เชื่อว่าแฟนรถทุกคนต่างก็ตั้งหน้าตั้งตารอคอยงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2018 ที่กำลังจะจัดขึ้นในวันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคมนี้กันอยู่แน่ๆ แต่ก่อนจะถึงช่วงเวลานั้นเรามีภาพบรรยากาศจากงาน Paris Motor Show 2018 ที่พึ่งจะผ่านไปสดๆร้อนๆ มาให้แฟนรถสัญชาติยุโรปชมเรียกน้ำย่อยกันไปพรางๆก่อนจะถึงงานจริง
งานจัดแสดงรถยนต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของภูมิภาคยุโรปนั้นถือว่าเป็นงานแรกในโลกเลยที่เราจะได้เห็นรถยนต์แบรนด์ดังทั้งหลายเปิดตัวรถรุ่นใหม่ล่าสุด โดยสองประเทศผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่อย่างเยอรมันและฝรั่งเศลจะสลับกันจัดขึ้นเป็นประจำทุกๆปี
ซึ่งภายในงานก็มีการเปิดตัวรถยนต์รุ่นดังที่แฟนๆต่างรอคอยอย่างมากมาย แต่เราจะของขอพูดถึงสามรุ่นจากสามแบรนด์ดังไฮไลท์ของงานอย่าง All-New 2019 BMW 3-Series (G20) , Mercedes-AMG A35 4MATIC 2019 และ Audi A1 Sportback 2019 มาลองดูกันว่าแต่ละรุ่นมีสเปคอะไรน่าสนใจกันบ้าง
1. All-New 2019 BMW 3-Series (G20)
รุ่นนี้คือปล่อยภาพหลุดออกมาแค่นิดเดียวจริงๆ แล้วไปเผยสเปคเต็มๆ ในงาน เรียกได้ว่าน่าจะเป็นตระกูลที่ใครหลายคนกำลังรออยู่ซึ่งก็ไม่ทำเอาแฟนคลับผิดหวังเพราะเปิดตัวด้วยรูปลักษณ์ดีไซน์ใหม่เน้นความสปอร์ต มีระดับ ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้าแบบ LED กระจังหน้าหรือเส้นลายตัวถัง พร้อมขนาดที่ใหญ่ขึ้นทั้งตัวรถและห้องโดยสาร
เครื่องยนต์มีให้เลือกด้วยกัน 3 แบบ ได้แก่ รุ่น 320d เป็นเครื่องยนต์ดีเซลแบบ TwinPower Turbo ความจุ 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลา 6.8 วินาที และ 7.1 วินาทีในรุ่นเกียร์ธรรมดา
รุ่น 330i เครื่องยนต์เบนซินแบบ TwinPower Turbo ความจุ 2.0 ลิตรเช่นกัน ให้กำลังสูงสุด 258 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลา 5.8 วินาที และรุ่น 330d เครื่องยนต์ 6 สูบขนาด 3.0 ลิตรให้กำลังสูงสุด 263 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 580 นิวตันเมตร ติดตั้งระบบความปลอดภัยรอบด้านด้วยระบบ Active Guard Plus ให้กับทุกรุ่น
ภายในห้องโดยสารยังมาพร้อมกับอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะเป็นมาตรวัดความเร็วหน้าจอขนาด 12.3 นิ้ว หน้าจออินโฟเทนเม้นท์ขนาด 10.25 นิ้ว ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ iDrive 7.0 เวอร์ชั่นล่าสุด และทีเด็ดสุดๆของรุ่นนี้ คือ Intelligent Personal Assistant ผู้ช่วยให้การขับขี่สะดวกสบายมากกว่าเดิม
ซึ่งระบบดังกล่าวสามารถจดจำนิสัยและพฤติกรรมของผู้ขับที่ทำเป็นประจำแล้วปรับเปลี่ยนให้เองตามอัตโนมัติ เช่น หากขับบนทางด่วนระบบจะปิดใช้งานระบบ stop/start และลดกระจกของคนขับลงโดยอัตโนมัติตอนจ่ายค่าผ่านทาง รวมถึงสามารถสอบถามสถานะความผิดปกติของตัวรถ หรือถ้าพูดว่า ““I’m tired” ระบบจะลดอุณหภูมิของห้องโดยสารลงพร้อมเริ่มเปิดเพลงจังหวะสนุกให้ทันที
ซึ่งจะเปิดจำหน่ายในยุโรปช่วงมีนาคม 2019 ทั้งรุ่น SE, Sport และ M Sport โดยราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 33,610 ปอนด์สำหรับระดับเครื่องยนต์ 320d
2.Mercedes-Benz GLE 2019
