เมาริซิโอ ซาร์รี กุนซือชาวอิตาเลียน ได้เข้ามาคุมทีม เชลซี สโมสรยักษ์ใหญ่แห้งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษเป็นซีซั่นแรกเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา และเจ้าตัวทำให้สาวก “สิงโตน้ำเงินคราม” มีความสุขกับฟอร์มการเล่นของทีมรักในช่วงแรก
อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่ผ่านครึ่งฤดูกาลเป็นต้นมาจนถึง ณ เวลานี้ เชลซี กลับมีฟอร์มตกลงอย่างน่าใจหาย และล่าสุดหล่นมาอยู่อันดับ 6 ในตารางคะแนนแล้ว สุ่มเสี่ยงต่อการไม่ได้โควตาไปเล่นฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลหน้า
ขณะเดียวกัน อนาคตของ ซาร์รี่ ในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ เริ่มตกอยู่ในความไม่แน่นอนว่า จะได้อยู่คุมทีมต่อหรือไม่ในซีซั่นถัดไป และนี่คือ 4 เหตุผลหลักที่แสดงให้เห็นว่าทำไม อดีตโค้ช นาโปลี จึงมีเคมีที่ไม่เหมาะสมกับ เชลซี อย่างแรง
1. “Sarriball” คืออะไร
มันเป็นสไตล์ฟุตบอลอิตาลีแบบ ‘tiki-taka’ ที่เรามักเชื่อมโยงกับ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มันใช้หลักการเดียวกันในการครอบครองบอล และใช้ลักษณะการกดดันสูงในแดนคู่แข่ง จากนั้นนักเตะจะหาช่องโจมตีเร็วเพื่อทำประตู
ทำไมมันใช้ไม่ได้ผลในอังกฤษ? ซาร์รี่ พึ่งมาคุม เชลซี ได้เพียง 6 เดือนเท่านั้น ซึ่งมันไม่สวยหรูเหมือนฤดูกาลแรกของเขากับ นาโปลี ขณะที่นักเตะ“สิงโตน้ำเงินคราม” เริ่มสับสันในแท็คติกของเขา โค้ชชาวอิตาเลียน อายุ 60 ปีแล้ว และเขาก็ไม่คิดจะปรับระบบการเล่นให้เข้ากับลูกทีม
ซาร์รี่ ต้องใช้เวลานานถึง 18 เดือนในการทำให้ นาโปลี กลายเป็นทึมทียอดเยี่ยม เช่นเดียวกันกับ กวาร์ดิโอลา ที่ต้องใช้เวลาในการปรับทัพ แมนฯซิตี้ จนกลายเป็นยอดทีมจนถึงทุกวันนี้
2.ซาร์รี่ มีแผน B หรือไม่?
คำตอบ คือ ไม่มี เขาทำไม่ได้เหมือน กวาร์ดิโอลา, เจอร์เก้น คล็อปป์ หรือ เมาริซิโอ โปเชตติโน ซึ่งผู้จัดการเหล่านี้มีปรัชญาของตัวเอง และแนวทางในการทำทีมอย่างชัดเจน นั่นคือสิ่งที่พวกเขาเป็น และหากแผนไหนไม่เวิร์ค พวกเขาก็พร้อมจะปรับตัวข้าหาลูกทีมตลอดเวลา
3.ซาร์รี่ จะแก้ปัญหา จอร์จินโญ่ ได้อย่างไร
การดิ้นรนของ จอร์จินโญ่ นั้น เกิดจากการที่ทีมอื่นเริ่มคุ้นเคยกับสิ่งที่เขาทำ นั่นอาจฟังดูเป็นข้อแก้ตัว แต่ชัดเจนว่า กุนซือทีมต่างๆ มักสั่งการให้ลูกทีมวิ่งเข้ากดดันเร็วใส่ กองกลางทีมชาติอิตาลี ทันทีที่เขาได้บอล และนั่นก็ได้ผล เขาไม่มีเวลาสร้างสรรค์เกมเหมือนกับที่ นาโปลี
มันเหมือนกับว่าคุณพา ชาบี้ ออกไปจากทีม บาร์เซโลนา ที่ยิ่งใหญ่ และไปทิ้งเขาไว้ในทีมอื่น จนกว่าคนอื่น ๆ ในทีมจะปรับตัวให้เข้ากับระบบของ ซาร์รี่ ได้นั้น จอร์จินโญ่ ต้องเป็นคนแรกที่ต้องดิ้นรนอย่างหนัก เพราะเขาเป็นคนที่ อดีตนายใหญ่ นาโปลี คว้าตัวมาร่วมทีมเป็นรายแรก และนั่นอาจทำให้เขาเป็นแพะรับบาปสำหรับความล้มเหลวที่เกิดขึ้น
4.ก็องเต้ เล่นผิดตำแหน่งหรือไม่?
ในระบบของ ซาร์รี่ นั้น จอร์จินโญ่ เป็นศูนย์กลางของทีมในการขึ้นบอล ผู้เล่นแบบ บ็อกซ์-ทู-บ็อกซ์ ที่มีทักษะการป้องกัน ซึ่งน่าจะยืนเคียงข้างเขาน่าจะเป็นสไตล์แบบ อัลลัน ที่ นาโปลี แต่ เชลซี มี เอ็นโกโล ก็องเต้ ที่มีศักยภาพดีกว่ามาก
นั่นคือบทบาทที่ ก็องเต้ ถูกขอให้เล่น และในระบบของ ซาร์รี่ กองกลางทีมชาติฝรั่งเศส ไม่อยู่ในตำแหน่งที่ตัวเองถนัดที่สุดคือ มิดฟิลด์ตัวรับ ในพื้นที่หน้าแผงหลัง คือจุดที่เขาควรจะอยู่ และนั่นเป็นเพียงหนึ่งในประเด็นพื้นฐานที่สำคัญของระบบนี้ที่น่าผิดหวังที่กำลังเกิดขึ้น
Text – Che Navapun
Photo – metro.co.uk, uncleajala.com, socceronsunday.com, goal.com, independent.co.uk
