10 อันดับทีมตกชั้นที่เก็บแต้มได้น้อยที่สุดในยุคพรีเมียร์ลีก - The Macho
 
Roral Enfield - Hunter 350
728x150 - Nissan Almera
728x150 - Hunter4
10 อันดับทีมตกชั้นที่เก็บแต้มได้น้อยที่สุดในยุคพรีเมียร์ลีก

        สำหรับสโมสรเล็กๆในวงการฟุตบอลอังกฤษนั้น การเลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นในศึกพรีเมียร์ลีกว่ายากแล้ว แต่การอยู่รอดถือเป็นงานที่ยากกว่ามาก เพราะคุณต้องเผชิญหน้ากับทั้งทีมระดับท็อปอย่างต่ำ 4-5 ทีม, ทีมระดับกลาง รวมถึงทีมระดับเดียวกันที่ต้องแย่งหนีตกชั้น

        ขณะเดียวกัน มันเป็นเรื่องปกติทุกปีที่ในลีกจะต้องมีทีมที่ตกชั้น แต่สิ่งที่แย่ที่สุดคือ 10 ทีมเหล่านี้ได้รับการบันทึกว่า เก็บแต้มได้น้อยที่สุดในลีกสูงสุดเมืองผู้ดี

10. อิปสวิช ทาวน์ (ฤดูกาล 1994/95 เก็บได้ 27 คะแนน ผลต่างประตู -57)

ดูเหมือนว่า อิปสวิช จะมีซีซั่นที่ยอดเยี่ยมหลังจากพวกเขาสร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3-2 ในเดือนกันยายนปี 94 พร้อมกับทำให้การลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกของ “ปีศาจแดง” สั่นสะเทือน แต่ไม่นานหลังจากนั้น “ม้าขาว” ผลงานดิ่งลงเหวจนล่วงไปสู่โซนตกชั้น

บอร์ดบริหาร อิปสวิช ตัดสินใจไล่ จอห์น ลีออล ออกจากตำแหน่งกุนซือพร้อมกับแต่งตั้งอดีตนักเตะของทีมอย่าง พอล ก็อดดาร์ด และ จอร์จ เบอร์ลีย์ ให้เข้ามาคุมทีมแทน และในเดือนมีนาคมปี 95 แมนฯ ยูไนเต็ด ก็กลับมาแก้แค้นคืนด้วยการถล่ม อิปสวิช 9-0 พร้อมกับส่ง “ม้าขาว” ตกชั้นในที่สุด

9. ฟูแล่ม (ฤดูกาล 2018/19 เก็บได้ 26 คะแนน ผลต่างประตู -47)

นี่ไม่ใช่สิ่งที่ควรจะเกิดขึ้นกับ ฟูแล่ม ภายใต้การนำของ สลาวิซ่า โยคาโนวิช โค้ชชาวเซอร์เบีย ซึ่งหลังเลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลดังกล่าวนั้น พวกเขาทุ่มเงินเสริมทัพไปมากถึง 100 ล้านปอนด์

หลังทำผลงานย่ำแย่ โยคาโนวิช โดนตะเพิดออกจากตำแหน่งในเดือนพฤศจิกายน และถูกแทนที่ด้วย เคลาดิโอ รานิเอรี่ เทรนเนอร์ชาวอิตาเลียน อย่างไรก็ตาม ผลงานของ ฟูแล่ม ยังไม่กระเตื้อง โดย รานิเอรี่ พาทีมเก็บชัยในลีกได้เพียง 3 จาก 17 เกมที่เขาคุมทีม

แม้ใน 5 เกมสุดท้ายของซีซั่น ฟูแล่ม จะเก็บชัยชนะได้ถึง 3 เกม แต่สุดท้ายพวกเขาก็ตกชั้นโดยมีแต้มห่างโซนปลอดภัยถึง 10 คะแนนเลยทีเดียว

8. ซันเดอร์แลนด์ (ฤดูกาล 2016/17 เก็บได้ 24 คะแนน ผลต่างประตู -40)

แซม อัลลาร์ไดซ์ อำลาตำแหน่งกุนซือ ซันเดอร์แลนด์ เพื่อไปคุมทีมชาติอังกฤษ และก็เป็น เดวิด มอยส์ ที่เข้ามารับงานต่อในช่วงซัมเมอร์พร้อมกับดึงตัวนักเตะฝีเท้าดีมาร่วมทีมหลายราย อาทิ สตีเว่น พีนาร์, โจลีออน เลสคอตต์, ดาร์รอน กิบสัน และวิคตอร์ อนิเชเบ้

