หลังเกริ่นกันไป 2 วีค ทั้งทำความรู้จัก และสอนวิธีเล่นของ “Fantasy Premier League” ก็ถึงสัปดาห์เปิดฤดูกาลซะที! โดยวันนี้เราจะเข้าสู่ EP 1 กันอย่างเป็นทางการ โดยจะมาแนะนำ, วิเคราะห์ทีเด็ด และลองจัดทีมสำหรับ Gameweek 1 ที่จะเริ่มคืนวันศุกร์ที่ 9 ส.ค. นี้กัน

ใครอยากจะย้อนไปอ่านการสอนเล่นวีคที่แล้ว >> คลิกที่นี่เลย <<

แต่ก่อนจะไปเริ่มเรื่องของ Gameweek แรกกัน ขอวกย้อนมาพูดถึง “Transfer” หรือ “การเปลี่ยนตัว” กันนิดนึง เพื่อที่คุณจะได้เข้าใจ และทบทวนกลยุทธ์ให้ดี ก่อนจะจัดตัวครั้งแรก เพราะหลังจาก Gameweek 1 เริ่มต้น คุณจะเปลี่ยนตัวเข้า-ออก จากทีม แบบฟรีๆ ไม่ได้อีกแล้ว

**ใครเชี่ยวชาญแล้ว อยากดูวิเคราะห์ Gameweek 1 เลย ข้ามไปดูส่วนหลังนะครับ

กฎการ Transfer หรือ เปลี่ยนตัว

เราสามารถเข้ามาใช้บริการเปลี่ยนตัวได้ที่เมนู​ “Transfer” โดยเดดไลน์ของแต่ละ Gameweek ก็คือ 1 ชั่วโมง ก่อนคู่แรกใน Gameweek นั้นจะคิกออฟ อย่างใน Gameweek 1 เดดไลน์ก็คือเวลา ตี 1 คืนวันที่ 9 ส.ค. นั่นเอง เพราะ “หงส์แดง” เตะกับนอริช ซิตี้ เวลาตี 2

หลังจากเดดไลน์ของ Gameweek 1 ผ่านพ้นไป การเปลี่ยนตัวในแต่ละ Gameweek คุณจะได้สิทธิ์เปลี่ยนฟรีแค่เพียง 1 ตัว/Gameweek เท่านั้น หากต้องการเปลี่ยนตัวเพิ่มเติม จะต้องเสียคะแนน -4 ต่อ 1 ตัว เลยทีเดียว ดังนั้น คิดไตร่ตรอง วางแผนดีๆ

จำนวนการเปลี่ยนตัวฟรี ยังสามารถสะสมไปใน Gameweek หน้าได้ หากใน Gameweek นั้นๆ เราไม่ทำการเปลี่ยนตัว โดยจะสะสมสิทธิ์ได้สูงสุดเพียง 2 ตัวเท่านั้น มากกว่านั้นไม่ได้

ค่าตัวของนักเตะ

นักเตะแต่ละคนจะมีค่าตัวที่กำหนดไว้ตั้งแต่แรก เช่น “แฮร์รี่ แม็คไกวร์” กองหลังป้ายแดง “ปีศาจแดง” จะราคา 5.5 ล้านปอนด์ หรือ “แฮร์รี่ เคน” ราคาโหดหน่อย 11 ล้านปอนด์

แต่เมื่อผ่านการแข่งขันไปเรื่อยๆ ค่าตัวตรงนี้อาจจะขึ้นหรือลงได้ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยที่เกมกำหนดเป็นกลไกราคา เช่น มีคนเลือกใช้เพิ่มขึ้น ราคาจะขึ้น หรือ คนเปลี่ยนตัวออกเยอะ ราคาก็จะลง โดยปกติจะขึ้น-ลง ทีละ 0.1 ล้านปอนด์ อย่าง “แฮร์รี่ เคน” หากซัดแฮททริคได้ คนก็เลือกเยอะ 11 ล้าน ก็อาจจะเพิ่มเป็น 11.1 ล้านปอนด์ได้

