10 นักเตะที่แพงที่สุดที่ เยอร์เก้น คล็อปป์ คว้าตัวมาร่วมทีมตลอดอาชีพกุนซือ - The Macho
 
Roral Enfield - Hunter 350
728x150 - Nissan Almera
728x150 - Hunter4
10 นักเตะที่แพงที่สุดที่ เยอร์เก้น คล็อปป์ คว้าตัวมาร่วมทีมตลอดอาชีพกุนซือ

หากเอ่ยถึงชื่อ เจอร์เก้น คล็อปป์  คงไม่มีใครกล้าปฏิเสธว่า เขาเป็นหนึ่งในกุนซือจอมปั้นที่สร้างนักเตะฝีเท้าดีมาประดับวงการฟุตบอลอยู่หลายรายไม่ว่าจะเป็นในสมัยที่ยังคุม ไมนซ์, โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ หรือปัจจุบันกับ ลิเวอร์พูล เองก็ตาม

บรรดาผู้เล่นอย่าง มาริโอ เกิตเซ่, ชินจิ คากาวะ, อิลคาย กุนโดกัน, โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้, มัตส์ มัตส์ ฮุมเมลส์, เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ และ เคอร์ติส โจนส์ ต่างก็ผ่านฝีมือการเจียระไนของ คล็อปป์ มาแล้วแทบทั้งสิ้น

อย่างไรก็ตาม นอกจากสร้างแล้ว คล็อปป์ ยังเคยทุ่มเงินซื้อนักเตะมาแล้วหลายคน ซึ่งผู้เล่นส่วนใหญ่ที่เขายอมเซ็นสัญญาค่าตัวมหาศาลนั้น มักจะทำผลงานเข้าเป้าตามที่หวังเอาไว้ แต่ก็มีบางคนที่ทำผลงานได้น่าผิดหวังเช่นกัน และนี่คือ ผู้เล่น 10 รายที่แพงที่สุด ซึ่ง คล็อปป์ คว้าตัวมาร่วมทีม

10. ชิโร่ อิมโมบิเล่ (โตริโน่ ไปยัง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ค่าตัว 17 ล้านปอนด์)

Source – bleacherreport

       ศูนย์หน้าชาวอิตาลี ถูกดึงตัวจาก โตริโน่ มายังถิ่น ซิกแนล อีดูน่า พาร์ค ในปี 2014 พร้อมกับได้รับการคาดหมายว่า จะเข้ามาแทนที่ดาวยิงคนสำคัญของ ดอร์ทมุนด์ อย่าง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ หัวหอกทีมชาติชาติโปแลนด์ ที่อำลา “เสือเหลือง” ไปร่วมทีม “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค

        อย่างไรก็ตาม ผลงานของ อิมโมบิเล่ ค่อนข้างน่าผิดหวัง เขาไม่สามารถถล่มประตูได้เหมือนกับสมัยที่ค้าแข้งในบ้านเกิดกับ โตริโน่ โดยกองหน้าวัย 30 ปี ลงเล่นให้กับ ดอร์ทมุนด์ รวมทุกรายการ 34 เกม ยิงไปเพียง 10 ประตู เท่านั้น ก่อนจะโดนปล่อยให้ เซบีญ่า ยืมตัวในฤดูกาลต่อมา

        หลังย้ายออกจาก ดอร์ทมุนด์ อิมโมบิเล่ ต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะคืนฟอร์มเก่งอีกครั้ง และปัจจุบันเขากำลังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกับ ลาซิโอ

9. จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม (นิวคาสเซิ่ล ไปยัง ลิเวอร์พูล ค่าตัว 25 ล้านปอนด์)

       หลายคนวิจารณ์ คล็อปป์ อย่างหนักที่จ่ายเงินถึง 25 ล้านปอนด์ คว้าตัว ไวจ์นัลดุม ที่ตกชั้นกับ นิวคาสเซิ่ล มาร่วมทีม ลิเวอร์พูล เมื่อปี 2016 แต่หากเรามองผลงานโดยรวมของห้องเครื่องชาวดัตช์กับ “หงส์แดง” นั้น พิสูจน์ให้เห็นว่า กุนซือชาวเยอรมัน ตัดสินใจได้ถูกต้อง

       นับตั้งแต่ย้ายมาเล่นในถิ่นแอนฟิลด์ ไวจ์นัลดุม เป็นหัวใจสำคัญในแดนกลางของ ลิเวอร์พูล มาตลอด โดยดาวเตะวัย 29 ปี ลงเล่นรวมทุกรายการให้กับ “หงส์แดง” ไปทั้งสิ้น 177 เกม ยิงไป 18 ประตู พร้อมกับคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, แชมป์ซุเปอร์ คัพ, แชมป์สโมสรโลก และกำลังจะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ในฤดูกาลนี้

8. เฮนริค มคิทาร์ยาน (ชัคตาร์ โดเน็ตส์ค ไปยัง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ค่าตัว 25 ล้านปอนด์)

