เทรนด์ของยานยนต์ไฟฟ้ากำลังก้าวเข้ามามีบทบาทในอุตสาหกรรมยานยนต์มากขึ้นในปัจจุบัน จนทำให้มีการคาดการณ์กันว่ายานยนต์ไฟฟ้าจะกลายเป็นยานยนต์หลักของโลกแทนที่ยานยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปในไม่ช้านี้ และในตอนนี้ไม่ใช่เพียงแค่รถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้นที่กำลังบูม แต่จักรยานยนต์ไฟฟ้าก็เริ่มบูมไม่น้อยหน้าเช่นกัน

เห็นได้จากการที่ทั้งค่ายจักรยานยนต์ยักษ์ใหญ่เจ้าเก่าที่เริ่มหันมาผลิตรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า นอกจากนี้แบรนด์จักรยานยนต์ไฟฟ้ารายใหม่เกิดขึ้นอย่างมากมายทั้งในและต่างประเทศ

ดังนั้นวันนี้เราจึงจะขอเอาใจสิงห์นักบิดที่มีใจรักษ์โลกกันหน่อย ด้วยการแนะนำมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่พร้อมวางจำหน่ายแล้ววันนี้ให้ได้รู้จักกัน เผื่อใครสนใจจะได้ซื้อหามาใช้ ซึ่งจะมีตัวไหนบ้างนั้น ตามมาดูกันเลย

H SEM Motor

เรามาเริ่มกันที่จักรยานยนต์ไฟฟ้าจากแบรนด์ H SEM Motor ที่ได้พร้อมใจปล่อยมาพร้อมกัน 3 รุ่นในปีนี้ประกอบด้วย

H SEM Ciao เป็นมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่เลือกใช้ขุมกำลังขับเคลื่อนเป็น Brushless Hub-Motors ใช้ไฟฟ้า DC 60V ให้กำลัง2000 W ตัวรถมีปุ่มกดสตาร์ท สัญญาณกันขโมย ระบบครูซคอนโทรล และมาพร้อมกุญแจรีโมท สามารถวิ่งได้ไกล 48 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ทำความเร็วสูงสุดได้ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยในรุ่นนี้จะมีให้เลือก 4 สี คือ ขาว ฟ้า แดง และเหลือง ในราคาเท่ากันที่ 49,700 บาท

H SEM Mobila  ในรุ่นนี้จะแบ่งเป็น 2 รุ่นย่อยคือ รุ่น G ใช้ขุมกำลังเป็นมอเตอร์ไฟฟ้าแบบเกียร์มอเตอร์ ใช้ไฟฟ้า DC 72V ให้กำลัง 3000 W ปรับความเร็วแบบเกียร์โลว์-ไฮ (Low – High) ราคาอยู่ที่ 92,200 บาท และรุ่น S ใช้ขุมกำลังเป็นมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Brushless Hub-Motors ใช้ไฟฟ้า  DC 72V ให้กำลัง 3000 W ปรับความเร็วได้ 2 ระดับพร้อมระบบถอย ราคาอยู่ที่ 89,900 บาท โดยทั้งคู่สามารถทำความเร็วได้สูงสุด 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง วิ่งได้ไกลประมาณ 60 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง

H SEM Wings เป็นรุ่นใหญ่ เลือกใช้ขุมกำลังเป็นมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Brushless Hub-Motors ใช้ไฟฟ้า DC 72V ให้กำลัง3000W สามารถปรับความเร็วได้ 3 ระดับ มีระบบถอยหลัง ทำความเร็วได้สูงสุด 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และวิ่งได้ไกล 60 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง มีให้เลือก 4 สีคือ ดำ เทา ขาว และแดง ราคาอยู่ที่ 95,700 บาท

NIU Electric Scooter

เรามาต่อกันที่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าแบบสกูตเตอร์จากค่าย NIU Electric Scooter ซึ่งในปีนี้ปล่อยออกมา 3 รุ่นเช่นกัน ประกอบด้วย

NIU NGT Sport ที่เลือกใช้ขุมกำลังมอเตอร์ไฟฟ้าขนาดกำลัง 3,000 W เก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่ 2 ลูก สามารถทำความเร็วสูงสุดได้มากถึง 82 กิโลเมตรต่อชั่วโมง วิ่งได้ไกล 110 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ราคาอยู่ที่ 109,000 บาท

