มาพูดถึงเรื่องสิงห์ความเร็วกันซักหน่อย กับ BigBike มอเตอร์ไซต์ยอดนิยม ที่มีขนาดกำลังเครื่องยนต์มาก แต่มีความคล่องตัวในการขับขี่สูง และในปัจจุบันก็ยังได้รับความนิยมจากสมาคมนักบิดทั่วโลก  อีกทั้งยังสามารถใช้ขับขี่เดินทางไกล และมีความอึดเทียบเคียงกับรถยนต์ขนาดเล็กได้เลยทีเดียว และในช่วงท้ายปีแบบนี้

แน่นอนแหละว่าทุกแบรนด์ก็ต้องมีการส่งรถรุ่นใหม่ๆออกสู่ตลาด เพื่อกระตุ้นรายได้ในโค้งสุดท้ายของปี ดังนั้นวันนี้เราจะพาทุกคนมาดูกันว่า 5 รุ่นรถ BigBike ในช่วงนี้จะมีรุ่นไหนบ้างที่เป็นไฮไลท์เด็ดๆ เอาเป็นว่าเตรียมใจให้พร้อม กอดกระเป๋าตังค์ให้แน่นๆ แล้วไปชมพร้อมกันเลย!

1. YAMAHA YZF-R3 2019

เริ่มกันที่แบรนด์ยามาฮ่ากับ YAMAHA YZF-R3 รถบิ๊กไบค์หนึ่งในรุ่นดังของค่าย Yamaha YZF-R3 2019 โดยทาง อินโดนีเซีย และ อเมริกา โดยการกลับมาครั้งนี้ เปิดตัวมาพร้อมกับดีไซน์ใหม่ภายใต้คอนเซ็ปท์การออกแบบ “Ride the R Anytime” ที่ต้องการให้ผู้ขับขี่รู้สึกสนุกตลอดเวลาที่ควบเจ้าของอาร์ 3 บนถนน และตอบสนองต่อการขับขี่ได้ดั่งใจ จึงทำให้มีการรีบิ้วโครงสร้างและเส้นสายของตัวรถใหม่จากรุ่นปี 2017 เล็กน้อย เพื่อเพิ่มความลงตัวให้มากขึ้น

และ ยามาฮ่า วายแซดเอฟ อาร์3 เจเนอเรชั่นนี้ ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เลยก็ว่าได้ ทั้งในเรื่องของชุดแฟริ่งที่โด่ดเด่น เฉียบคม และระบบไฟได้เปลี่ยนใหม่เป็นแบบ LED รอบคันทั้งหมดจากเดิมที่ใช้เป็นฮาโลเจนในตัวโฉมเก่า R3 2019 ที่มาพร้อมแนวคิดและสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ ยังคงเน้นไปในแนวทางของการทำแอร์โรไดนามิก อีกจุดที่เปลี่ยนไป คือการเปลี่ยนโช้คด้านหน้าเป็นแบบหัวกลับ Upside Down ขนาด 37 มม. ของ KYB นั่นเอง

นอกจากนี้ทางยามาฮ่าเลือกใส่เครื่องยนต์ Bluecore 321 cc. ซึ่งขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์ 6 จังหวะ พร้อม Assist & Slipper Clutch และยังใส่ระบบไฟหน้า LED พร้อมช่องดักลมแบบซิกเนเจอร์ และระบบเบรค ABS มาให้ด้วย (ตัวเก่าจะมีรุ่นไฟฮาโลเจน) รวมทั้งมีการปรับอุปกรณ์ส่วนควบอื่นๆ อีกเล็กน้อยเพื่อเพิ่มความลงตัวของสมรรถนะตัวรถให้ดีขึ้น โดยทางอาร์ 3 ยังไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ซึ่งมีกำหนดการเปิดตัวในช่วงเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้ ก็รอดูกันเร็วๆนี้นะจ๊ะ