โดยจุดนี้ ยังอาจจะทำให้เรามีงบประมาณเพิ่มเติมขึ้นด้วย หากนักเตะในทีมของเราราคาขึ้น และทำการเปลี่ยนตัวออกในอนาคต แต่เรทการเพิ่มก็จะโหดนิดนึง เพราะมันต้อง “หาร 2” เช่น เราเลือกเคนมาตอนราคา 11 ล้าน เมื่อราคาขึ้นไปถึง 11.2 ล้าน ตอนเราเปลี่ยนตัวออก เราจะได้เงิน 11.1 ล้านปอนด์แทน (กำไร 0.1 ล้าน)

วิธีเช็คง่ายๆ ในการเปลี่ยนตัว

เบสิกเลยคือลองจัดตัวสำหรับ Gameweek ถัดไปดูก่อน ใครยังอยากใช้ ก็อาจจะรอเปลี่ยนตัวไว้คราวหน้า แล้วเลือกตัวที่คิดว่าเราจะไม่ได้ใช้ประโยชน์ เป็นผู้โชคร้ายเปลี่ยนออกไป ให้สอดคล้องกับราคานักเตะที่อยากจะเปลี่ยนเข้ามา

สิ่งที่ต้องเช็คต่อไปก็คือ “อาการบาดเจ็บ” หรือ “ติดโทษแบน” ซึ่งถ้ามีเครื่องหมายตกใจขึ้น สีเหลือง (โอกาสลงได้ 75%), สีส้ม (25-50%), สีแดง (ไม่น่าฟิตทัน หรือโดนแบนใน Gameweek นี้) ก็ต้องพิจารณาหลีกเลี่ยง บางทีอาจจะต้องไปตามข่าวจนวันสุดท้าย ถ้ารอได้ ก็ไว้ใกล้ๆ เดดไลน์ ค่อยตัดสินใจ (แต่อย่าลืมล่ะ)

นอกเหนือจากการยึดอาการบาดเจ็บ และเช็คให้แน่ว่าใครจะได้ลง จนต้องดึงดีเลย์ไปเปลี่ยนก่อนเดดไลน์ อาจจะมีอีกแทคติกที่ตรงกันข้าม นั่นคือ “การชิงเปลี่ยนตัวเร็ว” ซึ่งวิธีนี้ จะเอาไว้รีบเปลี่ยนตัวนักเตะฟอร์มร้อนแรงเข้าทีม ก่อนที่ราคาจะขยับขึ้นแบบที่อธิบายไปด้านบน

กลยุทธ์นี้ อาจจะทำให้เราประหยัดเศษเงิน 0.1 – 0.2 ซึ่งหลายครั้งมันก็สำคัญ ต่อการเลือกวางแผนทีม แต่ในทางกลับกัน มันก็อาจจะเสี่ยง หากมีใครบาดเจ็บขึ้นมาระหว่าง Gameweek

“Chips” หรือ “ตัวช่วย”

นอกเหนือจากการเปลี่ยนตัวในแบบปกติธรรมดาที่อธิบายไป มันยังมี “Chips” หรือ “ตัวช่วย” ซึ่งเกมมีไว้ให้ใช้ 4 อย่าง ดังต่อไปนี้

Bench Boost : ใช้ได้เพียง 1 ครั้งตลอดซีซั่น

เป็นตัวช่วยที่ทำให้การคิดคะแนนใน Gameweek นั้น เปลี่ยนจากคิดแค่ตัวจริง 11 ตัว กลายเป็นทั้งหมด 15 ตัว รวมตัวสำรองด้วย

ควรใช้เมื่อไหร่ : ไม่ต้องรีบใช้ เล็ง Gameweek ที่เหมาะสม และเช็คว่าทั้ง 15 ตัวของเรา มอบคะแนนได้ครบถ้วนมากที่สุด

Free Hit : ใช้ได้เพียง 1 ครั้งตลอดซีซั่น

เป็นการให้สิทธิ์เปลี่ยนตัวกับคุณฟรี แบบกี่ตัวก็ได้ แต่จะมีผลแค่ใน Gameweek นั้น Gameweek เดียว เมื่อสิ้นสุด ทีมของคุณจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมก่อนใช้ Free Hit

เพิ่มเติมนิด หากใช้ Free Hit จำนวนสิทธิ์เปลี่ยนตัวฟรีที่คุณสะสมไว้ 2 ครั้ง (ในกรณี Gameweek ก่อนหน้า ไม่ได้เปลี่ยน) จะถูกเคลียร์ให้เหลือ 1 ตามปกติ