       เพลย์เมคเกอร์ทีมชาติอาร์เมเนีย ย้ายจาก ชัคตาร์ โดเน็ตส์ค ในลีกยูเครน มาเล่นกับ ดอร์ทมุนด์ ในปี 2013 จากนั้น เขากลายเป็นตัวหลักในแนวรุกของพลพรรค “เสือเหลือง” ทันที

       มคิทาร์ยาน เป็นผู้เล่นที่เต็มไปด้วยพรสวรรค์ และมีวิสัยทัศน์สุดยอดในการสร้างสรรค์เกมรุก เขาอยู่กับ ดอร์ทมุนด์ เป็นเวลา 3 ซีซั่น ก่อนจะย้ายเล่นกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปี 2016 แต่ก็ไม่ประสบกับ “ปีศาจแดง” เท่าที่ควร

        ปัจจุบัน มิดฟิลด์วัย 31 ปี เป็นนักเตะของ อาร์เซน่อล แต่ย้ายมาเล่นกับ โรม่า ในกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ด้วยสัญญายืมตัว

7. ซาดิโอ มาเน่ (เซาธ์แฮมป์ตัน ไปยัง ลิเวอร์พูล ค่าตัว 34 ล้านปอนด์)

Source – 365dm

       อีกหนึ่งนักเตะค่าตัวแพงที่ คล็อปป์ ยอมจ่ายเงินค่าตัวมาเสริมทัพ โดย มาเน่ ย้ายจาก เซาธ์แฮมป์ตัน มาเล่นกับ ลิเวอร์พูล ในปี 2016 พร้อมกับสถาปนาตัวเองเป็นกำลังสำคัญในแนวรุกของพลพรรค “หงส์แดง” มาจนถึงปัจจุบัน

        ปีกทีมชาติเซเนกัล ถือว่า เป็นนักเตะที่เปลี่ยนโฉมแนวรุกของ ลิเวอร์พูล ไปอย่างสิ้นเชิง เขาเป็นตัวรุกสมัยใหม่ที่มีสปีดจัดจ้าน, แข็งแกร่ง, เทคนิคดี, จบสกอร์ได้เฉียบขาด และยังสามารถเล่นเกมรับได้อีกด้วย  โดยดาวเตะวัย 28 ปี กำลังเข้าสู่ช่วงพีคในอาชีพ และน่าจะพา “หงส์แดง” ลุ้นแชมป์ได้อีกหลายรายการ

Source – 365dm

6. โมฮัมเหม็ด ซาล่าห์ (โรม่า ไปยัง ลิเวอร์พูล ค่าตัว 36.9 ล้านปอนด์)

       แม้จะเคยล้มเหลวกับ เชลซี แต่ ซาล่าห์ กลับมาเขย่าวงการฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอีกครั้งในสีเสื้อ ลิเวอร์พูล หลังย้ายมาจาก โรม่า ในปี 2017 โดยตัวรุกวัย 27 ปี สร้างผลงานสุดเหลือเชื่อกับ “หงส์แดง” ด้วยการซัดไปถึง 91 ประตู จากการลงสนาม 144 เกมรวมทุกรายการจนถึงเวลานี้

        ปีกชาวอิยิปต์ กลับในเล่นในเมืองผู้ดีด้วยประสบการณ์ที่มากกว่าเดิม ความนิ่ง วิสัยทัศน์ และการตัดสินใจในจังหวะต่างๆของ ซาลาห์ นั้น สร้างประโยชน์อย่างมหาศาลให้กับ ลิเวอร์พูล และด้วยการผนึกกำลังร่วมกับ ซาดิโอ มาเน่ และโรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่ ดาวยิงชาวบราซิล ทำให้ “หงส์แดง” กลายเป็นทีมที่มีแนวรุกน่ากลัวที่สุดในยุโรปเลยก็ว่าได้

5. อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน (อาร์เซน่อล ไปยัง ลิเวอร์พูล ค่าตัว 35 ล้านปอนด์)

Source – 365dm

       อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ถูกคว้าตัวเข้ามาเพื่อเพิ่มพลังงาน และมิติใหม่ในแดนกลางให้กับ ลิเวอร์พูล ความฟิต, ความกระตือรือร้น และลูกยิงไกลที่ทรงพลังของเขานั้น กลายเป็นอาวุธใหม่ที่ “หงส์แดง” ใช้ทะลวงแนวรับคู่ต่อสู้

        อย่างไรก็ตาม น่าเสียดายที่ กองกลางชาวอังกฤษ มีปัญหาบาดเจ็บยาวเมื่อปีที่ผ่านมา ทำให้เขาไม่ได้ลงเล่นมากเท่าที่ควร แต่ในเวลานี้ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน กลับมาฟิตสมบูรณ์อีกครั้ง และพร้อมจะกลับมาแย่งตำแหน่งตัวจริงในทัพ “หงส์แดง” แล้ว

4. ฟาบินโญ่ (โมนาโก ไปยัง ลิเวอร์พูล ค่าตัว 43.7 ล้านปอนด์)

