พรีเมียร์ลีกยังคงเดินหน้าเตะต่อเนื่องกันใน Gameweek 23 ในสุดสัปดาห์ที่จะถึงนี้ โดยนอกเหนือจากคู่ “แดงเดือด” ที่จะเตะปิดท้ายในดึกวันอาทิตย์ ยังมีคู่อื่นที่น่าสนใจอีกหลายคู่ซึ่งเราควรจะต้องจับตาดูให้ดี

Gameweek 22 ที่ผ่านมา สิ่งที่น่าสนใจคือการกลับมาถล่มประตูของ “เรือใบสีฟ้า” โดยเฉพาะศูนย์หน้าระดับเกรด S อย่างกุน อเกวโร่ ที่เรียกความสนใจจากชาวแฟนตาซีได้มาก เช่นเดียวกับทีมรองบ่อนที่คนเคยมองข้าม ทั้งวัตฟอร์ด, เอฟเวอร์ตัน, เซาธ์แธมป์ตัน ที่เริ่มทำผลงานดีต่อเนื่อง

สิ่งที่ต้องจับตาอีกอย่างคือ Gameweek 24 ที่จะเล่นกันช่วงปลายเดือน เพราะจะมี “แมทช์เตะเบิ้ล” ของลิเวอร์พูล และเวสต์แฮม ซึ่งทำให้นักเตะทั้ง 2 ทีมน่าเลือกเข้าทีมขึ้นมาโดยปริยาย ใครที่เล็งปรับทีมให้พร้อม การจัดทัพ Gameweek 23 ก็ควรจะสอดคล้องกันไปด้วย

แต่ก่อนจะไปแนะนำว่านักเตะคนไหนน่าเลือก แผนวางตัวสำหรับนัดที่มีทีมเตะเบิ้ลจะเป็นยังไง เราไปสรุปผลนัดที่ผ่านมากันก่อนดีกว่า

สรุปผลประกอบการ

คะแนน Gameweek 22 : 65 คะแนน
คะแนนรวม : 1,291 คะแนน

อันดับรวม : 71,686 (ขึ้นมาจาก 83,330)
อันดับชาวไทย : 518 (ขึ้นมาจาก 634)
อันดับ The.Macho League : 40 (ขึ้นมาจาก 49)

ทีเด็ดที่สุดหนีไม่พ้นความไว้วางใจในตัวของแรชฟอร์ด ที่ตอบแทนด้วย 2 ประตู แม้จะโดนเปลี่ยนตัวออกไปพักก่อนนาทีที่ 60 จนแต้มหล่นหายไป แต่ก็ทำคะแนนในฐานะกัปตันได้ 24 คะแนนเลย

แผงหลังของเชฟฯ ยู ยังคงทำผลงานได้ดี ช่วยเพิ่มคะแนน 12 แต้มให้ทีม เช่นเดียวกับเทรนท์ที่อยู่ในช่วงฟอร์มพีคของแผงหลังลิเวอร์พูล เก็บคลีนชีตได้ 6 นัดติด

อย่างไรก็ดี ตัวเลือกอื่นๆ ที่ทำให้สั่นคลอน ก็คงเป็นเหล่านักเตะเลสเตอร์ที่แต้มไม่มาอย่างที่คิด เช่นเดียวกับตัวเลือกแหวกแนวอย่างเดโลเฟว ที่แม้ทีมจะยิง 3 เม็ด แต่พี่แกไม่ไปแจมกับเขาเลย

Gameweek 23 : วิเคราะห์ทีเด็ด

ผู้รักษาประตู

อเล็กซ์ แม็คคาร์ธี่ย์ (เซาธ์แธมป์ตัน / 4.3 ล้านปอนด์)

ผู้รักษาประตูร่างโย่ง เริ่มเป็นที่สนใจของเหล่ากุนซือแฟนตาซี ด้วยฟอร์มทีมของเซาธ์แธมป์ตันที่ดีขึ้นในระยะหลัง แม้เขาจะพึ่งรักษาคลีนชีตได้แค่ 2 นัด นับตั้งแต่ยึดมือ 1 มาจากแองกัส กันน์ แต่ก็มีจำนวนเซฟต่อเกมที่ค่อนข้างโอเค

โปรแกรมของ “นักบุญ” ถือว่าน่าสนใจ เพราะถึงพวกเขาจะไม่ได้เหนียวแน่นอะไร แต่ 8 นัดข้างหน้า พวกเขามีเจอทีมใหญ่แค่นัดเดียว แม็คคาร์ธี่ย์จึงเป็นตัวเลือกที่ควรดึงเข้าทีม หากต้องการประหยัดงบ แถมยังคาดหวังคะแนนได้