อย่างไรก็ตาม มอยส์ ไม่สามารถทำผลงานได้อย่างที่แฟนบอลคาดหวัง เขาต้องรอจนถึงเดือนพฤศจิกายนถึงจะพา ซันเดอร์แลนด์ เก็บชัยชนะในเกมลีกนัดแรกได้ในเกมกับ บอร์นมัธ และในช่วงสิ้นเดือนเมษายนปี 2017 พลพรรค “แมวดำ” ก็ตกชั้น

7. วัตฟอร์ด (ฤดูกาล 1999/2000 เก็บได้ 24 คะแนน ผลต่างประตู -42)

เกรแฮม เทย์เลอร์ พา วัตฟอร์ด เลื่อนชั้นมาสู่พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จในปีที่ 2 ที่เข้าทำหน้าที่ผู้จัดการทีม แต่การเล่นในลีกสูงสุดมันก็พิสูจน์แล้วว่า มันไม่ใช่เรื่องง่าย ถึงแม้พวกเขาจะลุงทันซื้อนักเตะฝีเท้าดีอย่าง ไฮดาร์ เฮลกูสัน ดาวยิงชาวไอซ์แลนด์ และ นอร์ดิน วูเตอร์ กองกลางชาวดัตช์ มาร่วมทีมก็ตาม 

ในฤดูกาลดังกล่าว วัตฟอร์ด ออกสตาร์ทได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการเอาชนะ ลิเวอร์พูล และ แบรดฟอร์ด ในเดือนสิงหาคมปี ต่อด้วยชนะ เชลซี ในเดือนกันยายน อย่างไรก็ตาม พวกเขาชนะอีกเพียงแค่ 3 เกมตลอดทั้งซีซั่นจนต้องตกชั้นในที่สุด

6. นอริช ซิตี้ (ฤดูกาล 2019/20) เก็บได้ 22 คะแนน ผลต่างประตู -46)

นอริช ก็เป็นอีก 1 ทีมที่ติดอยู่ในทำเนียบนี้ แม้พลพรรค “นกขมิ้นเหลืองอ่อน”ภายใต้การกุมกังเหียนของ ดาเนี่ยล ฟาร์เค่ เทรนเนอร์ชาวเยอรมัน จะมีสไตล์การเล่นที่ตื่นเต้น แต่พวกเขาก็ไม่สามารถรอดพ้นการตกชั้นได้สำเร็จ

นอริช ชุดดังกล่าวมีนักเตะฝีเท้าดีอย่าง เอมิเลียโน บูเอนเดีย ตัวรุกชาวอาร์เจนไตน์ รวมทั้ง 2 ฟูลแบ็คดาวรุ่งอย่าง แม็กซ์ แอรอนส์ และ จามาล ลูอิส แต่พวกเขาก็ไม่สามารถยืนระยะทำผลงานได้ดีขนจบฤดูกาล แต่สิ่งที่แฟนบอลไม่ลืมก็คือ พวกเขาเอาชนะทีมลุ้นแชมป์อย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3-2

5. ซันเดอร์แลนด์ (ฤดูกาล 2002/03 เก็บได้ 19 คะแนน ผลต่างประตู -44)

ในซีซั่นดังกล่าว ซันเดอร์แลนด์ เปลี่ยนผู้จัดการทีมถึง 3 คน ไล่ตั้งแต่ ปีเตอร์ รีด, ฮาวเวิร์ด วิลกินสัน และ มิค แม็คคาร์ธี แต่กุนซือที่กล่าวมาทั้งหมดไม่มีใครสามารถช่วยพลพรรค “แมวดำ” ให้รอดตกชั้นได้เลย

ซันเดอร์แลนด์ ยิงในลีกได้เพียง 21 ประตูตลอดทั้งฤดูกาล และเก็บชัยชนะได้เพียง 4 เกมเท่านั้น รวมถึงสร้างสถิติย่ำแย่แพ้ในพรีเมียร์ลีกติดต่อกันนานถึง 15 เกม

4. แอสตัน วิลล่า (ฤดูกาล 2015/16 เก็บได้ 17 คะแนน ผลต่างประตู -49)

ทิม เชอร์วู้ด ได้เตรียมพร้อมพา วิลล่า หนีการตกชั้นไว้เป็นอย่างดี และแฟนบอลเมืองผู้ดีต่างรอคอยที่จะได้เห็นเขาทำหน้าที่ผู้จัดการทีมเต็มๆฤดูกาลเป็นครั้งแรกในชีวิต แต่ใครจะคิดว่า การที่ “สิงห์ผยอง” สูญเสียนักเตะตัวหลักอย่าง คริสติยอง เบนเตเก้ กองหน้าชาวเบลเยียม และ ฟาเบียน เดล์ฟ กองกลางชาวอังกฤษ จะทำให้พวกเขาเสียศูนย์มากขนาดนี้

