หนึ่งในอุปกรณ์ไอทีที่กลายเป็นปัจจัยหลักในชีวิตไปแล้วคงหนีไม่พ้นสมาร์ทวอทช์หรือนาฬิกาอัจฉริยะ ที่สามารถตรวจสอบสุขภาพร่างกายของเราได้ หรือจะเป็นใช้ในการดูการแจ้งเตือนต่างๆจากสมาร์ทโฟน เพิ่มความสะดวกในชีวิตมากขึ้นไปอีกขั้น และในช่วงนี้ The Macho ขอมาแนะนำสมาร์ทวอทช์ที่น่าใช้งานภายในช่วงปลายปี 2020 ที่สามารถหาเลือกใช้งานได้ยาวและดูไม่เก่าไปจนถึง 2021 กันเลย
Apple Watch Series 6 และ Apple Watch SE
โดยปกตินั้น Apple จะเลือกเปิดตัว Apple Watch ปีละ 1 ซีรี่ยืเท่านั้น แต่ในปีนี้ Apple เลือกที่จะเปิดตัวออกมาด้วยกัน 2 ซีรี่ย์คือ ซีรี่ย์ 6 และ SE โดยมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 9,.400 บาท สำหรับ Apple Watch SE หน้าปัด 40มม และในรุ่น 44มม มีราคาอยู่ที่ 10,400 บาทเท่า ที่อยู่บนตัวเรือนรูปทรงแบบเดียวกับ Apple Watch Series 6 เลย แต่จะขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Apple S5 ที่เคยถูกใช้งานบน Apple Watch Series 5 มาก่อนหน้านี้ จึงยังคงมั่นใจในประสิทธิภาพของ Apple Watch SE ได้เป็นอย่างดี และยังสามารถกันน้ำเพียงพอต่อการว่ายน้ำหรือลงน้ำลึกได้ลึกถึง 50 เมตร พร้อมฟีเจอร์การใช้งานที่ครบครันสำหรับสมาร์ทวอทช์เลยทีเดียว และในรุ่น Apple Watch Series 6 มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 13,400 บาท บนหน้าปัด 40มม และ 44มม สำหรับรุ่น 44มม บนตัวเรือนแบบอลูมิเนียมหลากสีสัน และสามารถเลือกตัวเรือนได้ตามที่ต้องการไม่ว่าจะเป็น สแตนเลสสตีล ไทเทนียม หรือจะเป็นรุ่นพิเศษ Hermes Edition สวยงามหรูหราตามสไตล์ที่ใช่ได้อีกมากมาย ส่วนสิ่งที่แตกต่างไปจาก Apple Watch SE คือเรื่องของการใช้งาน Always on Display และการวัดอุณหภูมิภายในเลือด เพื่อการตรวจสอบสุขภาพที่เหนือชั้นขึ้นไปกว่าเดิม แต่ว่า Apple Watch จะสามารถใช้งานได้ร่วมกับ iPhone เท่านั้นไม่สามารถนำไปใช้งานกับสมาร์ทโฟนบนระบบปฎิบัตการณ์อื่นๆได้
Suunto 7
เมื่อมีระบบปฏิบัติการณ์สำหรับนาฬิกาจาก Apple ก็ต้องมีของ Google ด้วยเช่นกันกับ wearOS by Google ที่ถูกนำมาใช้อยู่บนนาฬิกาเรือนระดับพรีเมี่ยมสำหรับสายลุยกับ Suunto 7 ที่มีความโดดเด่นด้วยระบบปฏิบัติการณ์ที่ลื่นไหลเวอร์ชั่นล่าสุด พร้อมฟังก์ชั่นในการออกกำลังกายกว่า 90 รูปแบบ และการเดินทางที่ครบครันโดยไม่ต้องกลัวว่าพลังงานจะหมดเร็วด้วย Battery-Saving GPS mode เอกสิทธิ์เฉพาะที่ไม่สามารถหาจาก wearOS ค่ายอื่นๆได้ จึงทำให้ Suunto 7 นั้นเป็น wearOS ที่ใช้งาน Qualcomm Snapdragon Wear 3100 ที่ทรงพลังและจัดการพลังงานได้ดีที่สุด พร้อมแอพจากทาง Google Play Store ที่มีให้เลือกใช้งานได้อย่างหลากหลายอิสระ ในราคาเพียง 16,900 บาท
สมาร์ทวอทช์ระดับพรีเมี่ยมจาก Samsung ที่ออกแบบให้สามารถใช้งานได้ทั้ง iOS และ Android OS โดยมีจุดเด่นตรงที่เป็นหน้าปัดนาฬิกาทรงกลมแบบ Super AMOLED อันเป็นเอกลักษณ์ความสวยงามด้านหน้าจอจาก Samsung พร้อมขอบนาฬิกาที่สามารถหมุนเพื่อดูข้อมูลต่างๆภายในนาฬิกาได้เป็นอย่างคล่องตัว ที่สามารถใช้งานได้นานถึง 2 วัน ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการณ์ TizenOS และตัวเรือนที่มีให้เลือก 2 ขนาดคือ 41 มม. และ 44 มม. มีราคาเริ่มต้นที่ 14,900 บาท สำหรับรุ่น Bluetooth และ 17,900 บาท ในรุ่น LTE รวมถึง Galaxy Watch 3 ยังมีรุ่นพิเศษที่ทำจากไทเทเนียบเฉพาะตัวเรือน 45มม. แบบ Bluetooth ราคา 23,900 บาท
