น้ำหอมกลิ่นแนว WOODY เป็นกลิ่นหอมของไม้ที่ได้รับอิทธิพลจากธรรมชาติ และเป็นกลิ่นที่มีลักษณะเฉพาะตัวมาก เราจึงได้รวบรวม 10 น้ำหอมกลิ่นวู๊ดดี้ที่จะช่วยเสริมบุคลิกของคุณให้ดูเป็นผู้ชายอบอุ่น ลึกลับ ตามแบบฉบับของผู้ชายมีเสน่ห์

1. Paco Rabanne 1 Million Intense

1 Million Intense ของ Paco Rabanne เป็นกลิ่นหอมที่ได้รับความนิยมในหมู่สุภาพบุรุษยุคใหม่ เมื่อพูดถึงน้ำหอมแนววู้ดดี้กลิ่นนี้เป็นกลิ่นที่คุณต้องอยากลองอย่างไม่อาจปฏิเสธได้โดยอาศัยองค์ประกอบที่ซับซ้อน แต่ยังคงความคลาสสิก 

น้ำหอมจากแบรนด์ Paco Rabanne มีความเผ็ดร้อน และกลิ่นหอมสไตล์ตะวันออก ตามด้วยกลิ่นของแมนดารินกระวาน พริกไทยดำ และหญ้าฝรั่น ที่จับคู่กับกุหลาบเนโรลี และซินนามอน ปิดท้ายด้วยโน๊ตฐานของหนังสีขาว รากออร์ริส แพทชูลี่ และไม้จันทน์ ที่ยังให้ความรู้สึกนุ่มนวล และเป็นกลิ่นไม้ น้ำหอมกลิ่นนี้เหมาะสำหรับช่วงเย็น ยามที่คุณต้องการสิ่งที่โดดเด่น และมีความลึกซึ้ง

2. Tom Ford Oud Wood

ถัดมาที่ตัวที่ 2 กลิ่นนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากองค์ประกอบที่แท้จริงของธรรมชาติ แต่ที่สอดคล้องกับแบรนด์ Tom Ford สุดคลาสสิกนั้น มันเป็นกลิ่นหอมที่มีความซับซ้อนมากกว่าน้ำหอมที่ทำจากไม้ส่วนใหญ่ แน่นอนว่ามันมีโน๊ตวู๊ดวู้ดคลาสสิกของไม้จันทน์ แพทชูลี่ และอู๊ด แต่ผสมผสานกับโน้ตอื่นๆ เช่น วานิลลา โบนัสที่ยอดเยี่ยมอีกอย่างคือขวดนี้เป็นส่วนเสริมที่สมบูรณ์แบบสำหรับคอลเล็กชั่นน้ำหอมของผู้ชาย ผู้ซึ่งมีความใส่ใจตัวเอง เรียบง่าย แต่ไร้กาลเวลา

3. Givenchy Gentlemen Only Casual Chic

น้ำหอมสีฟ้าอ่อนๆ ที่เป็นน้ำหอม Givenchy บ่งบอกถึงความสดชื่น ของปี 2013 เป็นการยกย่องสไตล์คลาสสิกที่สะอาดตาของ Givenchy แม้ว่ากลิ่นนี้จะมีส่วนประกอบของไม้ แต่ก็มีความบางเบามากกว่า สไตล์ของน้ำหอมกลิ่นนี้จะให้ความรู้สึกสดชื่นกว่าความอบอุ่นตามสไตล์ของน้ำหอมกลิ่นวู๊ดดี้ทั่วไป 

มันเป็นกลิ่นที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น และเหมาะกับวันที่ต้องการความดูดี โดยที่คุณไม่ต้องการอะไรที่มีกลิ่นรุนแรงเกินไป เป็นอีกหนึ่งกลิ่นหอมยอดนิยม ซึ่งส่วนประกอบของกลิ่นนี้คือ กระวาน จูนิเปอร์ และขิง โน๊ตกลางของมันคือ เบิร์ช และซีดาร์และตามด้วยโน๊ตฐานคือ ไม้จันทน์ และแอมบร็อกซาน