แมตต์ ไรอัน (ไบรท์ตัน / 4.8 ล้านปอนด์)

อีกหนึ่งทีมที่มีโปรแกรมน่าเลือกในช่วงนี้ หนีไม่พ้นไบรท์ตัน ที่จะมีเกมที่ไม่ต้องเจอ Top 6 อีกยาวๆ 7 เกม โดยเฉพาะกับไรอัน ที่มีจำนวนเซฟทั้งหมดครบ 80 ครั้งไปแล้ว คิดเป็นค่าเฉลี่ยก็ 3.6 ครั้งต่อเกม เลยทีเดียว

สถานการณ์ของ “เจ้านกนางนวล” ยังไม่ถึงกับดีนัก โดยพวกเขาอยู่ห่างโซนตกชั้นแค่เพียง 3 คะแนน จนต้องเริ่มเน้นมากขึ้นในช่วงที่โปรแกรมการแข่งขันไม่หนักอย่างช่วงนี้ จึงไม่แปลกที่ไรอันจะได้รับความนิยม และราคาอาจจะขยับขึ้นเรื่อยๆ

กองหลัง

เวอร์จิล ฟาน ไดค์ (ลิเวอร์พูล / 6.4 ล้านปอนด์)

เชื่อว่ากุนซือส่วนใหญ่ คงจะมีนักเตะ “หงส์แดง” อยู่ในทีมแน่ๆ 2 คน คนแรกน่าจะเป็นตัวรุกอย่างมาเน่หรือซาล่าห์ ส่วนอีกตัวน่าจะเป็นแบ็คจอมบุกอย่างเทรนท์ และด้วยโปรแกรมเตะเบิ้ลใน Gameweek 24 เชื่อว่าหลายคนคงมองหาตัวที่ 3 เข้าไปเพิ่มเติม

แม้ทิศทางจะมองไปที่ตัวอื่นอย่าง อลิสซง, โกเมซ หรือฟิร์มิโน่ แต่อยากให้ลองมองอีกทางเลือกอย่างฟาน ไดค์ ที่การันตีว่าลงตัวจริงแน่นอนในทุกนัด แถมลูกเซ็ตเพลย์ต่างๆ ของลิเวอร์พูล ก็มักจะมีเขาเป็นเป้าหมายหลักให้ได้ลุ้นอีกด้วย

เคร็ก แคทคาร์ธ (วัตฟอร์ด / 4.3 ล้านปอนด์)

เข้าใจว่าหลายคนน่าจะเริ่มขยับหากองหลังราคาถูกกันใหม่บ้างแล้ว หลังริโก้ ของบอร์นมัธ และเคลลี่ ของพาเลซ เริ่มไม่ผลิตแต้มอย่างต้องการ เราเลยอยากแนะนำกองหลังราคาใกล้เคียง ที่ฟอร์มการเล่นในช่วงนี้ค่อนข้างสม่ำเสมอ

กองหลังคนนั้นคือแคทคาร์ธ เพราะอย่างที่ทุกคนทราบดีว่าฟอร์มของวัตฟอร์ดในช่วงนี้ จัดว่าพร้อมสู้กับทุกทีม และหากมองดูในแผงรับแล้ว ตัวเขามักจะถูกเลือกเป็นตัวหลัก จากการยืนระยะเป็นตัวจริงอย่างต่อเนื่อง มาตั้งแต่ Gameweek 12 นู่น

กองกลาง

ริชาร์ลิสัน (เอฟเวอร์ตัน / 8.1 ล้านปอนด์)

แนวรุกทีมชาติบราซิล การันตีตัวจริงสม่ำเสมออยู่แล้ว แถมช่วงนี้ฟอร์มการเล่นทั้งส่วนตัว และของทีม ก็ดูมั่นใจขึ้นเยอะ ยิ่งทำให้เขาเป็นอีกตัวเลือกยอดนิยม ที่กุนซือหลายคนเริ่มเอาเข้าสู่ทีม

มองที่ผลงาน ริชาร์ลิสันในซีซั่นนี้ ยิงไปแล้ว 8 ประตู กับ 4 แอสซิสต์ เป็นกลไกสำคัญในเกมรุกของ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” ยิ่งกับ 4 เกมข้างหน้า ที่โปรแกรมค่อนข้างเบา ถือเป็นโอกาสรีบโกยแต้ม ก่อนจะเจอศึกหนักติดๆ กัน หลังจากนั้น

