5 อันดับกุนซือที่ได้ค่าเหนื่อยมากที่สุดในยุโรป - The Macho
 
Roral Enfield - Hunter 350
728x150 - Nissan Almera
728x150 - Hunter4
5 อันดับกุนซือที่ได้ค่าเหนื่อยมากที่สุดในยุโรป

ผู้จัดการทีมฟุตบอลถือเป็นอาชีพที่มีความกดดันมากที่สุด และไม่มีความแน่นอนมากที่สุดลำดับต้นๆของโลกเลยก็ว่าได้ เพราะหากทำผลงานได้ไม่ดีนั้น วันต่อมาก็อาจตกงานเอาง่ายๆ และกว่าจะหาสโมสรใหม่ได้ก็อาจใช้เวลาพอสมควร

อย่างไรก็ตาม หากเป็นเทรนเนอร์ระดับยอดฝีมือที่ประสบความสำเร็จมากมายก็จะมีค่าจ้างก็จะมหาศาล และนี่คือสุดยอด 5 กุนซือที่ได้รับค่าเหนื่อยมากที่สุดในวงการลูกหนังยุโรป

5. ซีเนดีน ซีดาน (เรอัล มาดริด ค่าเหนื่อย 14 ล้านปอนด์ต่อปี)

       เทรนเนอร์ยอดฝีมือชาวฝรั่งเศสตัดสินใจหวนกลับมารับงานคุม มาดริด เป็นคำรบที่ 2 เมื่อเดือนมีนาคมปี 2019 หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ซีดาน เคยนำพลพรรค “ราชันชุดขาว” คว้าถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ถึง 3 สมัยติดต่อกันในช่วงปี 2016-2018

        ในฤดูกาลนี้ ผู้จัดการทีมเฟรนช์แมน ยังคงความยอดเยี่ยมต่อเนื่องด้วยการพา มาดริด มีลุ้นทั้งแชมป์ลา ลีกา และแชมป์ยุโรปอีกครั้งทั้งที่ “ราชันชุดขาว” ไม่มีกำลังสำคัญในแดนหน้าอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ปีกซุเปอร์สตาร์ชาวโปรตุกีสที่ย้ายไป ยูเวนตุส แล้ว

        ปัจจุบัน ซีดาน เหลือสัญญากับ มาดริด อีกเพียงปีเดียวเท่านั้น และยังไม่มีใครรับประกันว่า เจ้าตัวจะอยู่ในถิ่นซานติอาโก้ เบอร์นาบิวต่อไปหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ เขาขึ้นทำเนียบเป็นหนึ่งในยอดกุนซือของสโมสรไปเรียบร้อยแล้ว

4. เจอร์เก้น คล็อปป์ (ลิเวอร์พูล ค่าเหนื่อย 15 ล้านปอนด์ต่อปี)

       แม้ในฤดูกาลนี้ คล็อปป์ จะพา ลิเวอร์พูล ทำผลงานได้ต่ำกว่ามาตรฐาน แต่การพา “หงส์แดง” คว้าทั้งแชมป์พรีเมียร์ลีก, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, ยูฟ่า ซุเปอร์ คัพ และแชมป์สโมสรโลกตลอด 6 ปีที่ผ่านมานั้น โค้ชชาวเยอรมันกลายเป็นตำนานของสโมสรอย่างปฏิเสธไม่ได้

        คล็อปป์ เข้ามากุมบังเหียนในถิ่นแอนฟิลด์เมื่อปี 2015 พร้อมกับจัดการปรับปรุงให้ ลิเวอร์พูล กลายเป็นทีมที่เล่นฟุตบอลได้อย่างน่าตื่นเต้น และเร้าใจ นอกจากนี้ เขายังปั้น “หงส์แดง” จนก้าวไปเป็นระดับโลกหลายคนอาทิ โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่, ซาดิโอ มาเน่, โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, เวอร์จิล ฟาน ไดจค์ และ ฟาบินโญ่ แถมยังให้ดาวรุ่งอย่าง ทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แจ้งเกิดอีกด้วย

        เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา โค้ชวัย 53 ปี เพิ่งจรดปากกกาต่อสัญญาฉบับใหม่กับ ลิเวอร์พูล ยาวไปจนถึงปี 2024 เลยทีเดียว และแน่นอนว่า ในปีหน้า คล็อปป์ คงทำการบ้านอย่างหนักเพื่อพา “หงส์แดง” กลับมาสู่เส้นทางความสำเร็จอีกครั้ง