ควรใช้เมื่อไหร่ : ไม่ต้องรีบใช้ ช่วงที่มีฟุตบอลถ้วยมาเกี่ยวข้อง จะมี Gameweek ที่ทีมเตะไม่ครบบ้าง หรือต้องเบิ้ล 2 แมทช์บ้าง ไว้เลือกใช้ใน Gameweek แบบนั้นจะดีกว่า

Triple Captain : ใช้ได้เพียง 1 ครั้งตลอดซีซั่น

อันนี้ต้องย้ำอีกที ว่าแต่ Gameweek ที่เราจัดตัว เราจะสามารถเลือก “กัปตันทีม” (สัญลักษณ์ C ในหน้าจัดทีม) เพื่อจะให้นักเตะคนนั้นๆ ได้คะแนน “คูณ 2” ได้ นอกนั้นจะสามารถเลือก “รองกัปตัน” (สัญลักษณ์ V) ซึ่งจะได้รับคะแนน “คูณ 2” แทน หากกัปตันทีมของคุณไม่ได้ลงเล่นเลย ใน Gameweek นั้น

การใช้ Triple Captain ก็คือการเลือกให้ Gameweek นั้น กัปตันทีมของคุณ จะได้คะแนน “คูณ 3” แทนนั่นเอง

ควรใช้เมื่อไหร่ : ต้องดูจังหวะให้ดี แล้วโฟกัสว่ากัปตันทีมของคุณจะทำแต้มกระจายใน Gameweek นั้น เช่น แมนฯ ซิตี้ เปิดบ้านเจอ เชฟฯ ยู คุณมั่นใจใน “ราฮีม สเตอร์ลิ่ง” มาก ว่ามาแน่ คุณก็จัด Triple Captain ไว้ในวีคนั้น หรืออาจจะเป็นวีคที่มีทีมเตะเบิ้ล 2 นัด ก็ได้ // คิดให้ดี ใช้ได้ครั้งเดียว

Wildcard : ตลอดซีซั่น ใช้ได้ 2 ครั้ง

ช่วงเวลาที่ใช้ได้
Wildcard 1 >> ใช้ได้ตั้งแต่ต้นซีซั่น จนถึง 28 ธ.ค.​ (Gameweek 20)
Wildcard 2 >> หลัง Gameweek 20 จนถึงสิ้นสุดซีซั่น

Wildcard ถือเป็นกลยุทธ์สำคัญของการเล่นในแต่ละซีซั่น เพราะเมื่อคุณกดใช้ คุณจะสามารถเปลี่ยนตัวใน Gameweek นั้น ได้ฟรีแบบไม่จำกัด และตัวที่คุณเปลี่ยนจะคงอยู่ต่อไป ไม่เหมือนกับ Free Hit ที่มันจะมีผลแค่ Gameweek เดียว

เช่นเดียวกับ Free Hit หากใช้ Wildcard จำนวนสิทธิ์เปลี่ยนตัวฟรีที่คุณสะสมไว้ 2 ครั้ง (ในกรณี Gameweek ก่อนหน้า ไม่ได้เปลี่ยน) จะถูกเคลียร์ให้เหลือ 1 ตามปกติ

ควรใช้เมื่อไหร่ : สังเกตว่า Wildcard ใช้ได้ 2 หน ดังนั้น ต้องรักษาสิทธิ์ ใช้ให้ครบถ้วนตามระยะเวลาที่เกมกำหนด ส่วนจะใช้เมื่อไหร่ ก็ขึ้นอยู่กับความคิดเห็นของเรา Wildcard แรก อาจจะตัดสินใจใช้ได้เร็วหน่อย ถ้าเห็นว่าโดยรวม ทีมของเราไม่ไหว ส่วน Wildcard อันที่ 2 อาจจะรอดูตลาดนักเตะ ม.ค. ซะก่อน แล้วค่อยไว้ใช้ปรับทีม ไว้ลุ้นชนะเพื่อนในช่วงโค้งสุดท้ายของซีซั่น

เตือนปิดท้ายนิดนึง!! Chips หรือ ตัวช่วยทั้งหลาย หากมีการ “Confirm” หรือเข้าสู่ Gameweek แล้ว จะไม่สามารถยกเลิกได้ ดังนั้น คิดให้ดี ใช้ให้ฉลาดที่สุดต่อทีมของคุณ

