5 การเซ็นสัญญาที่น่าผิดหวังวันเดดไลน์พรีเมียร์ลีก - The Macho
 
Roral Enfield - Hunter 350
728x150 - Nissan Almera
728x150 - Hunter4
5 การเซ็นสัญญาที่น่าผิดหวังวันเดดไลน์พรีเมียร์ลีก

ทุกวันเดดไลน์ในตลาดนักเตะทั่วโลกนั้น มันจะเป็นช่วงเวลาที่วุ่นวายสุดๆเพราะแต่ละสโมสรต่างต้องเดินเครื่องกับแบบรวดเร็วเพื่อหานักเตะที่ต้องการเข้ามาเสริมทัพทันเวลาเพื่อสู้ศึกในรายการต่างๆของฤดูกาลใหม่

         ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ก็เช่นกัน ทุกทีมต่างเดินหน้าเซ็นสัญญากันผู้เล่นใหม่อย่างเร่งด่วน แต่ไม่ใช่นักเตะทุกคนที่จะย้ายเข้ามา และประสบความสำเร็จทันที และนี่คือ 5 แข้งที่แสดงให้เห็นแล้วว่า พวกเขาทำผลงานได้น่าผิดหวังที่สุดสำหรับการย้ายทีมในวันสุดท้ายของตลาดนักเตะเมืองผู้ดี

1. ปาร์ค ชู-ยอง (โมนาโก ไปยัง อาร์เซนอล ปี 2011)

(Source – 365dm)

ย้อนกลับไปในวันเดดไลน์ปี 2011 หัวหอกทีมชาติเกาหลีใต้กำลังทำเรื่องจะย้ายจาก โมนาโก ไปเล่นกับ ลีลล์ เต็มทีแล้ว แต่จู่ๆเขาก็ได้รับโทรศัพท์จาก อาร์แซน เวนเกอร์ เทรนเนอร์ อาร์เซน่อล ซึ่งโน้นมนาวให้ ปาร์ค ตัดสินใจย้ายไปเล่นกับ “ไอ้ปืนใหญ่” ด้วยค่าตัวราว 5 ล้านปอนด์ในที่สุด

ในฤดูกาลสุดท้ายของ ปาร์ค ที่ โมนาโก นั้น เขาซัดไปรวมทุกรายการได้ 12 ประตู แต่หลังจากย้ายมาล่าตาข่ายกับ อาร์เซน่อล ดาวยิงเลือดโสมแดง ฟอร์มตกอย่างน่าใจหาย เขาไม่สามารถปรับตัวกับการเล่นในพรีเมียร์ลีกได้เลย

ตลอด 2 ปีกับ อาร์เซน่อล ปาร์ค มีโอกาสลงสนามไปรวมทุกรายการเพียง 7 เกม ยิงได้เพียงลูกเดียว จากนั้นเขาก็ตระเวนไปเล่นกับ เซลต้า บีโก้, วัตฟอร์ด และ อัล ชาบับ ในซาอุดิอารเบีย ก่อนจะกลับไปแขวนสตั๊ดในบ้านเกิดกับ เอฟซี โซล

2. พอล คอนเชสกี้ (ฟูแล่ม ไปยัง ลิเวอร์พูล ปี 2010)

(Source – 365dm)

         หนึ่งในเหตุการณ์ที่ทำให้ รอย ฮอดจ์สัน อดีตกุนซือมากประสบการณ์ของ ลิเวอร์พูล โดนแฟนบอล “เดอะ ค็อป” โจมตีมากที่สุดก็คือการที่เขาจ่ายเงิน 5 ล้านปอนด์ คว้าตัว คอนเชสกี้ ในวัย 29 ปี มาจาก “เจ้าสัวน้อย” ฟูแล่ม

หลายคนคาดหวังว่า คอนเชสกี้ จะเข้ามาเป็นกำลังเสริมชั้นดีในตำแห่งแบ็คซ้ายให้กับ ลิเวอร์พูล แต่ทุกกอย่างมันตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง โดยกองหลังชาวอังกฤษกลายเป็นบ่อน้ำมันให้กับคู่แข่งเจาะเป็นว่าเล่น เขาเชื่องข้า และขาดความมั่นใจไปหมดสิ้น

คอนเชสกี้ ลงสนามให้ ลิเวอร์พูล ไปรวมทุกรายการเพียง 18 เกม ก่อนจะถูกปล่อยให้  น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ยืมตัวไปใช้งาน และย้ายขาดไปยัง เลสเตอร์ ซิตี้ ในปี 2011

