นักเตะแพงที่สุดของสโมสรพรีเมียร์ลีก ตอนที่ 2 - The Macho
 
Roral Enfield - Hunter 350
728x150 - Nissan Almera
728x150 - Hunter4
นักเตะแพงที่สุดของสโมสรพรีเมียร์ลีก ตอนที่ 2

สำหรับตอนที่ 2  ผู้เล่นค่าตัวสถิติแพงที่สุดในสโมสรพรีเมียร์ลีกส่วนใหญ่ต่างเป็นที่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดีของคอบอลเมืองผู้ดีอยู่แล้ว และดูเหมือนว่า ราคาค่าตัวของพวกเขานั้น คงยากที่จะมีนักเตะใหม่เข้ามาทำลายได้

11. ลิเวอร์พูล (เวอร์จิล ฟาน ไดจค์ ค่าตัว 75 ล้านปอนด์)

       หนึ่งในการทำธุรกิจที่คุ้มคาที่สุดของ ลิเวอร์พูล ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ฟาน ไดจค์ ถูกคว้าตัวมาจาก เซาธ์แฮมป์ตัน ในตลาดนักเตะเดือนมกราคมปี 2018 และเข้ามาสร้างผลกระทบอย่างมหาศาลให้กับแนวรับ “หงส์แดง” ทันที

        กองหลังทีมชาติฮอลแลนด์ พา ลิเวอร์พูล ประสบความสำเร็จอย่างมากด้วยการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, ยูฟ่า ซุเปอร์ คัพ และแชมป์สโสรโลก มาแล้ว

12. แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (โรดรี ค่าตัว 63 ล้านปอนด์)

       ห้องเครื่องทีมชาติสเปน ย้ายจาก แอตเลติโก มาดริด มาเล่นกับ แมนฯ ซิตี้ เมื่อปี 2019 และ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เทรนเนอร์ “เรือใบสีฟ้า” ก็มอบตำแหน่งตัวจริงให้กับเขาทันทีหลังจากที่ แฟร์นานดินโญ่ มิดฟิลด์ชาวบราซิล อยู่ในช่วงท้ายอาชีพแล้ว

         โรดรี ไม่ทำให้ กวาร์ดิโอล่า ผิดหวัง เขาปรับตัวเข้ากับแท็คติคของ แมนฯ ซิตี้ ได้อย่างไร้รอยต่อ และยืนปักหลักหน้าแผงกองหลังของ “เรือใบสีฟ้า” ได้อย่างแข็งแกร่ง

13. แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (ปอล ป็อกบา ค่าตัว 89 ล้านปอนด์)

       ป็อกบา เคยเล่นให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในระหว่างปี 2011-2012 ก่อนจะย้ายไปยัง ยูเวนตุส แบบไร้ค่าตัว จากนั้น ในปี 2016 มิดฟิลด์ทีมชาติฝรั่งเศส กลับมาสู่ถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด อีกครั้งพร้อมกับเป็นนักเตะที่แพงที่สุดของ “ปีศาจแดง”

        ปัจจุบัน ดาวเตะวัย 26 ปี ยังเป็นผู้เล่นคนสำคัญในแดนกลางของ แมนฯ ยูไนเต็ด โดยลงเล่นไปแล้วรวมทุกรายการมากกว่า 180 เกม คว้าแชมป์ยูโรป้า ลีก 1 สมัย และแชมป์ลีก คัพ 1 สมัย

14. นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด (โชเอลลินตัน ค่าตัว 40 ล้านปอนด์)

       โชเอลลินตัน ถูก นิวคาสเซิ่ล คว้าตัวมาจาก ฮอฟเฟ่นไฮม์ ในซัมเมอร์ปี 2019 แต่น่าเสียดายที่ผลงานของเขากับพลพรรค “สาลิกาดง” ยังไม่ดีเท่าที่ควร หลังซัดไปเพียง 7 ประตู จาก 65 เกมรวมทุกรายการ \

        ศูนย์หน้าชาวบราซิล ดูเหมือนจะปรับตัวเข้ากับความเร็วของฟุตบอลพรีเมียร์ลีกไม่ได้ เขาดูเชื่องช้าเมื่อต้องรับมือกับการเข้าบอลเร็วของคู่แข่ง และในซัมเมอร์นี้ นิวคาสเซิ่ล อาจต้องพิจารณาอนาคตของ โชเอลลินตัน อย่างรละเอียดอีกครั้ง

15. เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด (ริอาน บรูว์สเตอร์ ค่าตัว 23.5 ล้านปอนด์)

       บรูว์สเตอร์ เป็นเด็กลูกหม้อของ ลิเวอร์พูล แต่หลังจากไม่ได้รับโอกาสในทีมชุดใหญ่ของ “หงส์แดง” เขาจึงย้ายมาเล่นกับ เชฟฟิลด์ ภายใต้การนำของกุนซือ คริส ไวลเดอร์ เมื่อซัมเมอร์ปี 2020

        อย่างไรก็ตาม หัวหอกดาวรุ่งชาวอังกฤษ ไม่ประสบความสำเร็จกับ เชฟฟิลด์ เขายังยิงประตูไม่ได้เลยแม้แต่ลูกเดียว และยังต้องใช้โอกาสพิสูจน์ตัวเองต่อไป