จัดว่าเป็นรถคู่แข่ง BMW X5 และ Audi Q7 มาตั้งแต่ปล่อยตัวอย่างออกมา ดีไซน์ภายนอกปรับใหม่หมดโดยใช้ไฟหน้าแบบ LED พร้อม Daytime Running Light แบบคู่ ส่วนไฟท้ายเน้นความเรียวเล็กมากขึ้น
รุ่นแรกที่จะจำหน่ายได้แก่ GLE 450 4MATIC ซึ่งมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบชาร์จ 6 สูบ พร้อมระบบไมลด์ไฮบริด EQ Boost ให้กำลังสูงสุด 367 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร โดยระบบ EQ Boost จะสามารถเพิ่มกำลังได้อีก 22 แรงม้า และ 250 นิวตันเมตร เป็นระยะเวลาสั้นๆ หากจำเป็น และถูกติดตั้งระบบส่งกำลังผ่านเกียร์แบบอัตโนมัติ 9G-TRONIC
พร้อมระบบคลัทช์แบบมัลติดิสก์ช่วยให้กระจายแรงบิดไปยังล้อได้เหมาะสม แถมขับขี่ไร้กังวลด้วยชุดรักษาความปลอดภัยอันชาญฉลาด อย่างระบบ Active Distance Assist DISTRONIC ซอฟแวร์จะสามารถสร้างและแจ้งเตือนรถให้ทราบถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ และระบบอื่นอีกมากมายอย่าง Active Brake Assist , Active Stop-and-Go Assist, Active Steering Assist, Active Distance Assist เป็นต้น
ภายในห้องโดยสารถูกออกแบบให้กว้างขว้างและเรียบหรูมากขึ้น โดยมีพื้นที่วางขาสำหรับผู้โดยสารแถวที่ 2 เพิ่มขึ้นอีก 69 มิลลิเมตร และพื้นที่เหนือศีรษะเพิ่มขึ้น 33 มิลลิเมตร ห้องเก็บสัมภาระท้ายมีขนาด 825 ลิตร ซึ่งสามารถขยายเพิ่มเป็น 2,055 ลิตร เมื่อพับเบาะแถวหลังลง
ส่วนบริเวณคอนโซลกลางระหว่างเบาะนั่งคู่มีการติดตั้งมือจับเข้าไป ทำงานด้วยระบบอินโฟเทนเม้นท์ MBUX ตัวใหม่ล่าสุด โดยสามารถสั่งงานผ่านแป้นควบคุมบริเวณคอนโซลกลางหรือสั่งงานด้วยคำพูดได้ คาดว่าราคาน่าจะอยู่ประมาณ 54,000 ปอนด์
3. Audi A1 Sportback 2019
รถยนต์ไซต์เล็ก A1 รุ่นใหม่ล่าสุดได้ออกแบบให้มีรูปลักษณ์ ดูสปอร์ต ดุดันกว่าเดิม โดยปรับดีไซน์ของไฟและกระจังหน้าใหม่ให้โฉบเฉี่ยวมากกว่ารุ่นก่อนซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถยนต์รุ่น Sport Quattro ปี 1984
ในรุ่นนี้ออกแบบให้เพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังที่สามารถจุได้ถึง 335 ลิตร ยิ่งถ้าพับเบาะหลังลงจะขนของได้ราวๆ 1,090 ลิตรเลยทีเดียว ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน ซึ่งมีทั้งขนาด 1.0 ลิตรสามสูบ 1.5 และ 2.0 ลิตรสี่สูบ โดยให้กำลังตั้งแต่ 93 แรงม้าถึง 197 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบคลัทช์คู่ 7 จังหวะ และเกียร์ธรรมดา
มาพร้อมกับระบบความปลอดภัยมาตรฐานของ Audi A1 2018 อย่าง ระบบป้องกันรถออกนอกเลนโดยไม่ตั้งใจ, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันตามคันหน้า เป็นต้น
ภายในห้องโดยสารยกเครื่องใหม่ให้ดูพรีเมี่ยม หรูหรา มาพร้อมหน้าจอมาตราวัดขนาด 10.25 นิ้ว และสามารถเลือกติดตั้งอ็อพชั่นเสริมเป็นหน้าจออินโฟเทนเม้นท์ MMI ขนาด 8.8 นิ้ว และระบบนำทางของ Audi ที่สามารถดึงข้อมูลสภาพจราจรสดจากสื่อสังคมออนไลน์และ Google Earth เข้ากับการตั้งค่าได้
ใครที่อยากสนุกกับการแต่งรถก็สามารถเลือกรุ่น S Line ที่เพิ่มความสปอร์ตและใส่ความเป็นตัวเองให้เขากับรถด้วยของตกแต่งมากมายไม่ว่าจะเป็นช่องดักลมขนาด สเกิร์ตข้าง สปอยเลอร์หลัง หรือตัวถังที่มีให้เลือกทั้งหมดถึง 11 สี เลย ส่วนราคาคาดว่าประมาณ 15,500 ปอนด์