4. Gucci Guilty

พูดถึงกันอยู่บ่อยๆ สำหรับน้ำหอมแนวกลิ่นวู้ดดี้ ขวดนี้ถือว่าเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับกลิ่นใหม่ Gucci Guilty ที่มีความโดดเด่นในฐานะหนึ่งในน้ำหอมที่มีเสน่ห์ที่สุดสำหรับผู้ชายในกลุ่มอายุต่างๆ เพราะ Gucci Guilty รุ่นนี้ใช้งานได้หลากหลาย และสามารถสวมใส่ได้ทั้งในเวลากลางวัน และกลางคืน 

เป็นกลิ่นที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างลาเวนเดอร์ มะนาว พริกไทยชมพู ซีดาร์ ไม้จันทน์ และอำพัน ผลลัพธ์คือกลิ่นหอมที่ทันสมัยมากขึ้น โดยยังคงไม่ทิ้งสไตล์กลิ่นที่เป็นไม้ และแน่นอนว่ามันมาในขวดแก้วสีเทาเมทัลดูลึกลับ มีเสน่ห์น่าค้นหา

5. Dsquared2 He Wood Rocky Mountain

ภูเขาของแคนาดาเป็นแรงบันดาลใจให้กับน้ำหอมกลิ่นนี้ ความน่าสนใจของกลิ่นหอมที่เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงพลังธรรมชาติ โดยผสมกลิ่นของอำพัน ธูป มัสค์ ไวโอเล็ต ลิลลี่แคนาดา และไม้ซีดาร์ และสูตรนี้ยังให้ความหอมติดทนนาน ซึ่งมีประโยชน์สำหรับวันที่ต้องใช้ชีวิตตลอดทั้งวันที่สำนักงาน หรือกิจกรรมที่ยาวนาน กลิ่นนี้เปิดตัวในปี 2552 โดย Dsquared2 แต่มันยังเป็นน้ำหอมแนววู๊ดดี้ที่ได้รับบความนิยมมาจนถึงปัจจุบัน และยังให้ความสดชื่นอย่างมาก

6. Yves Saint Laurent Splendid Wood

น้ำหอม unisex กลิ่นนี้เป็นน้ำหอมที่จะทำให้คุณสังเกตเห็นได้อย่างแน่นอน Splendid Wood โดย Yves Saint Laurent มีความหอมแบบลึกลับ แต่ยังมีความสดชื่น และมีกลิ่นเหมือนดิน ด้วยส่วนผสมของไซพรีออล ธูป ไม้ซีดาร์ ไม้อู๊ด และกระวาน น้ำหอมนี้เป็นการผสมผสานระหว่างโน้ตคลาสสิกที่ให้ลุคของคุณดูเป็นหนุ่มที่มีความขี้เล่น เช่นเดียวกับบรรจุภัณฑ์ของ YSL ที่มาในขวดที่มีองค์ประกอบสีทองสะท้อนแสงที่คลาสสิก แต่ยังคงความสดใส และขี้เล่น

7. Armani Eau D’Aromes

ถัดมาที่แบรนด์ Giorgio Armani ขึ้นชื่อว่ามีสไตล์ที่เรียบง่าย แต่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและน้ำหอมกลิ่นนี้เข้ากันได้ดีกับสไตล์คลาสสิกของแบรนด์ เปิดตัวในปี 2014 เป็นน้ำหอมกลิ่นวู๊ดดี้นี้ไม่เพียงแต่แสดงถึงกลิ่นหอมจากธรรมชาติ แต่ยังมีองค์ประกอบของซิตรัสที่แข็งแกร่งอีกด้วย 

