ต้องบอกว่า Kingdom ซีซัน 2 นี่ช่างมาถูกที่ถูกเวลา เข้าช่วง COVID-19 ระบาดพอดี ยิ่งถ้าใครดูข่าวช่วงนี้มากๆ ยิ่งอินกับซีรีย์ได้ไม่ยากเลย แต่ต่อให้ไม่เกี่ยวกับสถานการณ์ก็ต้องบอกว่าในซีซันที่ 2 นี้ดีงามทั้งเรื่องของบท และลูกเล่น flashback ที่นำมาใช้เล่าเรื่องคลายปมแต่ละเปาะ รวมไปถึงความสัมพันธ์ของแต่ละตัวละคร ที่หลอกล่อคนดูแบบพลิกไปพลิกมาจนคาดเดาไม่ถูกเลยทีเดียว
โดยใน Kingdom 2 เล่าเรื่องต่อจากซีซันแรกแบบไม่มีเท้าความใดๆ ทั้งสิ้นใครที่ดูต่อเนื่องติดกันจะรู้สึกถึงการไร้รอยต่อใดๆ ทั้งสิ้น แต่ใครที่ดูซีซันแรกจบนานแล้วอาจจะต้องมีย้อนกลับไปดูตอนท้ายๆ ของซีซันแรกสักนิดเพื่อทบทวนความทรงจำ
เนื้อเรื่องย่อ
เรื่องราวนี้เกิดขึ้นในยุคโชซอนเมื่อ องค์รัชทายาท อีชาง (รับบทโดย จูจีฮุน) สงสัยถึงอาการป่วยขององค์ราชา แต่ว่าองค์พระมเหสีไม่อนุญาตให้ใคร หรือแม้แต่องค์รัชทายาทเข้าไปในตำหนักของขององค์ราชา องค์รัชทายาทจึงตัดสินใจค้นหาความจริงที่อยู่เบื้องหลังอาการป่วยของพระราชบิดา ในขณะเดียวกันก็ได้พบว่าเกิดโรคประหลาดกำลังแพร่กระจายจนทำให้คนกลายเป็นอสูรกาย พระองค์จึงร่วมมือกับ หมอหญิง ซอบี (รับบทโดย แบดูนา) ที่คอยช่วยเหลือชาวบ้านจากโรคระบาดครั้งนี้
ซึ่งโรคระบาด และการเมืองในครั้งนี้ล้วนเป็นที่มาเดียวกันจากการชักใยเบื้องหลังของอัครเสนบดี โจฮักจู (รับบทโดย รยูซึงรยง) ที่หวังในการครอบครองอำนาจเหนือบัลลังก์นั่นเอง
โดยในซีซันที่ 2 นั้น ยิ่งทวีการหักเหลี่ยมในการเมืองมากยิ่งขึ้นไปอีก จนจบตอนต้องอยากดูต่อทันที ซึ่งในซีซันนี้ทั้งหมดมีเพียง 6 ตอนเท่านั้น ใช้เวลาตั้งแต่ ep1 – 6 ประมาณ 5 ชั่วโมงกว่าๆ ตัวละครแต่ละตัวถูกนำมาใช้อย่างคุ้มค่าในการเฉลยปมในแต่ละตอน
แถมดูไปแต่ละตอนองค์รัชทายาทก็มี Quote เด็ดๆ ออกมาสตั้นคนดูเสมอ
“โทษของกลุ่มแฮวอนโจนั้นหนักหนา กดขี่ราษฎรจนผู้คนตกอยู่ในความอดอยาก ความโลภของกลุ่มแฮวอนโจทำให้เกิดโรคระบาดน่าขนลุกนี้ขึ้น จงเปิดหูเปิดตาของพวกเจ้า รับฟังเสียงของราษฎร มองภาพอันสยดสยองของแผ่นดินนี้ ถึงเวลาต้องเลือกหนทางที่ถูกต้องแล้ว”
หรือ ในตอนที่ อัครเสนบดี โจฮักจู ต้องการจะเก็บรัชทายาทก็มีประโยคเด็ดที่พูดกับเหล่าขุนนางฝ่ายบริหารในวังว่า
“มีดของพวกมันจ่อคอพวกเราอยู่ ต้องลงโทษให้เร็วที่สุดเพื่อสร้างระเบียบให้กับแผ่นดินนี้”
ในสถานการณ์ที่โรคระบาดเลวร้ายเข้ามาใกล้เมือง อัครเสนบดียังคงอ้างเรื่อง ‘ความสงบ’ มาสร้างวาทกรรมที่จะสร้างความชอบธรรมในการกำจัดฝ่ายตรงข้าม เพื่อรักษาอำนาจของตัวเองอยู่
เรียกว่าตัวละครทั้งสองนี้ เปรียบเทียบให้เราเห็นภาวะผู้นำในการใช้อำนาจในการปกครองคนได้อย่างดีทีเดียว รัชทายาทอีชาง เป็นผู้นำที่พูดน้อย เน้นลงมือทำ วางแผนการต่างๆ เพื่อช่วยเหลือชาวบ้าน (และวิ่งหนีผี) ส่วน อัครเสนบดีโจฮักจู ใช้อำนาจเบ็ดเสร็จ กับกองกำลังติดอาวุธเข้าข่มขู่ขุนนางคนอื่นๆ ให้ทำตามที่ตนต้องการ
ซึ่งในซีซันนี้จะมีการเผยปริศนาที่ค้างคาตั้งแต่ซีซัน 1 ว่า ยองชิน (รับบทโดย คิมซองกยู) บุรุษปริศนาที่เข้าร่วมการเดินทางของรัชทายาทครั้งนี้มีที่มาอย่างไร, อาจารย์อันฮยอน (รับบทโดย ฮอจุนโฮ) ตัวละครใหม่ของซีซัน 2 วีรบุรุษสงครามผู้ชนะทหารญี่ปุ่นหมื่นนายด้วยกองทัพเพียงห้าร้อยคน รวมไปถึงที่มาของโรคระบาดครั้งนี้ ที่ถ้าดูถึงตอนจบซีซันสอง จะมีการเปิดเผยตัวละครใหม่กระตุ้นให้เราอยากดูซีซันที่ 3 เข้าไปอีก
สุดท้ายนี้อีกสิ่งที่เราได้จาก Kingdom 2 นั้นคงหนีไม่พ้นเรื่องวิธีคิด วิธีการจัดการกับปัญหาของผู้นำที่แท้จริง ที่จะพาประชาชนให้พ้นภัย การบริหารคนจัดไปอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง ไปถึงการเสียสละเพื่อให้คนส่วนใหญ่รอดพ้นจากอันตรายในยามขับคัน เพราะถ้าได้ผู้นำโง่ชาวโชซอนคงตายกันหมด
เปิดวาร์ป | คิมฮเยจุน พระมเหสีโจ ความงามเบื้องหน้าซอมบี้แห่งซีรีส์ KINGDOM