Gameweek 1 : วิเคราะห์ตัวทีเด็ด

ผู้รักษาประตู

อลิสซง เบ็คเกอร์ (ลิเวอร์พูล / 6 ล้านปอนด์)

แน่นอนว่าผู้รักษาประตูมือ 1 ทีมชาติบราซิล มีซีซั่นที่แล้วที่ดีมากๆ เก็บได้ 21 คลีนชีต พร้อมกับโบนัส ติดไม้ติดมือ 9 แต้ม และดูจากการที่นัดแรก “หงส์แดง” เล่นได้บ้าน เจอกับนอริช ซิตี้ โอกาสเก็บคลีนชีตก็น่าจะมีสูง

มองไกลอีกนิด โปรแกรมของ “หงส์แดง” ในช่วงแรกถือว่าไม่หนัก 5 นัดแรก มีแค่เล่นในบ้านกับอาร์เซน่อล ในนัดที่ 3 ที่เป็นทีมใหญ่ กว่าจะเยือนทีมใหญ่อีกที ก็ต้องนัดที่ 6 ที่เจอเชลซี นู่นเลย

เอแดร์สัน (แมนฯ ซิตี้ / 6 ล้านปอนด์)

อีกหนึ่งผู้รักษาประตูแซมบ้า ที่ผลงานสม่ำเสมอ ซีซั่นที่แล้ว เก็บได้ 20 คลีนชีต และมีจำนวนเซฟทั้งหมด 58 ครั้ง แม้ 2 นัดแรกซีซั่นใหม่ของ “เรือใบสีฟ้า” จะหนักหน่อย ต้องเยือนเวสต์แฮม ต่อด้วยเหย้ากับสเปอร์ แต่หลังจากนั้น กว่าจะเจอทีม Top 6 อีก ก็ต้องยาวไปถึงนัดที่ 12 นู่นเลย

มาร์​ค เทรเวอร์ส (บอร์นมัธ / 4.5 ล้านปอนด์)

มาดูตัวเลือกอินดี้กันบ้าง เห็นชื่อหลายคนอาจจะงง หมอนี่มันใคร แต่ถ้าติดตามนัดท้ายๆ ของซีซั่นที่แล้ว กุนซือ “เอ็ดดี้ ฮาว” จัดโกล์ดาวรุ่งรายนี้ ลงเป็นตัวจริงใน 2 นัดสุดท้าย และใช้งานเขาบ่อยครั้ง ในเกมปรีซีซั่นที่ผ่านมา

แม้ต้องคอนเฟิร์มอีกที เพราะบอร์นมัธ ยังมีโกล์มือดีทั้ง “อัสเมียร์ เบโกวิช” และ “อาเธอร์ โบรุค” แต่แอบมั่นใจลึกๆ ว่าฮาว จะเลือกลองของกับเทรเวอร์ส แถมโปรแกรมบอร์นมัธ 7 นัดแรก มีเจอ Top 6 แค่นัดเดียว คือเหย้ากับแมนฯ ซิตี้ ในนัดที่ 3

กองหลัง

โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ (แมนฯ ซิตี้ / 5.5 ล้านปอนด์)

ขึ้นชื่อว่า “เรือใบสีฟ้า” มันก็น่าเลือกอยู่แล้ว แน่นอนว่าตัวหลักในแดนหลัง น่าจะเป็น “อายเมริก ลาปอร์ต” แต่ด้วยราคาที่สูงถึง 6.5 ล้านปอนด์ และต้องรอเช็คฟิต แบ็คซ้ายตัวหลักอย่างซินเชนโก้ ก็น่ารักน่าลุ้น แม้จะเล่นในคอมมูนิตี้ ชิลล์ ตื่นๆ ไปหน่อยก็ตาม

โปรแกรมของซิตี้ ไม่ถึงกับหนักนักอย่างที่บอกไป ประกอบกับการขึ้นมาเปิดบอลของเขาก็ใช้ได้ สถิติ 3 แอสซิสต์ ในซีซั่นก่อน ถือว่าน่าจะพอเสี่ยงดูได้

แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน (ลิเวอร์พูล / 7 ล้านปอนด์)