เชอร์วู้ด พา วิลล่า ประเดิมนัดแรกได้อย่างสวยหรูด้วยการเอาชนะ บอร์นมัธ แต่หลังจากนั้น เขาพาทีมแพ้ 6 เกมรวดส่งผลให้เจ้าตัวโดนไล่ออกจากตำแหน่ง และ เรมี่ การ์ด โค้ชชาวฝรั่งเศส ก็เข้ามาทำหน้าที่แทน

        การ์ด ทำให้ผลงานของ วิลล่า ดีขึ้นเพียงเล็กน้อย แต่เขาก็พาทีมเก็บชัยชนะได้เพียง 2 จาก 11 เกม และต้องตกชั้นตามระเบียบ

3. ฮัดเดอร์สฟิลด์ (ฤดูกาล 2018/19 เก็บได้ 16 คะแนน ผลต่างประตู -54)

16 คะแนนที่ ฮัดเดอร์สฟิลด์ เก็บได้ในฤดูกาลดังกล่าวมันมาจาก วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ถึง 6 คะแนน และที่แย่ไปกว่านั้นคือ ในช่วงหลังคริสมาสต์พวกเขาเก็บได้เพิ่มอีกเพียง 5 คะแนนเท่านั้น ซึ่งผลงานที่ย่ำแย่มันก็ทำให้ เดวิด วากเนอร์ โค้ชชาวเยอรมัน โดนไล่ออก และ ยาน ซีเวิร์ท กุนซือชาติเดียวกันเข้ามาคุมทีมแทนในเดือนมกราคมปี 2019

ซีเวิร์ท ก็ไม่ได้ทำให้ผลงานของ ฮัดเดอร์สฟิลด์ ดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย ก่อนที่เขาจะพาพลพรรค “เดอะ เทอร์เรียร์ส” ตกชั้นในเดือนมีนาคม

2. ซันเดอร์แลนด์ (ฤดูกาล 2005/06 เก็บได้ 15 คะแนน ผลต่างประตู -43)

คุณจำสถิติการแพ้ในพรีเมียร์ลีก 15 เกมติดต่อกันของ ซันเดอร์แลนด์ เมื่อปี 2002/03 ได้ไหม และการเริ่มต้นฤดูกาล 2005/06 มันก็เลวร้ายเช่นกัน หลังจากที่พลพรรค “แมวดำ” ภายใต้การนำของ มิค แม็คคาร์ธี แพ้รวด 5 ในเกมแรกของซีซั่น

แม็คคาร์ธี ซื้อนักเตะฝีเท้าดีมาเสริมทัพหลายรายอาทิ จอน สตีด, เคลวิน เดวิส และแอนโธนี เลอ ตัลแล็ก แต่การออกสตาร์ทที่ย่ำแย่ส่งผลให้ ซันเดอร์แลนด์ ร่วงไปอยู่ในโซนตกชั้นทันที และต้องตกชั้นด้วยการมีสถิติชนะเพียง 3 เกมตลอดทั้งฤดูกาล

1. ดาร์บี้ เคาน์ตี้ (ฤดูกาล 2007/08 เก็บได้ 11 คะแนน ผลต่างประตู -69)

มันอาจเป็นความสำเร็จที่รวดเร็วเกินไปของ บิลลี่ เดวี่ส์ ที่เข้ามาคุม ดาร์บี้ เมื่อปี 2006 พร้อมกับประกาศว่า จะพาทีมเลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีกให้ได้ภายใน 3 ปี ซึ่งเขาใช้เวลาเพียง 1 ฤดูกาลเท่านั้นที่พา “แกะเขาเหล็ก” ขึ้นมาเล่นในลีกสูงสุด

เดวี่ส์ ดูเหมือนคนที่กำลังสับสนอลหม่าน เขาซื้อนักเตะมาร่วมทีมถึง 10 รายในซัมเมอร์ และเริ่มต้นซีซั่นด้วยการเสอกับ พอร์ทสมัธ จากนั้นแพ้ 4 เกมรวด รวมถึงมีเกมที่แพ้เละเทะต่อ ลิเวอร์พูล 5-0 และ อาร์เซนอล 6-0

หลังจากผลงานอันย่ำแย่ เดวี่ส์ ก็ไล่ออก และแทนที่ด้วย พอล จีเวลล์ แต่ ดาร์บี้ ก็ไม่สามารถรอดพ้นการตกชั้น และทำสถิติเก็บได้เพียง 11 แต้มตลอดฤดูกาล

ภาพประกอบ : fourfourtwo.com, football365.com, watfordobserver.co.uk, thenational.ae, skysports.com

Che Navapun

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save