ริยาด มาห์เรซ (แมนฯ ซิตี้ / 8.5 ล้านปอนด์)

อีกหนึ่งมิดฟิลด์ตัวฮ็อต ที่เริ่มถูกจับตามองมากขึ้นในช่วง 2-3 นัดหลัง เพราะถ้านับดูการจัดทีมของเป๊บในลีก สตาร์ชาวอัลจีเรีย ลงเล่นเป็นตัวจริง 4 จาก 5 นัดหลังสุด และทำไปถึง 3 ประตู 3 แอสซิสต์

ฟอร์มการเล่นที่ดูมั่นใจ และมีบอลจังหวะสุดท้ายที่น่ากลัวสม่ำเสมอ ถือเป็นอาวุธเด็ดของเจ้าตัว ยังไม่รวมพวกเซ็ตพีซ หรือการเล่นฟรีคิกที่เขามักจะรับเหมา หากเข้าเหลี่ยมเท้าซ้ายข้างถนัด ราคา 8.5 ล้านปอนด์จึงดูคุ้มค่ามาก หากคุณอยากจะลองวัดใจกับการจัดทีมของเป๊บ ดูซักตั้ง

กองหน้า

แดนนี่ อิงส์ (เซาธ์แธมป์ตัน / 6.8 ล้านปอนด์)

กลายเป็นตัวยอดนิยมในระยะหลัง จากฟอร์มเด็ดที่กลับมายิงติดต่อกัน 3 นัดหลังสุด ทำสถิติยิงประตูได้ถึง 9 จาก 10 นัดหลังสุด ที่แกลงเป็นตัวจริง! เรียกได้ว่าเป็นเดอะ แบกคนสำคัญของ “นักบุญ” และเมื่อดูจากโปรแกรมข้างหน้า 8-10 นัด โอกาสจะผลิตสกอร์เพิ่ม ก็มีไม่น้อย

จุดเด่นสำคัญของอิงส์ในซีซั่นนี้ นอกจากการสลัดอาการบาดเจ็บ จนลงสนามให้เซาธ์แธมป์ตัน เกือบจะครบทุกนัด เรื่องของการจบสกอร์ ถือว่ามีความเฉียบคม จนเริ่มมีกระแสให้เซาธ์เกต หันมามองเขาเป็นอีก 1 ตัวเลือกในทีมชาติอังกฤษ โดยเฉพาะเมื่อคัลลั่ม วิลสัน ยังคงเท้าบอดไม่หาย

นีอาล เมาเพย์ (ไบรท์ตัน / 5.9 ล้านปอนด์)

เมาเพย์ กองหน้าจอมขยัน กลับมาอยู่ในโฟกัสของเหล่ากุนซือ เพราะโปรแกรมของไบรท์ตันค่อนข้างเบาในอีก 7 นัดข้างหน้า แม้ดาวเตะเลือดน้ำหอมรายนี้ จะยิงประตูไม่ได้มานาน 5 นัด แล้วก็ตาม

อีกเงื่อนไขสำคัญที่ทำให้เมาเพย์ ได้รับความนิยม คือราคาของเขาค่อนข้างย่อมเยา เป็นทางเลือกที่ดีในการหาแนวรุกราคาถูก หรือใครที่อยากปรับเอากองหน้าราคากลางๆ ออก เลือกเขา เพื่อหมุนเอางบประมาณไปใช้กับตำแหน่งอื่น ก็ดูเป็นการเสี่ยงที่เข้าท่า

จัดทีม วัดใจ

หลังดอง Free Transfer ไว้จาก Gameweek ที่แล้ว ทำให้เราสามารถเปลี่ยนตัวได้ถึง 2 ตำแหน่ง ก็ต้องเริ่มต้นจากการลองเซ็ตทีมที่มีในมือซะก่อน ว่าจะปรับตรงไหนบ้างดี

ปัญหาสำคัญอยู่ที่แนวรับแน่นอน เริ่มจากผู้รักษาประตู ที่ทั้งโป๊บ และเฮนเดอร์สัน จะเจอโปรแกรมโหดพร้อมกัน โดยเฉพาะนายด่านจากเบิร์นลี่ย์ ที่จะเจอทีมหินรัวๆ

เขยิบมาดูที่กองหลัง ริโก้ก็เริ่มโดนถอดไปเป็นสำรอง แถมฟอร์มบอร์นมัธก็ยังโงนเงนไม่ฟื้น โซยุนคูก็เริ่มเจอปัญหาฟอร์มทีมไม่นิ่ง ส่วนจะฝากความหวังกับเคลลี่ หรือลุนด์สตรัมทุกนัด ก็ดูจะไม่เข้าท่าเข้าที