ของแพงที่สุดในแดนหลัง เพราะซีซั่นที่แล้ว เก็บไป 21 คลีนชีต กับ 12 แอสซิสต์ ซีซั่นนี้ยังคงการันตีตัวจริงอย่างแน่นอน เทียบกับฝั่งแบ็คขวาอย่าง “เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาโนลล์” ที่รู้สึกลึกๆ ว่า “เจอร์เก้น คลอปป์” อาจเลือก​ “โจ โกเมซ” สลับลงบ้าง ในบางเกมที่จะเน้นแพ็คเกมรับแน่นๆ

ข้อดีคือสภาพร่างกายที่ฟิต และการมีส่วนร่วมโดยตลอดของโรเบิร์ตสัน ทำให้เราเชื่อใจได้ว่าจะมีลุ้นแต้มได้ยาวๆ อาจจะแพงไปหน่อย แต่ลงทุนหนักตั้งแต่แรก แล้วใช้ได้ต่อเนื่อง ก็น่าสน

ลูก้า ดีญ (เอฟเวอร์ตัน / 6 ล้านปอนด์)

หากมองดูราคาแล้ว 6 ล้านปอนด์ อาจจะแพงไปหน่อย แต่สถิติการเก็บคลีนชีตทั้งซีซั่นของ “ทอฟฟี่” จำนวน 14 นัด ก็คาดหวังความเหนียวแน่นได้พอสมควร นอกจากนั้น ตัวดีญเอง ยังยิงได้ถึง 4 ประตู กับทำ 5 แอสซิสต์ อีกต่างหาก

จุดเด่นสำคัญของดีญ คือการมีส่วนร่วมกับเกมรุก และจ่ายบอลสวยๆ ได้เสมอ โปรแกรมของ “ทอฟฟี่” 10 นัดแรก ก็มีเจอ Top 6 แค่ แมนฯ ซิตี้ นัดเดียวในนัดที่ 7 จึงน่าลองไว้ใจแบ็คเลือดน้ำหอมรายนี้ดู

กองกลาง

เควิน เด บรอยน์ (แมนฯ ซิตี้ / 9.5 ล้านปอนด์)

ซีซั่นที่แล้ว KDB มีอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่หลายรอบ จนลงเล่นไม่ถึง 1,000 นาที แต่ในปีนี้ช่วงปรีซีซั่น กองกลางชาวเบลเยี่ยม ดูจะฟิตพร้อม และมีบทบาทสำคัญในการขึ้นเกมของ “เป๊บ กวาดิโอล่า” อย่างมาก

นอกเหนือจากการจ่ายบอล และเล่นลูกเซ็ตพีซที่ได้ลุ้นแล้ว KDB ยังมีจุดเด่นด้านการยิงไกล ซึ่งเพิ่มโอกาสทำแต้มให้กับคุณ แถมราคายังแค่ 9.5 ล้านปอนด์ เหมาะจะลองเลือก หากไม่อยากเสียเงินสูงถึง 12 ล้านปอนด์ กับตัวทีเด็ดอีกตัว อย่าง “ราฮีม สเตอร์ลิ่ง”

โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ (ลิเวอร์พูล / 12.5 ล้านปอนด์)

แม้แนวรุกทีมชาติอียิปต์ จะมีช่วงฟอร์มตก และมีปัญหาด้านความเฉียบขาดในการจบสกอร์ แต่สังเกตว่า ความมั่นใจในการกดดันกองหลังคู่แข่ง ยังคงทำได้ดีสม่ำเสมอ ซีซั่นที่แล้วที่ว่าฟอร์มฝืด โมก็ยังยิงได้ถึง 22 ประตู กับ 12 แอสซิสต์

อโยเซ่ เปเรซ (เลสเตอร์ / 6.5 ล้านปอนด์)

แนวรุกที่มาฮ็อตตอนปลายซีซั่นกับนิวคาสเซิล ซีซั่นนี้ โยกมาอยู่กับ “จิ้งจองสยาม” เลสเตอร์ และน่าจะประสานงานกับ “เจมส์ แมดดิสัน” และ “เจมี่ วาร์ดี้” ได้อย่างดี ราคาระดับ 6.5 ล้านปอนด์ จึงน่าดึงดูด กับจำนวน 8 และ 12 ประตู ที่เขาทำได้ ใน 2 ซีซั่นหลังสุด

