เคราะห์ซ้ำกรรมซัด! ลงรายละเอียด “เชลซี” โดนโทษห้ามซื้อตัว 2 ตลาด!

ช่วงนี้แฟนๆ “สิงห์บลู” เชลซี คงจะอยากเอาเท้าขึ้นมาก่ายหน้าผากกันเป็นแถว เพราะนอกจากฟอร์มทีมจะลุ่มๆ ดอนๆ และ ผู้จัดการทีมเริ่มไม่ได้รับความไว้วางใจแล้ว ล่าสุดคดีเรื่องการเซ็นสัญญากับนักเตะดาวรุ่งเมื่อ 3-4 ปีก่อน ก็มาประจวบเหมาะออกผลตัดสินพอดี ว่าเชลซีมีความผิดจริง และจะโดนโทษห้ามซื้อตัวนักเตะ 2 ตลาดซื้อขายข้างหน้า โดยเชลซีตอนนี้กำลังเตรียมการจะอุทธรณ์อยู่ ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าหมู่หรือจ่า

ทำความรู้จักโทษแบนห้ามซื้อตัว

ก่อนจะไปพูดถึงผลกระทบของเชลซี มาทำความรู้จักกันก่อนกับ “โทษแบนห้ามซื้อนักเตะ” ซึ่งโดยส่วนมากแล้ว โทษประเภทนี้ ถือเป็นบทลงโทษสถานแรงซึ่งสมาพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือฟีฟ่าใช้ลงโทษทีมที่กระทำความผิดอย่างใดอย่างนึงเกี่ยวกับการซื้อขายนักเตะ, การเซ็นสัญญา หรือการใช้งานนักเตะ โดยมีมาแล้วหลายเคส

อันโดนี่ ซูบีซาร์เร็ตต้า ผู้อำนวยการกีฬาของบาร์เซโลน่า ขณะโดนโทษแบน

แน่นอนว่าเคสที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดคือเคสของ “บาร์เซโลน่า” ซึ่งโดนลงดาบแบนใน 2014 ห้ามให้มีการซื้อนักเตะ 2 ตลาดซื้อขาย เนื่องจากไปพัวพันผิดกฎกับการเซ็นนักเตะอายุต่ำกว่า 18 ปี ซึ่งทำให้ “อันโดนี่ ซูบีซาร์เร็ตต้า” ผู้รักษาประตูตำนาน และผู้อำนวยการกีฬาของสโมสรขณะนั้น ต้องโดนเด้งเพราะทำเรื่องเสื่อมเสียชื่อเสียงสโมสร

นอกเหนือจากเคสของเจ้าบุญทุ่มแล้ว ยังมีเคสสำคัญที่ถูกนำเอามาเป็นบรรทัดฐานในภายหลังอีกหลายเคส เช่นเคสของสโมสรซิยงในสวิสเซอร์แลนด์ ที่ดันไปเซ็นสัญญากับ “อัสซัม เอล-ฮาดาดี้” ผู้รักษาประตูทีมชาติอียิปต์ในปี 2008 ซึ่งต่อมาแกกลายมาเป็นผู้ครองสถิตินักเตะอายุมากที่สุดในประวัติศาสตร์ ที่ลงเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ที่รัสเซียเมื่อปีที่แล้ว ด้วยอายุ 45 ปี

อัสซัม เอล-ฮาดาดี้ ขณะสวมเสื้อลงเล่นให้ซิยง ก่อนฟีฟ่าจะฟันธงว่าผิดกฎ

เคสของซิยงนั้น ดันไปผิดกฎตรงที่ไปเซ็นเอล-ฮาดาดี้ มาร่วมทีมฟรีในปี 2008 ทั้งที่สัญญาของเขายังไม่หมดกับทีมเก่าอย่างอัล อาห์ลี ซึ่งบทลงโทษใช้เวลาตัดสินนานพอสมควร ก่อนจะลงดาบ ซิยงด้วยโทษหนัก แบนห้ามซื้อนักเตะตั้งแต่ตลาดหน้าหนาวปี 2011, โดนแบนห้ามเล่นฟุตบอลสโมสรยุโรป แถมยังโดนปรับแต้มในลีกถล่มทลาย 36 แต้มในฤดูกาล 2011/12 แต่โชคดีที่สุดท้ายจบด้วยอันดับ 9 (จาก 10 ทีม) เพราะมีเนชั่นแนล ซามักซ์ ซึ่งโดนไม่ให้แข่งต่อเพราะถังแตกพอดี ซิยงเลยได้ไปเพลย์ออฟ และรอดหวุดหวิดได้อยู่ในลีกสูงสุดต่อไป