16. เซาแธมป์ตัน (ยานนิค เวสเทอร์การ์ด ค่าตัว 22 ล้านปอนด์)

       กองหลังทีมชาติเดนมาร์ก ย้ายจาก โบรุสเซีย มึนเชนกลัดบัค มาคุมแนวรับให้ เซาแธมป์ตัน ตั้งแต่ปี 2017 จากนั้น เขาค่อยๆพัฒนาฟอร์มจนกลายมาเป็นหัวใจในเกมรับให้กับพลพรรค “นักบุญ” จนถึงปัจจุบัน

        เวสเทอร์การ์ด ลงเล่นให้กับ เซาแธมป์ตัน ไปแล้วรวมทุกรายการ 60 เกม และจากฟอร์มการเล่นอันแข็งแกร่งของเขาก็ทำให้เป็นข่าวว่า มีหลายสโมสรในยุโรปให้คว้าสนใจอยากได้ตัวไปเสริมทัพ

17. ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ (ตองกี เอ็นดอมเบเล่ ค่าตัว 54 ล้านปอนด์)

       เอ็นดอมเบเล่ โด่งดังขึ้นมากับ โอลิมปิก ลียง จนทำให้ สเปอร์ส ทุ่มเงินมหาศาลคว้าตัวเข้ามาร่วมทีมในซัมเมอร์ปี 2019 พร้อมกับคาดหมายว่า จะเข้ามาเป็นกำลังสำคัญในแดนกลางให้กับทีม แต่น่าเสียายที่เขาได้รับบาดเจ็บและพักไปนานหลายเดือน

        ในฤดูกาลนี้ มิดฟิลด์ชาวฝรั่งเศส หายเจ็บกลับมาอีกครั้ง และกลับมาเป็นสมาชิกในทีมชุดแรกของ สเปอร์ส ภายใต้การคุมทีมของ โชเซ่ มูรินโญ่ ซึ่งในเวลานี้ ดาวเตะวัย 24 ปี อยู่ระหว่างเรียกฟอร์มสมัยที่เล่นกับ ลียง กลับมาอีกครั้ง

18. เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน (กราดี เดียกาน่า ค่าตัว 18 ล้านปอนด์)

       ปีกวัย 22 ปี เป็นเด็กปั้นของ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด และถูกปล่อยให้กับ เวสต์บรอมวิช ยืมตัวไปใช้งานในปี 2019 และทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมจนทำให้ “เดอะ แบ็กกี้ส์” เซ็นสัญญามาร่วมทีมเป็นการถาวรในซัมเมอร์ปี 2020

        ตลอด 2 ปี เดียกาน่า ลงเล่นให้กับ เวสต์บรอมวิช ไปแล้วรวมทุกรายการมากกว่า 70 เกม ซัดไป 11 ประตู และยังเป็นกำลังสำคัญในเกมรุกของ “เดอะ แบ็กกี้ส์” อีกด้วย

19. เวสต์แฮม ยูไนเต็ด (เซบาสเตียน อัลแลร์ ค่าตัว 45 ล้านปอนด์)

       อัลแลร์ ระเบิดสกอร์ให้กับ ไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต ได้อย่างเป็นกอบเป็นกำก่อนที่จะย้ายมายัง เวสต์แฮม ในซัมเมอร์ปี 2019 พร้อมได้รับการคาดหวังว่า จะเข้ามาเป็นเครื่องจักรถล่มประตูคนใหม่ของพลพรรค “ขุนค้อน”

        อย่างไรก็ตาม ศูนย์หน้าชาวไอวอรี่ โคสต์ ไมม่สามารถปรับตัวกับการเล่นในอังกฤษได้ เขาฟอร์มฝืดอย่างน่าใจหายหลังยิงไปเพียง 14 ประตูตลอด 1 ปีครึ่ง ก่อนจะถูก เวสต์แฮม ขายให้กับ อาแจกซ์ อัมสเตอร์ดัม ด้วยค่าตัว 22 ล้านปอนด์ ในเดือนมกราคมปี 2021

20. วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส (ฟาบิโอ ซิลวา ค่าตัว 35 ล้านปอนด์)

       สุดยอดหกองหน้าดาวรุ่งของวงการฟุตบอลโปรตุเกส ซิลวา ย้ายจาก เอฟซี ปอร์โต้ มาล่าตาข่ายกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน เมื่อซัมเมอร์ปี 2020 โดยลงเลนรให้กับ “หมาป่า” ภายใต้การคุมทัพของกุนซือ นูโน่ เอสปิริโต ซานโต ไปแล้ว 18 เกม ซัดไป 2 ประตู

        ปัจจุบัน ซิลวา อายุเพียง 18 ปี พรสวรรค์ และฝีเท้าของเขายังคงพัฒนาได้อีกไกล และ วูล์ฟแฮมป์ตัน น่าจะไม่ใช่สโมสรสุดท้ายของเขาแน่นอน

ภาพประกอบ : skysports.com, hitc.com, teamtalk.com

นักเตะแพงที่สุดของสโมสรพรีเมียร์ลีก ตอนที่ 1

Che Navapun

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save