กองหน้า

มอยเซ่ เคน (เอฟเวอร์ตัน / 7 ล้านปอนด์)

กองหน้าทีมชาติอิตาลี ที่ย้ายมาจาก “ม้าลาย” ยูเวนตุส ถือเป็นการซื้อที่น่าตื่นเต้นของ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เพราะถือเป็นการแก้ปัญหาศูนย์หน้าที่ดี หลังปีที่แล้ว ต้องหวังพึ่งมิดฟิลด์อย่าง “ริชาร์ลิสัน” และ “กิลฟี่ ซิกูร์ดสัน” ทำประตูซะมาก

แต่อย่างไรก็ดี การเลือกเคนใน Gameweek แรก อาจจะเสี่ยงนิดหน่อย หาก “มาร์โก้ ซิลบา” เลือกจะให้เขาเริ่มต้นบนม้านั่งสำรองก่อน

คัลลั่ม วิลสัน (บอร์นมัธ / 8 ล้านปอนด์)

กองหน้าทีมชาติอังกฤษ ยิงประตูได้อย่างต่อเนื่องในซีซั่นที่แล้ว กับโปรแกรมเริ่มต้น 7 นัดแรก ที่ไม่หนักนัก วิลสันจึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แม้ราคาจะกั๊กๆ ไม่ถูก และไม่แพง ก็ตาม

ตัวเลือกในราคาที่ต่ำกว่าอย่าง “โจชัว คิง” คู่หูในแนวรุกของวิลสัน เองก็น่าสนใจ เพราะราคาแค่ 6.5 ล้านปอนด์ แต่ซีซั่นที่แล้ว ก็ยิงได้ถึง 12 ประตู แม้จะเจ็บบ่อยไปนิดก็ตาม

จัดทีม วัดใจ

ถือเป็นช่วงที่เราอยากเอาใส่ใน “มิตรรัก นักแฟนตาซี” ด้วย ทุก EP นั่นคือการลองจัดทีมให้ดูกันจะๆ ไปเลย ว่ามันเวิร์คมั้ย และกลยุทธ์การเปลี่ยนตัวระหว่าง Gameweek เป็นยังไงบ้าง

อย่างไรก็ตาม ต้องดอกจันไว้ก่อน ว่าผมเขียนคอลัมน์นี้ ในคืนวันพุธ ดังนั้นแล้ว อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงทีมในช่วงก่อนเดดไลน์ เพราะจะมีเรื่องของนักเตะบาดเจ็บ หรือการเปลี่ยนใจ เข้ามาเกี่ยวข้อง

เอาล่ะ หน้าตาที่ผมลองจัดสำหรับ Gameweek 1

ผู้รักษาประตู :

ลังเลเหมือนกัน ว่าจะเลือกตัวราคาแพงอย่างอลิสซง หรือ เอแดร์สัน มั้ย แต่สุดท้าย ตัดสินใจเก็บงบไว้กับตำแหน่งอื่น เลยเลือก “จอร์แดน พิกฟอร์ด” ของเอฟเวอร์ตัน เพราะโปรแกรมหัวซีซั่นดี กับ “มาร์ค เทรเวอร์ส” ที่น่าจะยึดมือ 1 ของบอร์นมัธ อย่างไรก็ดี ต้องเช็คข่าวช่วงก่อนเดดไลน์เพิ่มเติม

กองหลัง :

ตัวยืน มองไปที่ “แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน”, “โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้” และ “ลูก้า ดีญ” ตามที่ได้แนะนำไป อีก 2 ตัว ขอเลือกตัวราคา 4.5 ล้านปอนด์ เพื่อประหยัดงบ “อดัม สมิธ” น่าจะลงตัวจริงกับบอร์นมัธ ที่โปรแกรมไม่หนัก ส่วน​ “ไมเคิล โลว์ตัน” ก็น่าจะเป็นตัวหลักกับเบิร์นลี่ย์ ที่มักจะเหนียวในบ้าน

กองกลาง :