เทียบขึ้นไปในแดนกลาง และแดนหน้า แม้จะมีนักเตะฟอร์มไม่สม่ำเสมออย่าง แมดดิสัน, เดโลเฟว, มอย แต่โดยรวมยังดูดีกว่าแผงรับ ซึ่งดูจะเป็นปัญหาเร่งด่วนกว่า

นอกเหนือจากปัจจัยที่ว่ามา การที่ Gameweek 24 ลิเวอร์พูลจะมีเตะเบิ้ล ยิ่งควรหาลู่ทางจะดึงนักเตะหงส์แดงคนที่ 3 เข้าสู่ทีม ซึ่งทางเลือกที่น่าจะเป็นไปได้ คือการนำเข้าอลิสซง หรือฟิร์มิโน่ เข้ามา โดยทางเลือกหลัง มีข้อเสียอยู่หน่อย ตรงที่ต้องแลกกับแรชฟอร์ด ที่ฟอร์มค่อนข้างดีสม่ำเสมอ

สุดท้ายจากปัจจัยทั้งหมด เลยเลือกลองปรับเอาอลิสซงเข้ามา เพราะการันตีตำแหน่งตัวจริง และฟอร์มส่วนตัวก็เข้าที่เข้าทางแล้ว ส่วนอีกจุด ถอดจุดอ่อนอย่างริโก้ และใส่เว็บสเตอร์ ที่โปรแกรมค่อนข้างดีเข้าไป เพราะตัวเลือกอื่นในเพดานราคา 4.6 ล้านปอนด์ ไม่ค่อยเวิร์คเท่าไหร่

พอตัดสินใจเด็ดขาดปุ๊บ ก็เปลี่ยน 2 ตัวซะเลย เพราะทั้งลิเวอร์พูล และไบรท์ตันไม่ต้องลงเล่นเอฟเอ คัพ นัดรีเพลย์ การจัดทีมเลยออกมาหน้าตาแบบนี้ก่อน

จุดที่จะตัดสินใจอีกที คงเป็นแค่การเลือกกัปตันทีม และการเลือกแรชฟอร์ด หรือเดโลเฟวลงเป็น 11 ตัวจริง ซึ่งทั้งหมดทั้งมวล คงจะเลือกในช่วงปลายสัปดาห์ และจะอัพเดทให้ทราบที่ช่องทางเดิมของเรา
กลุ่มแชท ใน LINE OpenChat >> คลิกเลย <<
กลุ่ม facebook >> คลิกเลย <<

สิ่งน่าสนใจใน Double Gameweek

เพิ่มเติมนิดหน่อย ถึง “Double Gameweek” หรือ Gameweek ที่จะมีทีมลงเล่นมากกว่า 1 นัด แบบ Gameweek 24 ที่เราทราบกันแล้วว่า ลิเวอร์พูลกับเวสต์แฮม จะมีเกมลงเล่นถึง 2 นัด

อย่าเลือกตัวแค่ระยะสั้น

ข้อนี้สำคัญมาก เพราะใช่ว่าการมีโปรแกรมลงเล่น 2 นัด จะทำแต้มให้เราแบบทวีคูณเสมอไป เรื่องแรกที่ต้องระวัง คือการโรเตชั่น อีกเรื่องนึงคือโปรแกรมที่เจออาจจะหนัก ดังนั้นแล้ว หากเราจะเลือกตัวที่เตะเบิ้ลเข้าทีม เราควรมองโปรแกรมในระยะไกลด้วย เพื่อให้นักเตะที่เอาเข้ามา ใช้งานได้คุ้มค่าที่สุด ไม่ต้องเสียโควต้าเปลี่ยนออก ในระยะเวลาอันสั้น

การใช้ตัวช่วย

คาดว่าหลายคนคงเล็งจะใช้ Triple Captain หรือ Free Hit เพื่อรองรับ Gameweek แบบนี้ ซึ่งอยากจะขอเตือนว่าคิดดูให้ดี เอาให้แน่ใจว่า ว่าการใช้ตัวเลือกของคุณนั้นคุ้มค่า

