7 กฎหลังการเลิกรา…รับมือกับความเจ็บ..แล้วมองการเลิกราเป็นโอกาส

หลังการเลิกรามันเป็นเหมือนช่วงเวลาที่คุณกำลังปิดประตูจักรวาลทั้งหมดที่คุณเคยแบ่งปันกับบุคคลอื่นๆ คุณกำลังเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งการทำลายล้างตัวเอง เพราะผิดหวังจากการที่คุณเคยจินตนาการไว้ พร้อมกับการตั้งคำถามตัวเองซ้ำๆ ย้ำๆ ว่าคุณไม่ใช่คนรักที่ดีหรือเปล่า หรือแม้แต่การกระโดดหนีจากการสังสรรคืพบปะกับใครซักคน อยากให้มันเป็นช่วงเวลาที่มีเพียง … แค่ตัวคุณ และด่ำดิ่งสู่โลกอันเหวิ้งว้างอย่างเดียวดาย

เมื่อพิจารณาจากอารมณ์ที่มีพลัง และอาจจะขัดแย้งกันทั้งหมดที่คุณประสบหลังการเลิกรา คุณควรตระหนักว่าสิ่งที่คุณกำลังรู้สึกอยู่ในขณะนี้ อาจส่งผลกระทบต่อการกระทำของคุณเมื่อเวลาผ่านไป ไม่ว่าจะเป็นวัน สัปดาห์ เดือน หรือแม้แต่ปี ด้วยเหตุนี้ กฎการเลิกราบางกฎจึงมีโครงสร้างเพื่อดึงสติ เพื่อให้เกิดปัญญา เพื่อให้แน่ใจว่าช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้จะไม่รู้สึกเหมือนจุดจบ แต่เป็นจุดเริ่มต้นในการเริ่มต้นใหม่แทน

1. อย่าทำอะไรบ้าบิ่น

ทันทีหลังจากการเลิกรามันเป็นเรื่องปกติ และเป็นธรรมชาติที่จะรู้สึกไม่สบายใจเจ็บปวด หรือโดดเดี่ยว คุณอาจรู้สึกอยากทำอะไรที่ยิ่งใหญ่ และมีความหมาย (และอาจถึงกับอันตราย) เพื่อให้เข้ากับอารมณ์ของคุณ
นี่คือเวลาที่คุณควรจำไว้ว่าสิ่งที่คุณรู้สึกอยู่มันเป็นเพียงช่วงเวลาชั่วคราว คุณไม่ควรทำอะไรที่จะส่งผลถึงชีวิตอย่างถาวรเพียงเพราะว่าคุณกำลังพยายามประมวลผลอารมณ์บางอย่างที่หายวับไป แม้ว่าอารมณ์เหล่านั้นจะทรงพลังก็ตาม

แน่นอน คุณได้รับอนุญาตให้แสดงออกมาถึงความเจ็บปวด แต่หากลองเปลี่ยนจากการทำร้ายตัวเองเป็นการปลอบประโลมกับตัวเองล่ะ ซึ่งอาจหมายถึงการซื้อของบางอย่างให้ตัวเอง เช่น จองทริป ไปเที่ยวข้างนอก หรือไม่ก็ให้โอการตัวเองได้ดำเนินชีวิตแบบที่คุณไม่ได้ทำเมื่อตอนอยู่ในระหว่างการคบกัน

การแสดงออก และระบายถึงความเจ็ปปวด มันไม่ได้หมายความว่าคุณควรทำอะไรที่คุณจะต้องเสียใจอย่างสุดซึ้ง แน่นอนว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะเลิกเจ็บปวดในช่วงเวลาที่แผลใจยังสดใหม่ แต่สิ่งที่คุณรู้สึกตอนนี้จะผ่านไป แต่หากคุณวู่วามทำตามอารมณ์ไป ความผิดพลาดเหล่านั้นจะติดอยู่กับคุณตลอดกาล

2. ปล่อยให้ตัวเองรู้สึกเจ็บปวด

สิ่งนี้อาจฟังดูขัดกับสัญชาตญาณ แต่ก็เป็นขั้นตอนที่ผู้ชายหลายคนหลีกเลี่ยงผลที่ตามมา สิ่งสำคัญเมื่อคุณประสบกับความเจ็บปวดทางอารมณ์ หรือความบอบช้ำทางจิตใจที่จะรับรู้ความเศร้าของคุณแทนที่จะพยายามเอามันไปซุกซ่อนไว้ และทำราวกับว่าชีวิตดำเนินต่อไปราวกับว่าทุกอย่างเป็นเรื่องปกติ นั่นอาจไม่ใช่วิธีที่จะเยียวยาได้ ดังนั้น Be kind to yourself..ใจดีกับตัวเองหน่อย แล้วปล่อยมันไปตามธรรมชาติ ตามที่มันจะเป็น

เข้าใจว่าวิถีของผู้ชายมักได้รับการสอนตั้งแต่อายุยังน้อยให้ฝังอารมณ์ด้านลบ เช่น ความโศกเศร้า และความเสียใจ แต่นั่นเป็นวิธีที่ไม่ดีต่อสุขภาพอย่างสุดซึ้ง ที่จะนำไปสู่การปิดทางอารมณ์ในระยะยาว แม้ว่าจะรู้สึกดีขึ้นในระยะสั้นก็ตาม ถ้าคุณไม่เคยมีประสบการณ์ความเจ็บปวด คุณก็จะไม่มีทางเติบโตอย่างเเข็งแกร่ง

หากคุณรู้สึกเศร้า จงโอบกอด และยอมรับความเศร้านั้น ให้เวลาเป็นรางวัลแก่ตัวเองในวันหยุด หรือหนึ่งคืนใน (หรือมากกว่านั้น!) ที่คุณแค่เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น หากมีคนถามว่าคุณเป็นอย่างไร ให้ยอมรับกับพวกเขาว่าคุณกำลังผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบาก พูดคุยกับผู้ที่ใกล้ชิดที่สุดเกี่ยวกับสถานการณ์ของคุณ หรือถ้ามันหนักจนเกินรับไหวลองไปพบนักบำบัด หรือผู้ให้คำปรึกษาเพื่อจัดการกับสิ่งที่คุณรู้สึก…การยอมรับ และเผชิญหน้ากับความเป็นจริงของอารมณ์ตอนนี้ จะทำให้รับมือกับอารมณ์เหล่านี้ได้ง่ายขึ้นมาก.

3. อย่าเริ่มออกเดทอีกในทันที

เป็นเรื่องปกติที่จะหาใครสักคนมาเติมเต็มความว่างเปล่าที่แฟนเก่าของคุณได้สร้างขึ้นหลังจากการเลิกรา บางคนอาจคิดว่าการดาวน์โหลด Tinder หรือแอพเดทเป็นเรื่องน่าดึงดูดใจ และเริ่มปัดนิ้วทันทีที่แฟนเก่าของคุณจากไป พฤติกรรมแบบนั้นเสี่ยงที่จะไม่ยุติธรรมต่อคนที่คุณพบทางออนไลน์ การมองหาความเป็นเพื่อนเป็นเรื่องหนึ่ง (ไม่ว่าจะทางกาย หรือทางอารมณ์) และอีกเรื่องหนึ่งคือพยายามใช้คนแปลกหน้าเพื่อจุดประสงค์ในการดีดตัวออกจากห้วงเวลาอันแสนเจ็บปวดอย่างรวดเร็ว

ไม่ว่าคุณจะบอกคนเหล่านั้นว่าคุณเพิ่งออกจากความสัมพันธ์ หรือไม่ก็ตาม แต่การพยายามขจัดความเจ็บปวดทางอารมณ์ที่คุณรู้สึก โดยสร้างทางลัดด้วยการเริ่มต้นความสัมพันธ์ใหม่ทันที เข้าใจว่าเป็นสิ่งที่คุณอาจพยายามดิ้นรนเพื่อให้ได้มาซึ่งเป้าหมาย แต่ด้วยเหตุผลนั้นอาจสร้างบาดแผลกับคนที่เข้ามาใหม่ได้หากไม่ระวัง ดังนั้นทันทีที่เลิกรากัน ทางที่ดีควรอยู่ห่างจากตลาดการหาคู่ ให้แน่ใจก่อนว่าคุณอยู่ในระยะปลอดภัย และพร้อมเริ่มต้นใหม่แล้วจริงๆ …วันหนึ่งคุณจะออกมาจากความเศร้าด้วยความเข้าใจในตัวเองดีขึ้น และคุณไม่ควรจะล้อเล่นกับอารมณ์ของใครในระหว่างนี้.

4. พยายามทำใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น

เมื่อคุณคิดย้อนกลับไปในการล่มสลายของความสัมพันธ์ ไม่ควรเอาแต่ตั้งคำถาม หรือหาเหตุผลว่าใครเป็นคนถูก หรือเป็นคนผิด เพราะโดยแท้จริงแล้ว สาเหตุหลักของการเลิกลา มันมาจากความรู้สึกหมดใจ หมดรัก หรือรักกันไม่มากพอ…มันก็แค่ความรักที่เคยมี ตอนนี้มันมากไม่พอที่จะฝ่าฟัน หรือเผชิญหน้ากับอุปสรรค์ไปด้วยกันอีกต่อไป
บางทีการเลิกราก็อาจเป็นการปลุกที่ดีได้เช่นกัน หากคุณถูกทิ้ง และแฟนเก่าบอกคุณว่าปัญหาคืออะไร อาจเป็นช่วงเวลาที่ดีที่จะเผชิญหน้าด้านบุคลิกภาพของคุณ ซึ่งอาจยืนหยัดเพื่อแก้ไขได้

