เพิ่มอรรถรสการรับชม! หาหนังดูตามผู้กำกับดูซิ! - The Macho
 
Roral Enfield - Hunter 350
728x150 - Nissan Almera
728x150 - Hunter4
เพิ่มอรรถรสการรับชม! หาหนังดูตามผู้กำกับดูซิ!

แน่นอนครับว่าหลายคนที่ชื่นชอบการดูหนัง ไม่ว่าจะในโรงภาพยนตร์ หรือดูที่บ้าน มักจะเลือกหนังตามแนวทางที่ตัวเองอยากดู อย่างบางคนชอบแฟนตาซีก็ชอบหนังที่มีเรื่องราวเหนือจริง น่าตื่นตาตื่นใจ คนที่ชอบความระทึกตื่นเต้น ก็ชอบเน้นดูหนังระทึกขวัญ​หรือสยองขวัญ สายบู๊ก็จะดูหนังเน้นเอามันเข้าว่า ระเบิดภูเขาเผากระท่อมนี่ยิ่งเข้าทาง

ซึ่งหากเราจะมาแนะนำให้ดูหนังตามแนวหนัง ก็ดูจะไม่ดึงดูดให้เพิ่มอรรถรสในการเลือกชมหนังนัก วันนี้ The Macho เลยอยากเสนอทางเลือกใหม่ในการกลับไปย้อนดูหนังของคุณ ด้วยการเลือกดูหนังตามผลงานของผู้กำกับกัน เพราะการที่เราได้ลองดูหนังของผู้กำกับที่มีแนวทางของตัวเอง ต่อกันสัก 2-3 เรื่อง มันจะสร้างบรรยากาศภาพรวมในการชมที่น่าสนใจ ด้วยลายเซ็นที่ผู้กำกับแต่ละคนใส่ลงในงานของเขา ลองดูแล้วจะติดใจ!

และเพื่อให้คุณมีไอเดียในการเลือกผู้กำกับที่น่าสนใจ วันนี้เรามีช้อยส์มาแนะนำให้เลือกกันด้วย

บาซ เลอร์มันน์ : เนี้ยบเป๊ะ อลังการ

เริ่มกันด้วยความเนี้ยบในงานโปรดักชั่น และความอลังการที่ยิ่งใหญ่ แต่ใส่ใจในรายละเอียดกับ “บาซ เลอร์มันน์” ผู้กำกับออสเตรเลีย ที่จะทำให้คุณหลุดเข้าไปอยู่ในโลกของแต่ละเรื่องแบบต้องมนต์สะกด หนังของเลอร์มันน์ไม่ได้มีความแฟนตาซีตระการตาเสมอไป แต่เขาเน้นที่ความสง่างามขององค์ประกอบที่ใส่ลงไปในฉาก จนสร้างความติดตรึงใจ เหมือนเราไม่เคยเห็นภาพแบบนั้นมาก่อน

แนะนำสัก 3 เรื่อง : อยากให้เริ่มด้วย “Strictly Ballroom” หนังเรื่องแรกของเขา ที่แม้จะยังไม่หวือหวาแฟนตาซี แต่ร้อยเรียงการเต้นบอลรูมที่เขาถนัด ออกมาเป็นหนังที่สวยงามน่าจำ ต่อด้วยหนังอีก 2 เรื่องที่ไม่ว่ากี่ยุคกี่สมัยก็ไม่เคยเก่า หรือล้าสมัยอย่าง “Romeo + Juliet” และ “Moulin Rouge!” เพราะนอกจากงานภาพจะงดงามแล้ว เรื่องของเพลงก็ยังมีเสน่ห์น่าจดจำด้วย

ทิม เบอร์ตัน : แฟนตาซีสีหม่น

แม้ผลงานเรื่องหลังๆ ของเบอร์ตัน จะไม่ค่อยเป็นที่น่าอภิรมย์เท่าไหร่ แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่างานเก่าๆ ของเขา แสดงตัวตนชัดเจน และทำให้เราหลงใหลอยากดูหนังของเขาอยู่เสมอ ความแฟนตาซีในไอเดียของเบอร์ตันไม่เคยเหมือนใคร และมักจะเจือปนความหม่นในอารมณ์ ซึ่งมันทำให้ผู้ชมรู้สึกปนเประหว่างจินตนาการ และเรื่องจริง

แนะนำสัก 3 เรื่อง : “Big Fish” คือหนังที่ยอดเยี่ยมมากของเบอร์ตัน ทั้งในแง่การฟุ้งกระจายของไอเดีย สอดคล้องกับเรื่องราวของครอบครัว ซึ่งรับรองว่าจะทิ้งความประทับใจให้คุณได้อย่างเต็มที่เมื่อดูจบ ก่อนจะเพิ่มความแปลกมีสีสันเพิ่มเติมกับ “Beetlejuice” หนังสร้างชื่อของเขา อีกเรื่องเอาเป็น “Corpse Bride” ที่ถึงแม้จะเป็นอนิเมชั่น แต่แสดงตัวตนของเบอร์ตันได้ชัดเจนไม่แพ้เรื่องอื่น

หว่อง กา ไว : ความเหงาท่ามกลางองค์ประกอบศิลป์

ถ้าพูดถึงเรื่องสไตล์แล้ว ชื่อของ “หว่อง กา ไว” ย่อมถูกนึกถึงในอันดับต้นเสมอ เพราะหนังของเขามีลายเซ็นชัดเจน ความเหงาที่ดูเป็นตะวันออก แต่มีกลิ่นไอตะวันตกแบบไม่ขัดแย้ง มันทำให้เราไม่เคยลืมทุกสิ่งทุกอย่างในหนัง ที่ดูจะเคลื่อนที่ช้า และมีจังหวะจะโคนแตกต่างจากหนังของคนอื่นเสมอ

แนะนำสัก 3 เรื่อง : “My Blueberry Nights” อาจเป็นการโกอินเตอร์ กำกับหนังแบบฝรั่งที่ไม่ค่อยเป็นที่จดจำนัก แต่เราคิดว่ามันมีเสน่ห์เหลือล้นที่เขาทำหนังฝรั่งให้มีกลิ่นไอตัวเขาชัดเจน และพิสูจน์ได้ว่าที่เขาทำมาก่อนหน้า มันคือลายเซ็นของเขาที่แข็งแกร่งจริงๆ เมื่อเจอหนังที่เข้าถึงง่ายไปแล้ว อยากให้ย้อนไปดู “Chungking Express” หนังที่เป็นที่จดจำมากที่สุดของเขา ว่าท่วงท่าของฉาก และตัวละครในแบบหว่อง มันเด็ดขาดแค่ไหน ก่อนจะปิดท้ายด้วย “In the Mood for Love” โรแมนติกแบบหว่อง ที่สร้างสรรค์มาเป็นงานศิลปะที่ต้องดูก่อนตายให้ได้!

เควนติน ตารันติโน่ : เลือดกระฉูด อะดรีนาลินก็ด้วย!

ขึ้นชื่อเควนตินแล้ว แน่นอนว่าทุกคนจะคิดถึงหนัง 18+ ซึ่งไม่เกรงใจเอฟเฟคต์เลือดกระฉูดเลย แต่นอกเหนือจากความดิบที่ว่าไป หนังของเควนตินยังเต็มไปด้วยลายเซ็นที่ถ่ายทอดผ่านเนื้อเรื่อง และตัวละคร ที่ไม่มีใครเลียนแบบได้ ยิ่งฉากการเฉือนคมด้วยคำพูด หรือโมเมนท์การเข่นฆ่า นั้นยังโดดเด่น เพราะมันทำให้อะดรีนาลีนคุณพุ่งกระฉูดด้วยทั้งสิ่งที่เห็นด้วยตา และสิ่งที่รู้สึกด้วยใจ

Mandatory Credit: Photo by c.Miramax/Everett / Rex Features ‘PULP FICTION’, Uma Thurman – 1994 ‘PULP FICTION’ FILM – 1994 No Merchandising. Editorial Use Only STILL STILLS 563502b

แนะนำสัก 3 เรื่อง : อยากจะย้อนให้ไปดูหนังเก่าๆ ของเควนตินสักหน่อย แน่นอนว่าเรื่องที่สร้างชื่อของเขาคือ “Pulp Fiction” ที่แพรวพราว และมีลายเซ็นเฉพาะตัวชัดเจน อีกเรื่องเก่ากว่าอีก แต่อยากให้ชมคือ “Reservoir Dogs” ที่เท่ห์มาก! ก่อนจะปิดท้ายด้วยหนังที่ดูกี่ทีก็ไม่เบื่ออย่าง “Inglourious Basterds” รับรองบันเทิง!

ริชาร์ด ลิงค์เลเธอร์ : ค้นหามนุษย์ด้วยบทสนทนา

ผู้กำกับที่มีแนวทางเฉพาะตัวอีกคน ที่ชอบสื่อสารให้เราค่อยๆ อินกับตัวละครผ่านสิ่งที่เกิดตรงหน้า ไม้เด็ดสำคัญที่ลิงค์เลเธอร์ไม่เคยทำให้ผิดหวังคือบทสนทนา เพราะนอกจากมันจะมีความลื่นไหลเป็นธรรมชาติ มันยังสื่อความหมายของแต่ละตัวละครออกมาให้เราได้รับรู้แบบไม่ทันรู้ตัวอีกด้วย

SCHOOL OF ROCK, Joey Gaydos Jr., Kevin Clark, Jack Black, Rebecca Brown, 2003, (c) Paramount/courtesy Everett Collection film still

แนะนำสัก 3 เรื่อง : แน่นอนว่าหนังที่ขึ้นชื่อของเขาคือไตรภาค “Before Sunrise/Sunset/Midnight” แต่ถ้าคุณอยากจะทำความรู้จักกับผลงานของเขา ขอแนะนำหนังดูสนุกย่อยง่ายกว่าอย่าง “Everybody Wants Some!!” กับ “School of Rock” ที่บันเทิงมากๆ แล้วค่อยย้อนไปดูไตรภาค Before เพื่อเติบโต และเพลิดเพลินไปกับบทสนทนาชั้นเยี่ยมในสไตล์ของเขาทีหลัง

คริสโตเฟอร์ โนแลน : สนุกคิด บันเทิงไอเดีย

ไอเดีย กับเรื่องราวที่เขาหยิบมาทำหนังนั้นเป็นที่ยอมรับว่ามันเหนือชั้น และสามารถถ่ายทอดลายเซ็นของเขาออกมาได้หมดจดเสมอ จึงไม่แปลกที่เขาจะทำหนังเฉพาะที่ถูกแต่งขึ้นมาใหม่ในแบบเขา พึ่งจะมี Dunkirk เรื่องล่าสุดเท่านั้น ที่สร้างจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง งานด้านภาพเป็นอีกส่วนที่โนแลนชื่นชอบจะถ่ายทอดพลังแห่งเทคโนโลยีกล้อง เพื่อให้ได้ภาพที่ล้ำหน้ากว่าคนอื่น

แนะนำสัก 3 เรื่อง : “Memento” คือหนังร้อยเรียงความคิดที่ทำให้เราเห็นไอเดียของโนแลน ว่าสไตล์ที่เขาเติบโตมาเป็นอย่างไร ต่อด้วย “The Dark Knight” ที่เขาเปลี่ยนหนังฮีโร่ให้กลายเป็นมาสเตอร์พีซที่ยากจะทำได้เหมือน ปิดท้ายด้วยเรื่องที่ดูสนุก เข้มข้น และเล่นกับไอเดียอย่าง “The Prestige” ที่ดูซ้ำได้ไม่มีเบื่อ

มาร์ติน สกอร์เซซี่ : เข้มข้น เก๋าเกม บีบคั้น

ผู้กำกับมากประสบการณ์ที่ไม่เคยตกยุคเลยไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี สกอร์เซซี่เป็นปรมาจารย์ที่ทำหนังออกมาหลากหลายอารมณ์ แต่สิ่งที่ไม่เคยหายไปจากงานของเขาเลยคือความเข้มข้นที่เขารู้ว่าจะใส่มากน้อยแค่ไหน เราเลยรักทั้งหนังแก๊งสเตอร์ที่เข้มข้น หนังดราม่าที่บีบคั้นตัวตนของตัวละคร หรือความแสบสันต์ในโทนหนัง ที่มาจากประสบการณ์เก๋าเกมของเขา

แนะนำสัก 3 เรื่อง : ในยุคหลังมี “The Departed” ที่ชนะหนังยอดเยี่ยมออสการ์ แต่เราอยากแนะนำให้ลองไปหา “Goodfellas” หนังแก๊งสเตอร์เมื่อปี 1990 มาดูกัน สนุกมากเลยเชียว อยากโฟกัสตัวละครก็แนะนำเป็น “Shutter Island” ที่เข้มข้นดี ปิดท้ายด้วย “Gangs of New York” ละกัน เพราะครบรส และต้องเก๋าเกมเท่านั้นถึงเอานักแสดงต่างๆ มาจัดวางได้ลงตัวขนาดนี้

ทอม ฮูเปอร์ : งานพีเรียดละเมียดละไม

แม้ผลงานหนังยาวของฮูเปอร์จะไม่ค่อยมีให้ได้เลือกชมมากนัก (ทำซีรีส์ซะเยอะ) แต่ความพิถีพิถันของเขาชัดเจน และงดงาม เกินกว่าเราจะมองข้ามชื่อเขาไปได้ หนังยาวของเขาล้วนแล้วแต่เป็นพีเรียด หรือเล่าเรื่องราวย้อนยุค แต่มันไม่เคยน่าเบื่อสักนิด ด้วยจังหวะการเล่าเรื่องที่สนุก และความละเมียดละไมที่ดึงดูดให้เราเพลิดเพลินทุกทีไป

แนะนำสัก 3 เรื่อง : “The King’s Speech” สนุกมากในการบอกเล่าเรื่องราวเกร็ดประวัติให้สื่อสารออกมาเป็นเรื่องน่าติดตามร่วมไปกับตัวละคร “Les Misérables” หนังมิวสิคัลที่ละเอียดทุกอณู ยอดเยี่ยม ครบรส ปิดท้ายด้วยการสัมผัสความพิถีพิถันใน “The Danish Girl” ที่แม้จะไม่ได้รับคำชมมากเท่าสองเรื่องแรก แต่มันยังคงถ่ายทอดลายเซ็นของเขาได้อย่างลงตัว

Text – Rocketseer

Picture – Time Magazine, Golden Globes , Hollywood Reporter, Clios, National Film and Sound Archive, MagiQuiz, Hanoi Grapevine, Tiny Couch Review, South China Morning Post, Meridian Knowledge Solutions, Sky.com, BFI, Bustle, Forbes, Letterboxd, SBS, Geek Media, Variety, Collider

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save