NIU N Series ถือเป็นรุ่นน้องของ NIU NGT Sport เพราะมีดีไซน์ที่คล้ายคลึงกัน ต่างกันที่พละกำลัง และความจุแบตเตอรี่เท่านั้น โดยรุ่นนี้เลือกใช้มอเตอร์ที่มีกำลัง 2,400 W เก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่ 1 ก้อน สามารถทำความเร็วได้สูงสุด 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง วิ่งได้ไกล 80 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ราคาอยู่ที่ 98,000 บาท

NIU M Series เป็นรุ่นเล็กสุดแต่บอกเลยว่าจี๊ด โดดเด่นในเรื่องน้ำหนักที่เบาเพียง 59 กิโลกรัม แต่ให้กำลังแรงได้ใจไม่น้อย เพราะเลือกใช้มอเตอร์กำลัง 2,000 W ทำความเร็วได้สูงสุดที่ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง วิ่งได้ไกลถึง 100 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ราคาอยู่ที่ 95,000 บาท

SWAG EV

สำหรับจักรยานยนต์ไฟฟ้าจากค่าย SWAG EV ในปีนี้ปล่อยออกมา 2 รุ่นด้วยกัน ดังนี้

SWAG EV Type-S เลือกใช้ขุมกำลังมอเตอร์ 1,750 W จาก Bosch ทำความเร็วได้สูงสุดที่ 45 กิโลเมตรต่อชั่วโมง วิ่งได้ไกลสุด 70 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ราคาอยู่ที่ 62,900 บาท

SWAG EV Type-X เลือกใช้มอเตอร์ขุมกำลัง 2,020 W จาก Bosch ทำความเร็วได้สูงสุดที่ 45 กิโลเมตรต่อชั่วโมง วิ่งได้ไกลสุด 70 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ราคาอยู่ที่ 65,900 บาท

Edison Motor

มาดูที่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจากค่าย Edison Motor กันบ้าง ซึ่งรถจากค่ายนี้เขาโดดเด่นที่ดีไซน์สวยงามแหวกแนวไม่ซ้ำใคร โดยในปีนี้มีมาให้เลือกแล้ว 2 รุ่นด้วยกัน ดังนี้

EDISON Volta S เป็นสกูตเตอร์ไฟฟ้าทรงคลาสสิกแต่อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยบนตัวรถ เลือกใช้ขุมกำลังเป็นมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 11,000 W ทำความเร็วได้มากสุดถึง 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง วิ่งได้ไกลสุด 150 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ราคาอยู่ที่ 110,000 บาท

EDISON Volta Naked เป็นสกูตเตอร์ไฟฟ้าเปลือยสุดเท่ เลือกใช้ขุมกำลังเป็นมอเตอร์ไฟฟ้า 6,000 W ทำความเร็วได้สูงสุดที่ 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง วิ่งได้ไกล 150 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ราคาอยู่ที่ 75,000 บาท

TARFORM

เรามาปิดท้ายกันที่บิ๊กไบค์ไฟฟ้าสุดไฮป์ รักษ์โลกไม่เหมือนใคร แบรนด์มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าน้องใหม่จากบรู๊คลิน อเมริกาอย่าง TARFORM ที่ได้ปล่อยบิ๊กไบค์ไฟฟ้ารักษ์โลกตัวแรกออกมา จุดเด่นของรถมอเตอร์ไซค์คันนี้คือชิ้นส่วนของรถส่วนมากผลิตจากวัสดุธรรมชาติที่สามารถย่อยสลายได้เอง แม้ตัวรถจะคันใหญ่แต่มีน้ำหนักเพียง 200 กิโลกรัมเท่านั้น

ในด้านพละกำลัง มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าคันนี้เลือกใช้มอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังมากถึง 41 kW ส่งกำลังตรงสู่สายพานเพื่อขับล้อให้หมุนโดยไม่มีระบบเกียร์บ๊อกซ์ เก็บกักพลังงานด้วยแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนขนาด 10 กิโลวัตต์ สามารถทำความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ใน 3.8 วินาที สามารถวิ่งได้ไกล 193 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ราคาอยู่ที่ 24,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือราวๆ 740,000 บาท ไม่รวมภาษีนำเข้า

และนี่ก็คือ 5 มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเปิดตัวใหม่ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2020 ที่เราอยากแนะนำให้เพื่อนๆ ได้รู้จักในครั้งนี้ ก็หวังว่าจะเป็นที่ชื่นชอบของสายนักบิดกันทุกคน แม้จะเห็นได้ชัดเจนว่ามอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจะยังราคาสูงมากๆ ในตอนนี้ก็ตาม แต่เชื่อว่าสำหรับคนที่มีใจรักษ์โลกแล้วก็คงจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยในปีนี้