10 แข้งบิ๊กเนมที่เกือบได้มาโชว์ฝีเท้าในพรีเมียร์ลีก - The Macho
 
Roral Enfield - Hunter 350
728x150 - Nissan Almera
728x150 - Hunter4
10 แข้งบิ๊กเนมที่เกือบได้มาโชว์ฝีเท้าในพรีเมียร์ลีก

นักเตะชื่อดังหลายคนในสมัยที่ยังเป็นดาวรุ่งนั้น พวกเขาเกือบได้มีโอกาสย้ายมาโชว์ฝีเท้าให้แฟนบอลเมืองผู้ดีได้ชมกัน แต่แล้วมีเหตุผลบางอย่างไม่ว่าจะเป็นเรื่องค่าตัว, การตัดสินใจขั้นสุดท้ายในการย้ายทีม รวมถึงกุนซือตัดสินใจไม่เซ็นสัญญาในท้ายที่สุด

หากเอ่ยชื่อพวกเขาออกไป เชื่อได้ว่า สาวกสโมสรฟุตบอลพรีเมียร์ลีกบางทีม คงรู้สึกเสียดายไม่น้อยที่ไม่ได้ตัวนักเตะเหล่านี้เข้ามาเล่นให้กับต้นสังกัด แต่เมื่อมองย้อนกลับไปก็น่าคิดว่า หากการย้ายทีมสำเร็จ ผู้เล่นที่อยู่ในลิสต์ทั้ง 10 ราย จะโด่งดังเหมือนทุกวันนี้หรือไม่ 

10. โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด)

ย้อนกลับไปในปี 2011 นิวคาสเซิล มองว่า พวกเขาพร้อมที่จะเซ็นสัญญากับ ซาลาห์ ในวัย 18 ปี ด้วยการยืมตัว หลังจากปีกทีมชาติอิยิปต์  โชว์ฟอร์มได้ประทับใจแมวมอง “สาลิกาดง” ในขณะที่เขาเล่นให้กับ เอล โมคารูน ในลีกบ้านเกิด

แต่ข้อตกลงนั้น มีอันต้องพังทลายลงเนื่องจาก นิวคาสเซิล ไม่พร้อมจ่ายค่ายืมตัวจำนวน  500,000 ปอนด์ จากนั้น ซาลาห์ จึงย้ายไปเล่นกับ บาเซิล ในสวิตเซอร์แลนด์ ในปีต่อมา และปัจจุบันเขาเป็นกำลังหลักในแนวรุกของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล

9.โรแบร์โต้ คาร์ลอส (แอสตัน วิลล่า)  

คาร์ลอส ได้รับความสนใจจาก ดั๊ก เอลลิส อดีตประธานสโมสร แอสตัน วิลล่า เป็นอย่างมากในระห่างที่เขาลงรับใช้ทีมชาติบราซิล ทำศึกกับ สวีเดน ที่สนามวิลล่า พาร์ค ในปี 1995 ซึ่งทาง “สิงห์ผยอง” ได้มีการติดต่อกับ พัลไมรัส อดีตต้นสังกัดเก่าของ แบ็คซ้ายเท้าหนัก ในเวลานั้นแล้วด้วย

แต่ ไบรอัน ลิตเติล อดีตผู้จัดการทีม วิลล่า ในตอนนั้น ไม่สนใจที่จะเซ็นสัญญากับ คาร์ลอส และเลือกที่จะคว้าตัว กาเร็ธ เซาท์เกต กองหลังทีมชาติอังกฤษ จาก คริสตัล พาเลซ ไปร่วมทีมแทน

 ในท้ายที่สุด คาร์ลอส ย้ายไปเล่นกับ อินเตอร์ มิลาน ภายใต้การคุมทีมของ รอย ฮอดจ์สัน กุนซือชาวอังกฤษ ก่อนที่เขาจะไปเป็นตำนานอันโด่งดังของ เรอัล มาดริด ในเวลาต่อมา

8.โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส)

ในปี 2010 แซม อัลลาไดซ์ ผู้จัดการทีม แบล็กเบิร์น ยื่นข้อเสนอจำนวน 4.2 ล้านปอนด์ เป็นค่าตัวของ เลวานดอฟสกี้ ให้กับ เลช พอซนาน พิจารณา ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวได้รับการยอมรับเรียบร้อยแล้ว

 อย่างไรก็ตาม มีปัญหาสุดวิสัยเกิดขึ้น หัวหอกทีมชาติโปแลนด์ ไม่สามารถนั่งเครื่องบินไปประเทศอังกฤษได้ เนื่องจากมีปัญหาเถ้าภูเขาไฟปกคลุมท้องฟ้า ทำให้เขาเปลี่ยนไปเซ็นสัญญากับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ แทน ก่อนจะคว้าแชมป์บุนเดสลีกา 2 สมัย ร่วมกับ “เสือเหลือง”

7.อังเดร เชฟเชนโก้ (เวสต์แฮม ยูไนเต็ด)

แฮร์รี เร็ดแนปป์ อดีตกุนซือ เวสต์แฮม อ้างว่า เขาเกือบคว้าตัว เชฟเชนโก้ ไปร่วมทีมได้ด้วยค่าตัวเพียง 1 ล้านปอนด์เท่านั้น ในช่วงปลายปี 1990 โดยระบุว่า “เราได้รับการทาบทามจากนักธุรกิจในยูเครนให้ไปดูเด็กของพวกเขาเล่นฟุตบอล และเราก็ไปดูเด็กสองคนนั้น”

“หนึ่งในสองคนนั้น กำลังลงสนามเจอกับ ทีมสำรองของ บาร์เน็ต และยิงประตูชัยได้ด้วย พวกเขาบอกเราว่า ต้องการเงิน 1 ล้านปอนด์ เป็นค่าตัวของเขา แต่ผมคิดว่า มันแพงเกินไป เราจึงปล่อยเขาไป เด็กคนนั้นชื่อ อังเดร เชฟเชนโก้”

ในระหว่างปี 2006–2009  “เชว่า” มีโอกาสมาโชว์ฝีเท้ากับ เชลซี เป็นเวลา 3 ซีซั่น แต่เขาไม่ประสบความสำเร็จในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ มากนัก

6. กาเบรียล บาติสตูต้า (อิปสวิช ทาวน์)

ในช่วงต้นของฤดูกาล 1994/95 อิปสวิช ได้ปรากฏตัวบนลีกสูงสุดเมืองผู้ดีในฐานะทีมที่มีฟอร์มการเล่นสุดเซอร์ไพรส์ พวกเขาตกเป็นข่าวว่า กำลังจะเซ็นสัญญากับ บาติสตูต้า ในราคา 2.9 ล้านปอนด์ โดยมีรายงานว่า หัวหอกอาร์เจนตินา ไม่มีความสุขกับ ฟิออเรนติน่า

“ม้าขาว” มีการติดต่ออย่างใกล้ชิดกับเอเย่นต์ของ บาติสตูต้า แต่ข้อตกลงมีอันต้องชะงัก เมื่อ ฟิออเรนติน่า เสนอสัญญาฉบับปรับปรุงใหม่ให้กับ “บาติโกล์” จนพอใจ เขาจึงตัดสินใจอยู่กับพลพรรค “ม่วงมหากาฬ” ต่อไป

5.เอดิสัน คาวานี่ (เวสต์แฮม ยูไนเต็ด)

เวสต์แฮม ติดตามฟอร์มการเล่นของ คาวานี่ อย่างใกล้ชิดในช่วงเวลาที่เขายังค้าแข้งอยู่กับ ปาแลร์โม และดูเหมือนว่า ดีลกำลังจะเกิดขึ้น หลังจากที่ สเตฟาโน่ โคลันตูโอโน่ อดีตโค้ช “อินทรีชมพูดำ” เปิดเผยว่า กองหน้าชาวอุรุกวัย กระตือรือร้นที่จะย้ายไปยังถิ่น อัพตัน พาร์ค ในปี 2008 เพื่อลองผจญภัยในพรีเมียร์ลีก

แต่ เวสต์แฮม ถอยหลังกลับในช่วงท้ายของการตัดสินใจ เมื่อไม่ยอมจ่ายค่าตัว คาวานี่ จำนวน 17 ล้านปอนด์ ให้กับ ปาแลร์โม ซึ่ง ศูนย์หน้าทัพ “จอมโหด” ก็ย้ายไปเล่นกับ นาโปลี ในอีก 2 ปีต่อมา

4.ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา (พอร์ทสมัธ)

แฮร์รี เร็ดแนปป์ สมัยคุมทีม พอร์ทสมัธ เขาเคยลงทุนบินไปดูฟอร์มของ ดร็อกบา ช่วงที่ยังค้าแข้งกับ เก็งก็อง ในฝรั่งเศส และหัวหอกชาวไอโวรี่ โคสต์ ก็ไม่ทำให้เขาเสียเที่ยว หลังจากยิงคนเดียว 2 ประตูในเกมกับ โอลิมปิก ลียง

