เมื่อประมาณปีกว่าๆที่แล้วของเมืองไทยมีเหตุการณ์ใหญ่ที่เรียกว่าเป็นความสนใจของคนทั่วโลกก็ว่าได้ นั่นคือ การช่วยเหลือทีมฟุตบอลหมูป่ากับโค้ชทีม (รวม 13 ชีวิต) ในถ้ำนางนอน ที่ไม่สามารถออกมาได้เพราะน้ำท่วมปิดทาง ซึ่งตัวผมเองก็ได้ติดตามข้อมูลเหตุการณ์นี้พร้อมทั้งเอาใจช่วยทีมงานทุกคนให้ช่วยเหลือให้ได้ แม้ตอนแรกจะไม่คิดว่ามันจะเป็นภารกิจที่ยากอะไร น่าจะไม่กี่วันจบ แต่กลับกลายเป็นเหตุการณ์ใหญ่ที่ระดับทั่วโลกเอาใจช่วยเลยแหละ มันเป็นภารกิจที่ยากและท้าทายกับชีวิตมากๆ จึงไม่แปลกที่จุดจบของเรื่องนี้แทบจะเรียกว่าเป็นปาฎิหารย์ก็ว่าได้

ซึ่งพอจบเรื่องราวทุกอย่างก็ได้มีการติดต่อขอซื้อลิขสิทธิ์เพื่อไปสร้างหนังที่ใช้คำว่า base on true story และถ้าผมเข้าใจไม่ผิด เรื่อง The Cave คือหนังที่ได้สิทธิ์ในการเล่าเนื้อหาจากฝั่งมุมมองทีมงานชาวต่างชาติ และเวอร์ชั่น Netflix จะเล่ามุมมองของฝั่งทางไทยและทีมหมูป่า(ไม่รู้ออกตอนไหน)

สำหรับ The Cave นางนอน ที่เล่าเหตุการณ์นี้จากมุมมองทีมงานชาวต่างชาติที่ได้มาประสบพบเจอ มันก็มีทั้งดีและไม่ดีนะ โดยส่วนที่ดีคือ ทำให้เราได้รู้ว่า ชาวต่างประเทศที่เค้าเข้ามาช่วยเหลือเราเนี่ย เค้าต้องลำบากไหม เค้าต้องมาเจออะไรที่ไทย และเค้าเสี่ยงชีวิตแค่ไหน เค้าเหนื่อยไหม ฯลฯ ซึ่งดราม่าที่เป็นกระแสกันตอนนี้ ก็เกิดจากการเล่าเรื่องราวพวกนี้นี่แหละ ถึงแม้มันจะเป็นความจริง แต่มันก็ทำให้ภาพลักษณ์ไทยเราบางส่วนดูเสียหายและตลก (แต่ตัวผมชอบนะ และเชื่อว่าความจริงก็เป็นแบบในหนังนั้นแหละ ควรนำเสนอ เอาให้หน้าแหกเขินอายกันไปเลย แล้วเก็บไปปรับปรุงตัวกันซะใหม่) และข้อมูลพวกนี้ไม่ค่อยจะได้รู้ตอนตามเรื่องราวสดๆ เท่าไร เพราะสื่อไทยนำเสนอของฝั่งไทยมากกว่า

ส่วนข้อเสียคือ เราแทบจะรู้จักหรือรู้สึกร่วมกับทีมน้องๆหมูป่าได้น้อยมากในเรื่อง เราไม่ผูกพันหรืออยากเอาใจช่วย หรือรู้สึกว่าน้องๆลำบากเท่าไร และไม่ได้รู้เรื่องราวว่าน้องๆทำไรบ้างในถ้ำนั้น(มากไปกว่าข้อมูลที่เคยมีบอก) พอมันไม่ผูกพัน การลุ้นเอาใจช่วยมันก็น้อยลง

ในแง่ความเป็นหนัง เรื่องนี้ถือว่าไม่กลมกล่อมเท่าไร แต่ละซีนดูไม่ค่อยต่อเนื่อง เหมือนจับยัดนู้นนี่เข้ามาให้มันครบๆ การเล่าลำดับเหตุการณ์ที่น่าจะลงลึกรายละเอียดหน่อยก็เล่าผ่านไปอย่างไว ควรให้คนดูเห็นภาพว่าถ้ำมันเป็นยังไง ภารกิจนี้มันยากแค่ไหน มัน “เป็นไปไม่ได้” ขนาดไหน คนดูจะได้อินยิ่งขึ้น แต่นี้ขนาดผมเสพย์ข้อมูลตอนช่วงเกิดเหตุเยอะจนเข้าใจพอตัวละนะ มาดูหนังเรื่องนี้ยังมองไม่ค่อยเห็นภาพเลย นอกจากถ้ำมืดๆ น้ำขุ่นๆ ก็ไม่รู้อินกับภารกิจเลย

ถึงแม้ในส่วนของความตื่นเต้นระทึกใจจะสอบตก แต่ในส่วนของธารน้ำใจของความช่วยเหลือ นี้สอบผ่านแบบสุดๆ หนังเรื่องนี้เล่าเรื่องของน้ำใจทั้งคนไทยและชาวต่างชาติได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะชาวบ้านคนไทยที่บอกตรงๆว่า เรียกน้ำตาได้เลยแหละ มันทำให้นึกถึงไปในช่วงอารมณ์ตอนเกิดเหตุว่ารู้สึกยังไง ถ้ามีโอกาสได้เจอคุณพี่เจ้าของเครื่องสูบน้ำ จะอยากขอจับมือแน่นๆ ซักที และก็บรรดานักดำน้ำจากสารพัดประเทศที่มาช่วยเหลือ มาเสี่ยงชีวิตโดยแท้

กล่าวโดยสรุปแล้ว นางนอน ก็เป็นหนังที่ดูได้เรื่อยๆ เข้าใจในเรื่องราวหลักๆ แต่รายละเอียดปลีกย่อยใส่มาไม่เนียนเหมือนจับยัด เลยทำให้การดูหนังไม่รู้สึกว่าลื่นไหล รายละเอียดนภารกิจก็อธิบายมาน้อยไป การดึงคนดูให้มีอารมณ์อินไปกับภารกิจทำได้ไม่ค่อยดี แต่ในแง่การนำเสนอน้ำใจ การช่วยเหลือจากทุกสารทิศ ทำได้ดีมาก และดนตรีประกอบก็เพราะทีเดียว

ปล. ซึ่งเอาตรงๆถ้าเหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดที่ไทย แต่เป็นเรื่องราวประเทศอื่น เรื่องนี้ถือว่าสอบตกในแง่หนังแนวๆ นี้เลยนะ เพราะนี้ได้อารมณ์ร่วมส่วนตัวเข้าไปช่วยเต็มที่เลย

คะแนน : 5/10

Text – hyde