ย้อนกลับไปหลายปีก่อน หากจะพูดถึงภาพยนตร์จากเกม แฟนๆ ทุกคนก็ต้องพากันเบือนหน้าหนีกันทั้งสิ้นเพราะว่ากระแสตอบรับและคุณภาพในด้านของเนื้อเรื่องมักจะต่ำกว่าที่แฟนๆ คาดหวังแทบทุกเรื่อง แต่แล้วการมาถึง ‘Pokémon: Detective Pikachu โปเกมอน ยอดนักสืบพิคาชู’ ในปี 2019 ก็ทำให้ทุกคนลืมภาพจำเหล่านั้นทั้งหมดพร้อมฟาดรายได้ชนิดที่ว่าคืนทุนสร้างรับทรัพย์กันถ้วนหน้า ส่วนกระแสตอบรับก็แน่นอนว่าดีแบบผิดคาดเลยทีเดียว
ล่าสุด มีรายงานจาก Box Office ว่า Sonic the Hedgehog สามารถทำยอดเปิดตัวได้ถึง 57 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (1.7 พันล้านบาท) ซึ่งตัวเลขดังกล่าวก็เป็นการทำลายสถิติเดิมที่ 54.3 ล้านเหรียญของ Pokémon: Detective Pikachu ไปได้อย่างสวยงามในระยะเวลา 3 วัน ขึ้นแท่นภาพยนตร์หมวดวิดิโอเกมที่ทำรายได้เปิดตัวสูงสุดตลอดกาลเรื่องใหม่ โดยหลายคนมองว่าอาถรรพ์ของหนังประเภทนี้อาจจะถูกลบล้างไปได้เรียบร้อยแล้ว
สิ่งที่เจ๋งยิ่งไปกว่านั้นก็คือ หากยังจำกันได้ Sonic the Hedgehog เปิดตัวครั้งแรกในช่วงกลางปีที่ผ่านมาก่อนที่จะถูกแฟนเกมถล่มด้วยหน้าตาอันแปลกประหลาดของโมเดลเจ้าเม่น Sonic จนทาง Paramount Pictures และผู้กำกับถึงกับยกธงขาวยอมแก้ไขหน้าตาของมันพร้อมประกาศเลื่อนการเข้าฉายไปอีก 3 เดือน และแล้วในที่สุดเมื่อมีการเข็นตัวอย่างใหม่ออกมา เสียงตอบรับก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าคุ้มค่าเสียเวลาทุกบาททุกสตางค์
ดีไซน์เก่าของ Sonic
ในแง่ของรายได้จากประเทศอื่นทั่วโลกก็จะอยู่ที่ 43 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อรวมเข้ากันแล้วก็จะได้ที่ 100 ล้านดอลลาร์กันพอดิบดี เห็นแบบนี้แล้ว Paramount Pictures ก็คงยิ้มไม่หุบอย่างแน่นอน แถมบางทีเราอาจจะมีลุ้นการพัฒนาภาคต่อในอนาคตอีกด้วยครับ แต่สำหรับคนไทยก็ไม่ต้องน้อยใจไปเพราะว่า ‘Sonic the Hedgehog โซนิค เดอะ เฮ็ดจ์ฮอก’ จะมีกำหนดเข้าฉายในประเทศไทยภายในวันที่ 27 กุมภาพันธ์นี้ แฟนๆ ที่กำลังรอคอยไม่ควรพลาดด้วยเหตุประการใดทั้งปวง
เรื่องราวใน Sonic the Hedgehog โซนิค เดอะ เฮ็ดจ์ฮอก จะเกี่ยวข้องกับการผจญภัยของ Sonic เจ้าเม่นสุดเท่และนายอำเภอหนุ่ม Tom Wachowski (รับบทโดย James Marsden) ในการต่อกรกับวายร้าย Dr. Robotnik (รับบทโดย Jim Carrey) เพื่อไม่ให้โลกตกอยู่ในเงื้อมมือสุดโฉด พร้อมกับศึกษาสังคมมนุษย์อย่างที่ตัวเองไม่เคยได้เคยพบเจอมาก่อนด้วย ซึ่ง Sonic จะให้เสียงพากย์โดย Ben Schwartz นักพากย์ที่เคยฝากผลงานไว้กับ Turbo และ The Lego Movie 2: The Second Part
ที่มา – ThisIsGame