ตัวทำแต้ม เลือก “โม ซาล่าห์”​ และ “เควิน เด บรอยน์” ไว้ก่อน เพิ่มเติมตัวราคาไม่แพง และน่ามีลุ้นยิง หรือแอสซิสต์ อย่าง “กรานิต ชาก้า” หรือ “แอนดรอส ทาวน์เซ่น” ลงไป ส่วน “แจ็ค คอร์ก” น่าจะเป็นตัวหลักของเบิร์นลี่ย์ ที่แอบลุ้นการแอสซิสต์ หรือทำประตู ได้บ้าง

อีกทางเลือกที่น่าสนใจ คือการใส่ “อโยเซ่ เปเรซ” แทนทาวน์เซ่น แต่ต้องปรับลดตำแหน่งของคอร์ก ให้ถูกลง 0.5 ล้านปอนด์ โดยอาจจะเลือก “เดล สตีเฟ่น” ของไบรท์ตัน หรือ “ลีอันเดอร์ เดนด็องเกอร์” ของวูล์ฟ ที่ราคาแค่ 4.5 ล้านปอนด์ แทน

กองหน้า :

“มอยเซ่ เคน” ดูเสี่ยงไปนิด เลยอยากลองแหวกแนวนิดนึงกับ “โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่” ที่ดูเฉียบคมหลังกลับมาจากพักร้อน “คัลลั่ม วิลสัน” ก็น่าจะเก็บไว้กับทีมได้ยาวนาน อีกตำแหน่งกับงบประมาณที่เหลือ 6.5 ล้านปอนด์ ก็มีแคนดิเดตหลายคนให้ตัดสินใจ

“โจชัว คิง” ก็น่าสนใจ แต่การเลือกบอร์นมัธ 2 คนในแดนหน้า อาจจะดูเสี่ยงไป แถมยังต้องถอดบอร์นมัธ ออกคนนึงไม่ให้เกิน 3 ตัว อีกต่างหาก

“ดิเอโก้ โจต้า” ของวูล์ฟ ก็ดูเป็นตัวเลือกที่ดี และมีส่วนร่วมกับประตูตลอด หรืออีกไอเดียคือเลือกตัว 6.0 ล้านปอนด์ เพื่อสแปร์ 0.5 ล้านปอนด์ไว้ เพื่อการเปลี่ยนแปลงใน Gameweek หน้า

กัปตันทีม/รองกัปตันทีม

ซื้อใจ “โม ซาล่าห์” เพราะคิดว่าน่าจะมีช่องเล่นงานนอริช ได้ไม่น้อย รองกัปตันก็เลือกเป็น “โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่” ไป ด้วยเหตุผลเดียวกัน

ใครอยากแอบส่องทีมของผม สามารถเข้ามาจอยลีก “The.Macho League” และเช็คทีม “RhianBrewster24” ได้เลยจ้า ผมจะทำหน้าที่แอดมินลีก คอยสอดส่อง อำนวยความสะดวกให้ทุกคนเอง

ที่ต้องมีแอดมินลีกคอยสอดส่อง เพราะอยากจะบอกข่าวดี ว่า “The.Macho League” ของเรา มีของรางวัลให้ลุ้นกันด้วย ทั้งแจกเสื้อฟุตบอลของแท้ทุกเดือน และ Gift Voucher มูลค่ากว่า 5,000 บาท ติดตามรางวัล >> คลิกไปดูกันที่นี่เลย <<

และเพื่อเพิ่มช่องทางการสื่อสาร และพูดคุยกันให้ใกล้ชิดขึ้น “The.Macho League” ยังมีกลุ่มเฟซบุ๊ค ด้วย โดยคุณสามารถค้นหา >> FANTASY PREMIER LEAGUE / THE MACHO LEAGUE หรือ >> คลิกที่นี่ได้เลยจ้า <<

ย้ำอีกที ไม่อยากให้พลาดความสนุก และของรางวัล รีบเข้ามาจอย Private League ด้วยโค้ด >> t0rphf

ขอให้ Gameweek แรก คะแนนทุกคนเข้าเป้าคร้าบ! แล้วเจอกันสัปดาห์หน้า!

Picture : Metro, Fantasy Premier League, Fantasy Football Geek, 90Min, Rousing the KOP, Noticias ao Minuto, Sky Sports, Bleacher Report, Trendolizer, Diario AS, Newsweek, Premier League, The National, ITV, Goal.com, The Anfield Wrap, Ghana Soccernet, Planet Football