สมาร์ทวอทช์ที่ใช้งานระบบปฏิบัติการณ์จาก Google ที่น่าจะเป็นนาฬิกาที่หาง่ายและดีที่สุดคงหนีไม่พ้น Ticwatch Pro 3 GPS จาก Mobvoi ทำงานบนระบบปฏิบัติการณ์ wearOS by Google ที่มาพร้อมกับขุมพลังรุ่นล่าสุดสำหรับ wearOS ด้วย Qualcomm Snapdragon Wear 4100 ทำให้เป็นเพียง wearOS ไม่กี่เรือนที่สามารถใช้งานได้อย่างยาวนานกว่าใคร พร้อมกับหน้าจอที่มีให้ใช้งาน 2 แบบ สำหรับ 2 โหมดคือประหยัดพลังงานผ่านหน้าจอ Low Power Consuming Screen ที่ให้ Ticwatch Pro สามารถใชงานได้ยาวนานถึง 45 วันและ AMOLED หน้าจอหลักสำหรับใช้งานแบบ Smart mode สามารถใช้งานได้ยาวนานกว่า 72 ชั่ว หรือก็คือประมาณ 3 วันซึ่งถือว่าทำได้ดีกว่าสมาร์ทวอทช์ที่เราพูดมาก่อนหน้านี้ทั้ง 2 รุ่นเลย โดยมีราคาอยู่ที่ 11,999 บาท
ถ้าพูดถึงนาฬิกาที่ออกแบบมาเพื่อสุขภาพป็นหลักโดยเฉพาะคงหนีไม่พ้น Fibit Versa 3 ที่เป็นสมาร์ทวอทช์ซีรี่ย์ที่ออกแบบให้เข้ากับผู้คนมากขึ้น พร้อมความสามารถที่จะใช้งานได้ยาวนานกว่า 6 วัน และหน้าปัดนาฬิกาที่มีให้เลือกมากกว่าร้อยรูปแบบจาก Fitbit และการวัดการนอนที่แม่นยำทั้งค่า Light Sleep, Deep Sleep, และ REM พร้อมความสามารถในการชาร์จไวเพียง 12 นาที สามารถใช้งานได้เต็มวัน และในช่วงเวลาที่แบตเตอรี่เต็มสามารถใช้งาน GPS แบบต่อเนื่องได้ยาวนานกว่า 12 ชั่วโมง นั่นหมายความว่า เหล่าสายออกกำลังที่ใช้เวลาในการออกกำลังกายนานกว่า 5-6 ชั่วโมงนั้นเหมาะอย่างยิ่งที่จะใช้งาน Fitbit Versa 3 นี้ในราคา 9,190 บาท
Garmin Fenix 6 , Fenix 6x , Fenix 6s และ Fenix 6x Pro Solar
สมาร์ทวอทช์จาก Garmin เป็นหนึ่งในสมาร์ทวอทช์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดตั้งแต่อดีตด้วยความทนทานและอายุการใช้งานเหนือใคร ที่เหมาะกับสายเดินทางเป็นอย่างมาก และในรุ่น Fenix 6x Pro Solar นั้นยังมีหน้าจอที่พิเศษกว่าสมาร์ทวอทช์จากทุกหนแห่งด้วยความสามารถในการชาร์จพลังงานจากแสงอาทิตย์ได้ เมื่อรวมกับแบตเตอรี่ที่อยู่ภายในตัวจะช่วยให้ Fenix 6x Pro Solar สามารถใช้งานได้ยาวนานกว่า 120 วัน หรือประมาณ 4 เดือนที่ยาวนานจนอาจเรียกได้ว่า นี่คือสมาร์ทวอทช์ที่ดีที่สุดในตอนนี้ของปี 2020 ที่มีมา ทั้งด้านของแบตเตอรี่และด้านการใช้งานที่มีครบครันในทุกด้านทั้งการวัดการออกกำลังกาย การฟังเพลง การดูแผนที่ที่แม่นยำกว่าใคร รวมไปถึงการวัดระดับออกซิเจนภายในร่างกายที่เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญสำหรับนักออกกำลังกายโดยเฉพาะเพื่อการคำนวณสภาพร่างกายในการออกกำลังกายได้เป็นอย่างดี โดยมีราคาเร่มต้นอยู่ที่ 36,600 บาท และในรุ่นเริ่มต้นของซีรี่ย์ 6 เองนั้นก็ไม่น้อยหน้า ด้วยคุณสมบัติด้านสุขภาพที่ครบครันแบบรุ่นพี่ และ GPS ที่แม่นยำตามสไตล์ของ Garmin แต่สามารถใช้งานได้ยาวนานเพียง 13 วันเท่านั้น ซึ่งเพียงพอสำหรับสมาร์ทวอทช์ทั่วๆไปโดยมีราคาอยู่ที่ 22,900 บาท