พยายามอย่ามองข้ามการเลิกราว่าไร้ความหมายหรือแฟนเก่าของคุณ “บ้า หรือ เลว ” การคิดแบบนั้นจะทำให้คุณเผชิญหน้ากับสิ่งที่ผิดพลาดจริงๆ ได้ยากขึ้น การคิดว่าทุกๆ สิ่งที่เกิดขึ้นมันมีทั้งข้อดี และข้อเสียเสมอ นั่นจะทำให้คุณเรียนรู้บทเรียนจากการเลิกรา ซึ่งคุณสามารถนำไปใช้ในความสัมพันธ์ครั้งต่อไปได้ง่ายขึ้น คุณทั้งคู่ต่างก็สูญเสีย ในแง่ดีคือมีฝ่ายหนึ่งต้องสูญเสียหนึ่งคนที่ตนเองรัก และแน่นอนว่าอีกฝ่ายก็ต้องสูญเสียหนึ่งคนที่รักตนเช่นเดียวกัน

5. หยุดพักจากอดีตของคุณ

คุณอาจจะคุ้นเคยกับการพูดคุยกับแฟนเก่าของคุณมาก…มากกว่าใครก็ตามที่คุณรู้จัก แต่สำหรับอนาคตอันใกล้นี้ คุณควรปิดการสื่อสารทั้งหมดกับพวกเขา …แม้ว่าจะมีข้อยกเว้นอยู่บ้าง เช่นบางกรณีอาจต้องมีการจัดการกับการแยกทรัพย์สิน การดูแลเด็ก หรือสัตว์เลี้ยง หรือคุณรู้จักกันอย่างมืออาชีพ อย่างไรก็ตามการติดต่อกับแฟนเก่าของคุณจะเป็นเรื่องยากทางอารมณ์ การโต้ตอบอย่างต่อเนื่องจะทำให้คุณไม่ก้าวต่อไป และอาจสร้างหนทางให้คุณคนใดคนหนึ่งแสดงความโหดร้าย หรือทำร้ายอีกฝ่าย

ยิ่งคุณใช้เวลาคิดถึงความสัมพันธ์ และแฟนเก่าน้อยลงเท่าไหร่ คุณก็จะเดินหน้าต่อไปได้ง่ายขึ้น การไม่จมอยู่กับความทุกข์เศร้ามักจะเป็นเรื่องที่ดีต่อสุขภาพของตัวคุณเอง หลังจากการเลิกรา คุณทั้งคู่ต้องการเวลาเยียวยา

6. ใช้เวลาคุณภาพกับเพื่อน และครอบครัว

หลังจากการเลิกราที่ยากลำบาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณอยู่ด้วยกัน หรือใช้เวลาร่วมกันนานๆ เป็นเรื่องปกติที่จะพบว่าตัวเองสงสัยว่าจะทำอย่างไรกับตัวเอง คุณเติมเต็มชั่วโมงที่เคยใช้เวลากับแฟนเก่าของคุณอย่างไร?

การมีเพื่อน และครอบครัวอยู่ด้วย จะช่วยให้คุณรู้สึกมีความสุข มีเหตุผล และน่าชื่นชมมากขึ้น การใช้เวลากับผู้ที่รู้จักคุณดีที่สุดจะช่วยให้พวกเขามีโอกาสตรวจสอบ และทำความเข้าใจว่าคุณเป็นอย่างไร มุมมองภายนอกบางอย่างอาจเป็นสิ่งที่คุณต้องการในเวลาแบบนี้

7. มองการเลิกราเป็นโอกาส

เมื่อคุณอยู่ในกองขยะอารมณ์ คุณอาจพยายามคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากการเลิกรา เป็นเรื่องยากที่จะขจัดความเจ็บปวดในช่วงเวลาสั้นๆ ถ้ามองในแง่ดี ตราบใดที่การเลิกราถือเป็นการสิ้นสุด มันก็เป็นจุดเริ่มต้นเช่นกัน ตอนนี้คุณมีโอกาสที่จะเข้าใจได้ดีขึ้นว่าคุณเป็นใคร และต้องการอะไรจากชีวิต โดยไม่มีคู่ชีวิตเคียงข้างคุณ คุณสามารถเรียนรู้ความผิดพลาด และนำไปใช้เมื่อคุณพบคนที่เหมาะกับคุณมากกว่าที่เคยเป็น