ท็อปโน๊ตของเบอร์กาม็อท และแมนดาริน ช่วยเสริมความเป็นศูนย์กลางของกลิ่นส้ม จับคู่กับโน๊ตกลางของขิง และแพทชูลี่ และตามด้วยโน๊ตฐานของกระวาน และหญ้าแฝก ซึ่งช่วยให้เกิดกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติอย่างปฏิเสธไม่ได้ น้ำหอมมีโทนสีเหลืองอำพันจับคู่กับขวดใสสไตล์เรียบง่าย และฝาสีดำเงา

8. Balmain Carbone de Balmain

กลิ่นหอมจาก Balmain ในปี 2010 ขวดนี้ เป็นกลิ่นหอมที่แรงกว่า และมีพลังมากขึ้น ซึ่งเป็นกลิ่นที่ลงตัวสำหรับการเลือกใช้ในตอนเย็น Balmain ได้อธิบายถึงกลิ่นนี้ว่าเหมาะอย่างยิ่งสำหรับหนุ่มเจ้าสำราญ ‘urbane and sophisticated’ กลิ่นหอมของเอเลมี มัสก์ เบนโซอิน พริกไทย บูร์บอง ใบไวโอเล็ต หญ้าแฝก ธูป และมะเดื่อดำ เรียกได้ว่ากลิ่นหอมสไตล์ที่เผ็ดร้อนกลิ่นนี้ สามารถบ่งบอกสไตล์ของผู้ใช้ได้อย่างแน่นอน ด้วยการผสมผสานกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้น้ำหอมขวดนี้ยังเป็นเครื่องบรรณาการที่ดีสำหรับแบรนด์แฟชั่นอย่าง Balmain

9. Diesel Only The Brave

นอกเหนือจากชื่อใหม่ที่มีอิทธิพลต่อขวดรูปกำปั้นขวดนี้ ‘Only the Brave’ ของ Diesel ยังเป็นกลิ่นที่มีองค์ประกอบที่ทันสมัย กลิ่นนี้ได้รับแรงบันดาลใจอย่างชัดเจนจากอิทธิพลของเมืองร่วมสมัย Cedar มีความสนุกสนานซ่อนในกลิ่นนี้ ซึ่งให้ความรู้สึกเหมือนกลิ่นหอมแนวไม้ มีเพียง Brave เท่านั้นที่มีแก่นแท้แบบตะวันออก ซึ่งแสดงให้เห็นผ่านการผสมผสานที่ซับซ้อนของโน้ตที่ไม่คาดคิด 

นอกจากนี้ยังมี มะนาว แมนดาริน และผักชี ซึ่งมีส่วนช่วยในองค์ประกอบของกลิ่นส้มดังกล่าว เมื่อกลิ่นด้านบนได้จางหายคุณจะได้กลิ่นหอมของเครื่องหนังที่ช่วยเติมเต็มความเป็นไม้ตะวันออกของกลิ่นนี้ ทำให้เกิดกลิ่นที่โดดเด่นสำหรับผู้ชายยุคใหม่

10. Fendi Fan Di Fendi Pour Homme Assoluto

และตัวสุดท้ายขอแนะนำกลิ่นของ Fendi ขวดนี้ บอกก่อนนะว่าไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความ ‘บอบบาง’ เพราะมันเป็นกลิ่นหอมเข้มข้น แข็งแกร่ งและโดดเด่นมาก น้ำหอมนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากความเข้ม และสไตล์อิตาลี คุณจะได้กลิ่นท็อปโน๊ตของกระวาน และพริกไทยสีชมพูเข้มข้น ทำให้กลิ่นมีความแรงเป็นพิเศษ ตามมาด้วยกลิ่นหอมของไม้อู๊ดผสมกับหญ้าแฝก และแพทชูลี่ กลิ่นฝรั่งเศสเหมาะสำหรับใส่ไปงานราตรี บรรจุลงในขวดที่โดดเด่นมีโทนสีดำ และตัดด้วยสีส้ม ซึ่งเป็นการยืนยันถึงความเข้มข้นของเรื่องราวของน้ำหอมขวดนี้