2. HONDA CBR 650F

อีกหนึ่งค่ายดังอย่างฮอนด้า ที่เป็นหนึ่งในแบรนด์ตลาดในไทย ในส่วนของรถมอเตอร์ไซค์เองก็ได้รับความนิยมไม่แพ้ส่วนของรถยนต์เลยทีเดียว กับจุดเด่นในการออกแบบ และเรื่องของบริการหลังการขายที่ทำได้ดี โดย Honda CBR650F เป็นหนึ่งในสามรุ่นรถบิ๊กไบค์ที่ได้รับความนิยมของค่าย ซึ่งในครั้งนี้ CBR650F ยังคงใช้เครื่องยนต์ขนาด 650 cc. ตามชื่อรุ่นเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือมีการเพิ่มพละกำลังแรงม้าขยับเป็น 89.8 แรงม้า ในขณะที่ภายนอกก็มีการปรับเปลี่ยนสีสัน และตัวเส้นสายของโครงสร้างรถใหม่ เรียกว่าสวยโฉบเฉี่ยวสะดุดตา

รวมไปถึงอุปกรณ์ใช้งานอย่างไฟหน้าที่มีการปรับเปลี่ยนมาใช้ไฟ LED ส่วนด้านระบบการควบคุมรถก็เลือกใช้โช็คหน้าของ Showa เทเลโคสปริคแบบหัวกลับ ส่วนคู่หลังเลือกใช้โมโนโช็ค ที่ทำงานร่วมกับสวิงอาร์ม และพรีโหลด คาริปเปอร์ดิส์กเบรคขนาด 240 มม. ทำให้เบรคได้นิ่งขึ้น และยังทำให้สมรรถนะรถนิ่งมากขึ้น โดย Honda เปิดตัว CBR650F รุ่นปัจจุบันอยู่ที่ 303,000 บาท และเตรียมที่จะรุ่น MY 2019 ลงสู่ตลาดในช่วงต้นปีหน้า สาวกทั้งหลายรอติดตามกันได้เลย

3. DUCATI Super Sport Red

ถัดมาที่ค่ายรถบิ๊กไบค์เรียบหรูอย่าง Ducati ที่ตอนนี้กลายเป็นรถบิ๊คไบค์ที่หลายคนหลงไหล ที่มาพร้อมกับจุดเด่นเรื่องของการออกแบบตัวโครงสร้าง และดีไซน์ให้ออกมาดูสปอร์ต แข็งแกร่ง ดุดัน และรุ่นที่แนะนำกันวันนี้ก็เป็นรุ่น Ducati Super Sport Red รถบิ๊กไบค์สายพันธ์สปอร์ตที่มาพร้อมสีตัวถังสีแดงสะดุดตา มาพร้อมเครื่องยนต์ Testastretta 11 L-Twin Cylinder 4 วาวล์ต่อลูกสูบ ให้พละกำลังสูงสุดที่ 113 แรงม้า ที่ 9,000 รอบต่อนาที แรงบิด 96.7 นิวตัน ขับเคลื่อนด้วยเกียร์ 6 สปีดแบบควิกชิป ใส่ระบบเบรค ABS และระบบป้องรถลื่นไหล Traction control  โดยเปิดจำหน่าย บิ๊กไบค์รุ่น Super Sport Red ในราคาเริ่มต้น 559,000 บาท ไงล่ะ กระเป๋าสั่นกันรึยัง

4. BMW R1200 GS (MY2018)

ต่อกันที่ค่ายใหญ่อย่าง BMW R1200GS รุ่นปรับอุปกรณ์ MY2018 รถบิ๊กไบค์สายลุย ที่หนุ่มๆนักผจญภัยไม่ควรพลาด ที่มาพร้อมกับไฮไลท์หน้าจอสี TFT ขนาด 6.5 นิ้ว ที่สามารถเชื่อมต่อผ่านแอปพลิเคชั่น BMW Motorrad Connected เพื่อแสดงผลการนำทาง, บันทึกเส้นทางขับขี่, สถิติการขับขี่ ฯลฯ ได้ทั้งบนหน้าจอสมาร์ทโฟนและหน้าจอรถ ฟังก์ชั่นทันสมัย สะดวกสบายในการใช้งานอย่างมาก