ตัวช่วยที่อาจจะไม่คุ้มค่านัก น่าจะเป็น Free Hit เพราะอย่าลืมว่าจะมี Gameweek ช่วงท้ายๆ ที่มีทีมลงเล่นไม่ครบ การใช้ Free Hit ตรงนั้นอาจจะคุ้มค่ากว่า เช่นเดียวกับ Bench Boost ที่อาจจะเหมาะใช้กับ Double Gameweek ที่มีหลายทีม มากกว่าแค่ 2 ทีมแบบ Gameweek 24

ส่วน Triple Captain อันนี้คงแล้วแต่ความมั่นใจส่วนบุคคล ถ้าไตร่ตรองดีแล้ว ก็ถือเป็นโอกาสดีที่จะเลือกฟันธงใช้เลย

Double Gameweek ไม่ได้มีหนเดียว

ตรงนี้เตือนกันไว้ก่อน เพราะโปรแกรมของคาราบาว คัพ นัดชิง และเอฟเอ คัพ ตั้งแต่รอบ 8 ทีมเป็นต้นไป จะทำให้เกิด Double Gameweek และ Blank Gameweek (มีทีมเตะไม่ครบ) อีก ดังนั้นอาจจะต้องคิดเผื่อตอนนั้นด้วย ว่าใช้ตัวช่วยเลยตอนนี้จะคุ้มกว่ารึป่าว

The.Macho League

การลุ้นแชมป์เดือน ม.ค. ทวีความเข้มข้นขึ้น ยิ่งนักเตะตัวหลักเข้าเป้ากันเยอะ แต้มเลยค่อนข้างสูง โดยเฉพาะ “OSK113” ที่ได้ทีเด็ดจากกัปตันกุน อเกวโร่ โกยถึง 91 แต้ม แซงขึ้นมานำจ่าฝูงเป็นที่เรียบร้อย

นอกเหนือจากกุนที่ซิวแต้มให้ “OSK113” ถึง 40 แต้ม นักเตะ 2 ตัวที่มีคนเลือกน้อยลงในระยะหลังทั้ง ดีญ และอับราฮัม ก็มาเข้าเป้าพร้อมกัน บวกกับซาล่าห์, เทรนท์, มูตินโญ่ แต้มเลยสูงอย่างที่เห็น

ด้านอันดับคะแนนรวม “Harry Queue” ยังเหนียวเรียกพี่ ครองจ่าฝูงอีก Gameweek หลังทำได้ 75 คะแนน โดยมีตัวทำแต้มหลักจากริชาร์ลิสัน, แรชฟอร์ด และกัปตันเด บรอยน์ นำจ่าฝูงเฉียดฉิวแค่ 2 คะแนน

The.Macho Cup

15 กุนซือที่เหลือรอดหลังผ่าน Gameweek 21 ต้องมีอันกระเด็นตกรอบไปอีกเกือบครึ่ง หลังผ่าน Gameweek 22 โดยเหลือกุนซือที่ลุ้นเป็นสุดยอดแชมป์บอลถ้วยแค่เพียง 8 คนเท่านั้น

สังเกตเห็นว่านอกจากฝีไม้ลายมือแล้ว เรื่องโชคดวงในการประกบคู่ ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เราจึงได้เห็นกุนซือที่ได้ 57 คะแนนก็เข้ารอบ ขณะที่บางราย เก็บได้ 64 คะแนน แต่ตกรอบไปซะอย่างนั้น

สำหรับ Gameweek 23 ที่จะกลับมาเตะกันในวันเสาร์-อาทิตย์นี้ อย่าลืมว่าเป็นการเตรียมตัวครั้งสำคัญสำหรับ Gameweek 24 ที่มีโปรแกรมเบิ้ลเป็นครั้งแรกของซีซั่นด้วย การวางแผนล่วงหน้าในสุดสัปดาห์นี้ จึงมีความสำคัญมาก

นอกจากศึกแฟนตาซีที่เข้มข้นแล้ว ห้ามลืมว่าสุดสัปดาห์นี้จะมีศึก “แดงเดือด” ลงดวลแข้งกันด้วย ใครที่อยากอ่านเรื่องราวที่มาของความเกลียดชัง, จุดห้ำหั่นกันในด้านฟุตบอล รวมถึงเกร็ดน่าสนใจของทั้ง 2 ทีมซึ่งมีแฟนบอลมากที่สุดในโลก ก็เชิญอ่านบทความที่ผมเขียนไว้ >> คลิกตรงนี้ได้เลย <<

Picture : Fantasy Premier League, FBC News, Yahoo Sport UK, FootballFanCast, 90Min, ESPN, Standard, Premier League, Goal.com, ClubCall, Zimbio, Experience Sport!, Football Addict