โฉมหน้าของกาแอล คาคูต้า ซึ่งการย้ายตัวผิดกฎ ทำเอาเชลซีเกือบโดนแบนมาแล้ว

หรือแม้แต่เชลซีเองก็เถอะ พวกเขาเคยเฉียดโทษแบนห้ามซื้อตัวนักเตะมาทีนึงแล้วในปี 2010 ที่พวกเขาไปเซ็น และลงทะเบียน “กาแอล คาคูต้า” โดยการละเมิดสัญญาของนักเตะที่ทำไว้กับลองส์ สโมสรเก่า จริงๆ ฟีฟ่าตัดสินแบนเชลซีไปแล้ว 2 ตลาดซื้อขาย แต่สุดท้ายรอดไปเมื่อศาลอนุญาโตตุลาการทางการกีฬา (CAS) ยกเลิกโทษแบน หลังมีการอุทธรณ์ โดยท้ายสุด เชลซีต้องยอมจ่ายค่าปรับรวมเกือบ 800,000 ปอนด์

เจาะกฎฟีฟ่า ข้อที่เชลซีโดนลงดาบ

คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย อีกหนึ่งผลผลิตจากเชลซี เมื่อครั้งเซ็นสัญญาอาชีพตอนอายุ 18 ปี

ความผิดของเชลซีครั้งนี้ โดนจากเคสที่พวกเขาเซ็นสัญญากับนักเตะอายุต่ำกว่า 18 ปี แบบผิดกฎ เพราะจริงๆ แล้ว ฟีฟ่าอนุญาตให้เซ็นสัญญากับนักเตะที่อายุต่ำกว่า 18 ปี เพียงแค่ 3 เหตุผลเท่านั้น เพื่อหลีกเลี่ยงเรื่องการหลอกลวง และปัญหาการค้ามนุษย์ ได้แก่

กรณีที่ผู้ปกครองต้องย้ายไปยังประเทศที่สโมสรใหม่ตั้งอยู่ ด้วยเหตุผลที่ไม่เกี่ยวข้องกับฟุตบอล
สโมสรทั้งสอง จะต้องอยู่ในสหภาพยุโรป หรือเขตเศรษฐกิจยุโรป ร่วมกัน และนักเตะต้องอายุระหว่าง 16-18 ปี ถ้าไม่ใช่ช่วงอายุนี้ ต้องมาดูเงื่อนไขเพิ่มเติม เช่นเรื่องการศึกษา, การพัฒนาฝึกซ้อม, ชีวิตความเป็นอยู่ เป็นต้น
นักเตะต้องอยู่ในรัศมี 100 กิโลเมตรจากสโมสร

แน่นอนว่าเคสที่มีปัญหาในการเซ็นเด็กต่ำกว่า 18 ปี นั้นมักเป็นการกว้านซื้อเด็กฝีเท้าดีจากทั่วทุกมุมโลก เพื่อเป็นการจับจองไว้ก่อน หรือจะกันท่าสโมสรอื่นก็แล้วแต่ ซึ่งมันมักจะไม่เข้าข่าย 3 ข้อที่ว่า จึงมีการหมกเม็ด หรือหาวิธีหลีกเลี่ยงกันสารพัด

ลงลึก ทำไมเชลซีถึงโดนแบน?

ว่ากันว่าเคสทั้งหมดที่เชลซีโดนตรวจสอบในการเซ็นสัญญานักเตะดาวรุ่งนั้นมีมากถึง 92 เคส และมีมากถึง 29 เคสที่น่าสงสัยว่าจะละเมิดกฎ โดยมีนักเตะที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคือ “เบอทรานด์ ตราโอเร่” ซึ่งปัจจุบันย้ายไปเป็นกำลังสำคัญในแนวรุกของโอลิมปิก ลียงไปแล้ว

เบอทรานต์ ตราโอเร่ นักเตะบูร์กินาฟาโซ ที่กลายเป็นเคสสำคัญที่เชลซีทำผิดกฎ

เคสของตราโอเร่นั้น ต้องย้อนไปยังปี 2013 ซึ่งเชลซีเซ็นสัญญากับเขาก่อนจะอายุครบ 18 ปี และให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ผิดกฎในเรื่องการซื้อนักเตะอายุน้อยกว่ากำหนด โดยมีหลักฐานชัดเจนว่าตราโอเร่ลงเล่นให้เชลซีทั้งชุดยู 16 และยู 18 รวมถึง 25 นัด ทั้งที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนให้เรียบร้อย เนื่องจากพยายามดึงเช็งเรื่องอายุนั่นเอง โดยมีข่าวเจาะลึกลงไปอีก ว่าเชลซีมีการเสนอเงินกินเปล่าให้แม่ของตราโอเร่อีกด้วย เพื่อช่วยปกปิดเรื่องนี้

เมื่อฟีฟ่าเขาเห็นว่าผิดจริง จึงประกาศบทลงโทษแบนเชลซีไม่ให้ทำการซื้อนักเตะทันทีใน 2 ตลาดถัดไป นั่นคือซัมเมอร์ก่อนเปิดซีซั่น 2019/20 และตลาดหน้าหนาวในเดือน ม.ค. ปี 2020 โดยบทลงโทษนี้ไม่ได้ครอบคลุมไปถึงการขายนักเตะ และไม่ได้แบนไปถึงทีมฟุตบอลหญิง หรือทีมฟุตซอลของสโมสรแต่อย่างใด