นอกจากนี้ยังมีในส่วนของหมวกกันน็อค ที่สามารถเชื่อมต่อบลูทูธได้ และยังสามารถเชื่อมต่อเข้ากับตัวแอปพลิเคชั่นเพื่อเปิดเพลงหรือรับสายโทรศัพท์ขณะขับขี่ได้ด้วย สะดวกและปลอดภัย แถมเจ้า R1200 ยังรองรับการปรับเปลี่ยนการขับขี่ของผู้ใช้ได้ถึง 6 โหมด ซึ่งแบ่งเป็นโหมดพื้นฐาน 4 โหมด คือ Rain, Road, Dynamic และ Enduro และโหมดการขับขี่โปรอีก 2 โหมดคือ Dynamic Pro และ Enduro Pro ดีไชน์ล้ำสมัย ความปลอดภัยก็ที่หนึ่ง

ทางด้านสมรรถนะตัวรถ BMW R1200 GS ก็เลือกวางเครื่องยนต์ Boxer 2 สูบ 1,170 CC. ที่ใช้ระบบระบายความร้อนด้วยอากาศและน้ำ ให้พละกำลังที่ 125 แรงม้า ที่ 7,750 รอบต่อนาที, แรงบิด 125 นิวตัน ที่ 6,500 รอบต่อนาที ทำ Top speed สูงสุดได้ที่ 220 km/h. ระบบช่วงล่างใช้งานเป็นระบบ ESA ที่สามารถปรับค่าความหนืดและค่าสปริงได้ด้วยระบบไฟฟ้า เสริมความนิ่งด้วยระบบ Dynamic Traction Control และระบบช่วยออกตัวขณะอยู่ทางลาด Hill Start Control โดยทาง BMW เปิดราคาจำหน่ายของ R1200GS รุ่น My2018 ไว้ที่ 975,000 บาท และทั้งหมดนี้สนนราคาอยู่ที่ 1,075,000 บาท อ่ะ ใครชอบก็จัดไป

5. TRIUMPH Street Twin

ปิดท้ายกันด้วยรถบิ๊กไบค์สายวินเทจอย่าง Triumph รถบิ๊กไบค์รุ่น Street Twin ที่ยังมาพร้อมดีไซน์ตัวรถแบบคลาสสิก ซึ่งมีการกลิ่นอายความวินเทจนิดๆ ด้านสมรรถนะเครื่องยนต์ ส่วนการควบคุมเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย โดยมีการปรับเครื่องยนต์ให้รีดแรงม้าได้เพิ่มขึ้นอีก 10 แรงม้า เป็น 64 แรงม้า,แรงบิด 5,900 นิวตัน ที่ 7,500 รอบต่อนาที ซึ่งมีเปลี่ยนวัสดุชิ้นส่วนประกอบของเครื่องยนต์ใหม่ โดยใช้วัสดุแม็กนีเซียมเข้ามาเป็นชิ้นส่วนหลัก ทำให้ตัวเครื่องยนต์มีน้ำหนักเบาลง และทนทานมากขึ้น รวมถึงมีการเปลี่ยนดิส์กเบรคและโช็คใหม่ที่ได้รับการปรับแต่งให้ดูนิ่มนวลมากขึ้นอีกด้วย

ในขณะที่ทางด้านของเทคโนโลยีการขับขี่ ที่ยังคงมีให้ครบทั้งในส่วนโหมดขับขี่ทั้งบนถนนแห้ง และถนนเปียก, ระบบเบรก ABS, ระบบความคุมการทรงตัว, ระบบช่วยควบคุมเกียร์ Torque Assist Clutch, ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer และพอร์ต USB รวมไปถึงการดีไซน์ที่มีการปรับเปลี่ยนมาเป็นล้ออลูมิเนียมอัลลอยด์ ที่มาพร้อมกับระบบตรวจเช็คลมยางอัตโนมัติ และทางแบรนด์ยังเตรียมเปิดตัวในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ เตรียมพร้อมกันรึยังล่ะสาวก

และนี่ก็เป็นทั้งหมด 5 ค่าย ที่เป็นที่นิยมของเหล่านักบิด เอาเป็นว่ารักความเร็วไม่ผิด แต่ต้องบิดอย่างมีสติกันด้วยนะครับผล ขับขี่ปลอดภัย ทั้งต่อตัวเองและคนอื่นๆด้วยเช่นกัน ส่วนใครจะชอบแบบไหน สไตล์ไหน ก็ลองหาข้อมูล หรือไปลองจับ ลองเล่นกันได้ และสามารถติดตามอัพเดตข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่เว็ปไซต์ The Macho เช่นเคยนะจ๊ะ