แต่ด้วยเงินทุนที่มีจำกัดของ พอร์ทสมัธ ทำให้ เร็ดแนปป์ ตัดสินใจไม่จ่ายเงิน 3.5 ล้านปอนด์ เพื่อเป็นค่าตัวของ ดร็อกบา และหันไปคว้า เท็ดดี้ เชอร์ริงแฮม กองหน้าชาวอังกฤษ ไปร่วมทีมแบบฟรีๆแทน    

อย่างไรก็ตาม ดร็อกบา ได้ย้ายมาเล่นในอังกฤษ กับ เชลซี ในยุคของ โจเซ่ มูรินโญ่ โค้ชชาวโปรตุเกส และเขาได้กลายเป็นตำนานของ “สิงโตน้ำเงินคราม” ไปเรียบร้อยแล้ว

3.ราดาเมล ฟัลเกา (แอสตัน วิลล่า)

ในปี 2008 มาร์ติน โอนีล ผู้จัดการทีมของ แอสตัน วิลล่า มีโอกาสเซ็นสัญญากับกองหน้าดาวรุ่งชาวโคลอมเบีย ซึ่งกำลังทำผลงานได้อย่างสุดยอดกับ ริเวอร์ เพลท ในลีกอาร์เจนตินา

ฟัลเกา ในเวลานั้น มีค่าตัวเพียงแค่ 5 ล้านปอนด์เท่านั้น แต่ โอนีล เลือกที่จะซื้อ เอมิล เฮสกีย์ กองหน้าชาวอังกฤษ ของ วีแกน ไปล่าตาข่ายแทน

ในท้ายที่สุด ฟัลเกา มีโอกาสมาเล่นในเมืองผู้ดีเป็นระยะเวลาสั้นๆกับ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ เชลซี แต่ไม่ประสบวามสำเร็จเท่าที่ควร

2. ซีเนอดีน ซีดาน (แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส)

แจ็ค วอล์คเกอร์ ประธานสโมสร แบล็คเบิร์น ทุ่มเงินมหาศาลพลพรรค “กุหลาบไฟ” ประสบความสำเร็จด้วยการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในปี 1995 ได้อย่างยิ่งใหญ่ แต่การตัดสินใจของเขาบางครั้งก็ไม่ได้ถูกต้องเสมอไป

เคนนี่ ดัลดลิช กุนซือ แบล็กเบิร์น ในเวลานั้น แนะนำให้ วอล์คเกอร์ เซ็นสัญญากับ จอมทัพดาวรุ่งชาวฝรั่งเศสจาก บอร์กโดซ์ ซึ่งมีชื่อว่า ซีเนอดีน ซีดาน เพื่อเข้ามาสร้างสรรค์เกมรุกให้กับทีมในช่วงซัมเมอร์ปีดังกล่าว 

อย่างไรก็ตาม วอล์คเกอร์ ตอบกลับไปว่า “ทำไมคุณต้องการเซ็นสัญญากับ ซีดาน เมื่อเรามี ทิม เขอร์วู้ด อยู่ในทีมแล้ว”

1.ลูก้า โมดริช (นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด)

เมื่อเกือบ 10 ปีที่แล้ว เควิน คีแกน หวนกลับมาคุมทีม นิวคาสเซิล อีกครั้ง เขาได้รับโทรศัพท์จากเอเย่นต์ของ โมดริช ซึ่งมีความกระตือรือร้นที่จะสำรวจความเป็นไปได้ในการส่งตัว อดีตดาวเตะ ดินาโม ซาเกร็บ ไปยังถิ่น เซนต์ เจมส์ พาร์ค

แต่ความหวังของ “คิงเคฟ” ที่จะเซ็นสัญญากับ โมดริดช ด้วยค่าตัวประมาณ 5 ล้านปอนด์ ก็พังทลายลงไป เนื่องจาก โทนี ฆิมิเนซ อดีตรองประธานฝ่ายจัดหานักเตะของ นิวคาสเซิล ระบุว่า กองกลางทีมชาติโครเอเชีย มีน้ำหนักตัวน้อยเกินไป

        แต่ในปี 2008 โมดริช ได้ย้ายมาค้าแข้งในอังกฤษตามที่เขาปรารถนา โดยมาเล่นกับ ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ ก่อนจะย้ายไปโด่งดัง และคว้ารางวัลบัลลงดอร์ร่วมกับ เรอัล มาดริด อย่างยิ่งใหญ่

ภาพประกอบ : sportytell.com, espn.com,sportskeeda.com, lanacion.com, palermocalcio.it, marca.com, tevosport.wordpress.com, uefa.com, fourfourtwo.com

Che Navapun

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save