาดไม่ได้ไปแล้ว
1.Bruno Fernandes
บรูโน่ เฟอร์นันเดส ปัจจุบันเขากลายเป็นนักเตะที่มีข่าวเยอะมากที่สุดในยุโรป เนื่องจากการได้ไปร่วมทีมกับที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลกอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเตด แล้วสามารถช่วยทีมได้เป็นอย่างมาก เขาได้เข้าไปเปลี่ยนสไตล์การเล่นของเหล่าขุนพลปีศาจแดง จนกระทั่งช่วยให้พวกเขาได้ตั๋วเข้าไปเล่นในแชมเปี้ยนส์ลีกได้ในที่สุด
เฟอร์นันเดส ถนัดการเล่นเป็นกองกลางตัวกลางมากกว่า.ซิลวา บรูโน่ เป็นนักเตะที่เหมือนมีตาดวงที่ 3 ที่ช่วยให้เห็นเพื่อนร่วมทีมจากระยะไกลในการจ่ายคิลเล่อร์พาส ในขณะเดียวกันเขาก็มีความสามารถในการยิงระยะไกลได้อีกด้วย
บรูโน่ เป็นนักเตะที่เก่งกาจมาโดยตลอด ตั้งแต่ก่อนที่จะถูกยูไนเตดซื้อไปเสียอีก เขาถูก ซานโตส กุนซือทีมชาติดึงไปติดทีมชาติโปรตุเกสตั้งแต่ปี 2017 ตลอดอาชีพการเป็นนักฟุตบอล บรูโน่ ซัดไปแล้ว 100 ประตู กับอีก 78 แอสซิส ในการลงเล่นระดับสโมสร
แม้ว่า บรูโน่ จะลงเล่นกับทีมชาติโปรตุเกสเพียง 20 เกม แต่เขาก็แสดงฟอร์มการเล่นอันน่าประทับใจอย่างไม่ขาดสาย 8 ประตู กับอีก 7 แอสซิส ใน 14 เกมกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเตด รวมถึงการช่วยยกระดับทีมให้เล่นได้ดีขึ้นมากด้วยทักษะของตัวเขาเอง ถือว่าเป็นอะไรที่สร้างแรงบันดาลใจให้ใครหลายๆคนได้ดีทีเดียว
ทุกคนรู้ดีว่า บรูโน่ เฟอร์นันเดส มีโอกาสที่จะพัฒนาตัวเองขึ้นไปได้อีกมาก ทั้งในสโมสร และทีมชาติ แน่นอน เขาพร้อมที่จะก้าวขึ้นไป และช่วงชิงตำแหน่งกัปตันทีมจาก คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ในสักวันหนึ่ง ด้วยพรสวรรค์ที่มีอยู่เต็มเปี่ยม และอายุที่ยังน้อย ดาวเตะชาวโปรตุเกสรายนี้ยังมีโอกาสอีกมากที่จะเก็บเกี่ยวความสำเร็จ และกลายเป็นผู้นำของฝอยทองคนต่อไป
ฟอร์มอันยอดเยี่ยมในเกมที่เจอกับโครเอเชีย เป็นตัวบ่งบอกประวิทธิภาพในตัวเขาเป็นอย่างดี การจ่ายบอลสำเร็จถึง 86% การสร้างโอกาสให้เพื่อนร่วมทีมถึง 7 ครั้ง และการเซ็ตบอลให้เพื่อนอีกมากมาย ทำให้เขากลายเป็นตัวแปรสำคัญของทีมในชุดที่ไม่มี Cr7 อย่างแท้จริง และชัยชนะเหนือทีมชาติสวีเดน ถือว่าเป็นของขวัญวันเกิดชิ้นสำคัญที่เขาได้รับในปีนี้
และทั้งหมดนี้ก็คือ นักเตะที่มีแววว่าจะก้าวขึ้นไปเป็นนักเตะที่จะคอยแบกทีมชาติโปรตุเกสถ้า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้แขวนสตั๊ดไป จากเกมที่โปรตุเกสถล่มโครเอเชียในการแข่งขันรายการ เนชั่น ลีก ซึ่งนักเตะทั้งหมดนี้ยังมีอายุไม่มาก แต่พวกเขาก็ได้พิสูจน์ตัวเองให้เห็นแล้วว่า พวกเขาเป็นที่พึ่งพาของทีมได้ในวันที่ไม่มี Cr7