Source – 365dm

       หลังพลาดคว้าถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อฤดูกาล 2017-2018 ไปอย่างน่าเสียดายด้วยการพ่ายกับ เรอัล มาดริด 3-1 คล็อปป์ ตัดสินใจเดินเครื่องคว้าตัว ฟาบินโญ่ เข้ามาเสริมความแข็งแกร่งในแดนกลางให้กับ ลิเวอร์พูล ทันที

        ในช่วงแรก มิดฟิลด์แซมบ้า ยังไม่ได้ลงสนามมากนัก เนื่องจากต้องปรับตัวกับสไตล์การเล่นของ ลิเวอร์พูล อยู่นานพอสมควร แต่เมื่อปรับตัวได้ ฟาบินโญ่ กลายเป็นห้องเครื่องคนสำคัญคอยยืนตัดเกมหน้าแนวรับของ “หงส์แดง” ได้อย่างแข็งแกร่ง

       จากความผิดหวังที่เคียฟในปี 2018 ฟาบินโญ่ สร้างผลกระทบด้วยการพา ลิเวอร์พูล คว้าถ้วยยุโรปได้สำเร็จในปีต่อมา

3. นาบี้ เกอิต้า (แอร์แบ ไลป์ซิก ไปยัง ลิเวอร์พูล ค่าตัว 48 ล้านปอนด์)

Source – 365dm

       ทายาทหมายเลข 8 ของ สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด อดีตกัปตันทีม ลิเวอร์พูล เกอิต้า ถูกเซ็นสัญญาด้วยความคาดหวังอย่างมหาศาล มิดฟิลด์ชาวกินี ได้รับการยกย่องว่า เป็นกองกลางมากพรสวรรค์ไม่ว่าจะเป็นการครองบอล, การเลี้ยงบอล, วิสัยทัศน์, การผ่านบอล และการยิงประตู ที่เขาทำได้อย่างยอดเยี่ยม

        อย่างไรก็ตาม น่าเสียดายที่ เกอิต้า โดนอาการบาดเจ็บเล่นงานอยู่บ่อยครั้งจนทำให้เขาไม่สามารถงัดฟอร์มเก่งกับ ลิเวอร์พูล ได้ แต่เชื่อว่า คล็อปป์ คงจะมองเห็นบางอย่างในตัวดาวเตะวัย 25 ปี และน่าจะมอบโอกาสให้เขาพิสูจน์ตัวเองไปอีกแน่นอน

2. อลิสสัน เบ็คเกอร์ (โรม่า ไปยัง ลิเวอร์พูล ค่าตัว 66.8 ล้านปอนด์)

Source – 365dm

อลิสสัน ย้ายเข้ามาแก้ปัญหาเรื้อรังในตำแหน่งผู้รักษาประตูของ ลิเวอร์พูล ได้อย่างไร้ที่ติ นายทวารมือ 1 ทีมชาติบราซิล ถือเป็นโกล์สมัยใหม่ที่นอกจากการเซฟประตูที่เหนียวหนึบแล้วนั้น เขายังสามารถใช้เท้าได้อย่างยอดเยี่ยม รวมถึงพร้อมเปิดเกมรุกอยู่ตลอดเวลา

มือกาวแซมบ้า ถือว่าเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งในความสำเร็จของ ลิเวอร์พูล ภายใต้การคุมทีมของ     คล็อปป์ ในช่วงที่ผ่านมา

1. เวอร์จิล ฟาน ไดจค์ (เซาธ์แฮมป์ตัน ไปยัง ลิเวอร์พูล ค่าตัว 75 ล้านปอนด์)

Source – 365dm

       หนึ่งในการเซ็นสัญญาที่ยอดเยี่ยมที่สุดของ คล็อปป์ ค่าตัว 75 ล้านปอนด์ ที่ ลิเวอร์พูล จ่ายให้กับ เซาธ์แฮมป์ตัน เมื่อเดือนมทกราคมปี 2018 นั้น “หงส์แดง” ได้ค่าตอบแทนคืนทุกบาททุกสตางค์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

        ฟาน ไดจค์ เข้ามายกระดับแนวรับของ ลิเวอร์พูล ได้ทันที และกลายเป็นนายใหญ่ในแผงหลังของ “หงส์แดง” อย่างแท้จริง โดยปราการหลังชาวดัตช์ มีความเป็นผู้นำ, เยือกเย็น, แข็งแกร่ง, รวดเร็ว, เล่นลูกกลางอากาศได้ดี และอ่านเกมได้อย่างเด็ดขาดแทบทุกจังหวะที่เข้าสกัด

        เซ็นเตอร์ฮาล์ฟวัย 28 ปี กำลังอยู่ในช่วงที่ดีที่สุดของตัวเอง และศักยภาพของเขานั้น พร้อมจะนำ ลิเวอร์พูล ประสบความสำเร็จได้อีกในอนาคต

ภาพประกอบ : bleacherreport.com, skysports.com

Che Navapun

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save