3. เป๊ป กวาร์ดิโอล่า (แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ค่าเหนื่อย 20 ล้านปอนด์ต่อปี)

        กวาร์ดิโอล่า ปักหลักบัญชาการ แมนฯ ซิตี้ เข้าสู่ปีที่ 5 แล้ว หลังเขามารับงานเมื่อปี 2016 โดยยอด เทรนเนอร์ชาวสเปนพาทัพ “เรือใบสีฟ้า” ประสบความสำเร็จอย่างนับไม่ถ้วนด้วยการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก สมัย, เอฟเอ คัพ 1 สมัย และลีก คัพ 4 สมัย

        นายใหญ่วัย 50 ปี ทำให้  แมนฯ ซิตี้ กลับมาเล่นฟุตบอลด้วยความมีชีวิตชีวาอีกครั้ง และทีมของเขามีสไตล์เกมรุกที่สวยงาม แถมยังมีการเข้าทำที่หลากหลายอีกด้วยจึงยากที่คู่ต่อสู้จะรับมือ และบางทีมที่เจอกับ “เรือใบสีฟ้า” ก็อาจหาบอลไม่เจอเลยด้วยซ้ำ

        กวาร์ดิโอล่า ทำให้นักเตะตัวริมเส้นอย่าง ราฮีม สเตอร์ลิ่ง กลายเป็น False9 ที่สมบูรณ์แบบ และปีนี้เขายังให้โอกาส ฟิล โฟเด้น ยอดกองกลางดาวรุ่งชาวอังกฤษได้แจ้งเกิดกับทีมชุดใหญ่ของ แมนฯ ซิตี้ อีกด้วย

2. อันโตนิโอ คอนเต้ (อินเตอร์ มิลาน ค่าเหนื่อย 20.2 ล้านปอนด์ต่อปี)

        หลังจากห่างหายจากความสำเร็จไปนานเกือบทศวรรษ อินเตอร์ ก็เดินหน้าคว้าแชมป์กัลโช่ เซเรีย อา มาครองได้แล้วภายหลัง คอนเต้ เข้ามากุมบังเหียนเมื่อปี 2019 และฝีมือของเขาน่าจะพาพลพรรค “งูใหญ่” ครองความยิ่งใหญ่ไปได้อีกหลายปี

        กุนซือชาวอิตาเลียนทำให้ยักษ์หลับอย่าง อินเตอร์ กลับมาเล่นฟุตบอลด้วยความแข็งแกร่งอีกครั้งด้วยการมีเกมรับที่เหนียวแน่น และมีเกมรุกที่น่ากลัวนำโดยนักเตะอย่าง โรเมลู ลูกากู กองหน้าทีมชาติเบลเยียม และ เลาตาโร่ มาร์ติเตซ ดาวยิงอาร์เจนไตน์

1. ดิเอโก้ ซิเมโอเน่ (แอตเลติโก มาดริด ค่าเหนื่อย 36.2 ล้านปอนด์ต่อปี)

ซิเมโอเน่ คุม แอตฯ มาดริด เข้าสู่ปีที่ 10 แล้ว และเจ้าตัวยังคงพาทีมเบียนลุ้นแชมป์ลา ลีกา กับ 2 ยอดทีมอย่าง บาร์เซโลน่า และ มาดริด ได้อย่างสูสีมาตลอด แถมยังเคยคว้าแชมป์ลีกมาครองได้ 1 สมัยในฤดูกาล 2013-2014

ซิเมโอเน่ เป็นหนึ่งในกุนซือที่ได้รับการยกย่องเรื่องการวางแท็คติคลำดับต้นๆในยุโรปเลยก็ว่าได้ เขามีแผนการเล่นที่หลากหลาย และยืดหยุ่นอย่างมากเมื่อต้องพา แอตฯ มาดริด เผชิญหน้ากับทีมที่แข็งแกร่งกว่าหรือทีมที่คุณภาพน้อยกว่า

ในวัย 50 ปี โค้ชชาวอาร์เจนไตน์ยังสามารถคุม แอตฯ มาดริด ไปได้อีกหลายปีสบายๆหากเขาไม่หมดความท้าทายกับ “ตราหมี” ไปเสียก่อน

ภาพประกอบ : skysports.com

Che Navapun

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save