3. ไมค่อน (อินเตอร์ มิลาน ไปยัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ปี 2012)

อดีตแบ็คขวาทีมชาติบราซิลผู้พา อินเตอร์ คว้าทริปเปิ้ลแชมป์ในปี 2010 เคยได้รับการยกย่องว่า เป็นฟูลแบ็คลำดับต้นๆของโลก โดยหลังจากประสบความสำเร็จในแดนมะกะโรนีกับ “งูใหญ่” ไมค่อน ก็ย้ายไปเล่นในอังกฤษกับ แมนฯ ซิตี้ ในวันเดดไลน์ซัมเมอร์ปี 2012 ด้วยค่าตัว 3 ล้านปอนด์

(Source – 365dm)

อย่างไรก็ตาม กองหลังแซมบ้าลืมฟอร์มเก่งสมัยที่อยู่กับ อินเตอร์ ไปหมดแล้ว เขาเจอความเร็วของฟุตบอลพรีเมียร์ลีกจนแทบจะกลายเป็นคนละคน ซึ่งหลังจากที่เขาฟอร์มตกนั้น ก็ทำให้ ปาโบล ซาบาเลต้า แบ็คอาร์เจนไตน์ ยึดตำแหน่งตัวจริงแทนทันที

ไมค่อน มีโอกาสลงสนามให้กับ แมนฯ ซิตี้ ไปรวมทึกรายการเพียง 13 เกมเท่านั้น และในซัมเมอร์เขาก็ถูกขายให้กับ โรม่า ทันที

4. ปาปี ฌิโลโบฌี (น็องตส์ ไปยัง เชลซี ปี 2015)

(Source – 365dm)

เส้นทางอาชีพของ ฌิโลโบฌี ที่ เชลซี ถือว่าล้มเหลวอย่างมาก เขามีโอกาสลงเล่นไปเพียงเกมเดียวในศึกลีก คัพ รอบ 3 กับ วอล์ซอลล์ หลังย้ายมาจาก น็องตส์ โดย โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือ “สิงโตน้ำเงินคราม” ในเวลานั้น โกรธอย่างมากที่บอร์ดสโมสรไม่สามารถคว้าตัวกองหลังที่เขาต้องการมาได้

มูรินโญ่ อยากได้ตัว ราฟาเอล วาราน และ จอห์น สโตนส์ เข้ามาเสริมแนวรับให้ เชลซี แต่บอร์ดดันไปคว้า ฌิโลโบฌี มาให้แทน และแน่นอนว่าปราการหลังชาวฝรั่งเศสก็ถูกปล่อยยืมตัวไปยัง แวรเดอร์ เบรเมน ทันทีช่วงปิดฤดูกาล

5. มารูยาน เฟลไลนี่ (เอฟเวอร์ตัน ไปยัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปี 2013)

(Source – 365dm)

หลังจาก เดวิด มอยส์ โค้ชชาวสก็อตแลนด์เข้ามาคุม แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นครั้งแรกในปี 2013 สิ่งที่เขาทำในช่วงซัมเมอร์ก็คือต้องการลูกน้องเก่าที่ เอฟเวอร์ตัน อย่าง เลห์ตัน เบนส์ และ มารูยาน เฟลไลนี่ มาร่วมทีม “ปีศาจแดง”

มอยส์ สมหวังเพียงรายเดียวด้วยการจ่ายเงิน 27.5 ล้านปอนด์คว้า เฟลไลนี่ มาจาก เอฟเวอร์ตัน ได้สำเร็จ โดยที่เวลานั้น นักเตะเป้าหมายคนอื่นๆอย่าง โทนี่ โครส กองกลางทีมชาติเยอรมัน และ แกเร็ธ เบล ปีกทีมชาติเวลส์ ก็ปฏิเสธจะย้ายมาโอลด์ แทรฟฟอรด์ ทั้งหมด

เฟลไลนี่ ไม่สามารถเรียกฟอร์มเก่งสมัยที่อยู่กับ เอฟเวอร์ตัน ได้เลย เขาหาตำแหน่งที่ดีที่สุดของตัวเองไม่เจอ และบางทีเจ้าตัวถูกจับไปยืนเป็นกองหน้าตัวเป้าด้วย โดยตลอด 6 ปี กับ แมน ฯยูไนเต็ด นั้น กองกลางชาวเบลเยียม ลงเล่นไป 177 เกม ยิงได้เพียง 22 ประตู และถูกขายให้กับ ชานตง หลู่เหนิง ในไชนีสซูเปอร์ลีก ในเวลาต่อมา

ภาพประกอบ : skysports.com

Che Navapun

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save