โดยเชลซีมีเวลาราว 90 วัน ในการยื่นอุทธรณ์ ซึ่งพวกเขาทำแน่นอน เพราะอย่างน้อยหากไม่ประสบความสำเร็จในการรอดโดนลงโทษ แต่ก็มีโอกาสเหมือนกันที่โทษจะลดลงเหลือแค่ปรับเงิน ซึ่งพวกเขาเคยอุทธรณ์เป็นผลมาแล้วเมื่อปี 2010 อย่างที่ว่าไป

ผลกระทบต่อเนื่อง

อย่างที่ทราบกันว่าสถานการณ์ในเรื่องผลงานของเชลซีนั้นไม่สู้ดีเลย อย่างเรื่องผู้จัดการทีมอย่าง “เมาริซิโอ ซาร์รี่” ที่หลายสื่อเชื่อว่าเขาเป็น “Dead Man Walking” หรือคนตายที่ยังเดินได้ คือไม่ช้าก็เร็วจะโดนปลดแน่นอน เพียงแต่รอหาตัวเลือกใหม่ให้ได้ก่อน หรือรอจุดเปลี่ยนที่ไม่ประสบความสำเร็จ ซึ่งมีเยอะแยะไปหมดทั้งการชิงคาราบาว คัพกับซิตี้, ผลงานในยูโรป้า ลีก หรือสถานการณ์ลุ้นที่ 4 พลาดจุดใดจุดหนึ่ง “โรมัน อับราโมวิช” พร้อมปลดแน่ โดยมีชื่อของ “ซีเนดีน ซีดาน” เป็นตัวเต็งในการถูกดึงมาคุมทีมแทน

ซีเนดีน ซีดาน ตัวเต็งกุนซือที่อาจจะเข้ามาแทน เมาริซิโอ ซาร์รี่ ที่เก้าอี้กำลังร้อน

แต่ถ้ามาโดนแบนห้ามซื้อนักเตะขึ้นมาล่ะ!? ผู้จัดการทีมที่เคยคุมนักเตะซูเปอร์สตาร์มากมาย และประสบความสำเร็จอย่างสูงมาตลอดที่อยู่กับเรอัล มาดริด จะกล้ามาขี่หลังสิงห์ที่ดูทรงไม่ค่อยดีแบบนี้หรือเปล่า เพราะรู้กันอยู่ว่านักเตะของเชลซีหลายรายก็พร้อมจะย้ายออกไป ยิ่งหากไม่ได้ติดที่ 4 ไปเล่นแชมเปี้ยนส์ ลีก อีกปี

เอแดน อาซาร์ ในวัย 28 ปี ซึ่งมีข่าวย้ายทีมเป็นประจำทุกตลาดซื้อขาย

ปวดหัวเรื่องผู้จัดการทีม ก็มาต่อเรื่องนักเตะย้ายทีมซึ่งเป็นของคู่กันกับเชลซีมาตลอด ชื่อที่เต็งมาทุกรอบคือ “เอแดน อาซาร์” อย่างไม่ต้องสงสัย เพราะอายุอานามก็ 28 แล้ว มาดริดเป็นความฝันมาตลอดเจ้าตัวก็ยอมรับ ถ้าทีมไม่สามารถซื้อใครได้อีก 1 ปี อาซาร์จะยอมอยู่กับทีมต่อมั้ย?

ยังไม่รวมปัญหาในตำแหน่งอื่นที่ยังไม่ลงตัวนัก “วิลเลี่ยน” ก็โดนหลายทีมเหล่อยู่ตลอด “โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์” ก็พร้อมย้าย เพื่อหาโอกาสลงเล่น ความหวังจะฝากไว้ที่ “กอนซาโล่ ฮิกัวอิน” ได้มากน้อยแค่ไหนก็ไม่รู้ ย้ายมาแดนกลาง “จอร์จิญโญ่” ดูจะไม่เป็นที่ถูกใจแฟนบอล ยิ่งถ้าซาร์รี่ไม่อยู่ขึ้นมาจริงๆ จะเอายังไงต่อ “มาเตโอ โควาซิซ” ที่ยืมมาจากมาดริด ก็จะสิ้นสุดการยืมแค่สิ้นซีซั่นนี้ เมื่อไม่สามารถซื้อขาดได้ ก็ยังนึกภาพไม่ออกว่าจะลงเอยยังไง

นั่นล่ะครับ เป็นเรื่องวุ่นๆ ที่ถาโถมเข้ามาใส่ “เชลซี” แบบไม่เลือกจังหวะสักเท่าไหร่ จึงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า นอกจากผลงานในสนามที่ต้องเร่งยกระดับขึ้นมาโดยด่วนแล้ว การอุทธรณ์เพื่อให้รอดพ้นจากการแบนห้ามซื้อตัวนักเตะ ก็เป็นอีกหนึ่งงานช้างที่เชลซีต้องเตรียมตัว และวางหมากเอาตัวรอดให้ได้ มิเช่นนั้นแล้ว ไม่รู้เลยจริงๆ ว่าฤดูกาลหน้าทิศทางของทีมจะออกมาหน้าตายังไง คิดแล้วกลุ้มแทน!

Text – Rocketseer

Photo – The Mirror, Eurosport, FIFA, ESPN, Ghana Soccernet, ZapSportz, The Sportsman