เช็คขุมกำลัง “สิงโตคำราม” จริงหรือ ว่านี่คือ "ยุคทอง"? - The Macho
 
Roral Enfield - Hunter 350
728x150 - Nissan Almera
728x150 - Hunter4
เช็คขุมกำลัง “สิงโตคำราม” จริงหรือ ว่านี่คือ “ยุคทอง”?

ยังคงทำผลงานได้โดดเด่นต่อเนื่อง สำหรับ “สิงโตคำราม” ของ “แกเร็ธ เซาท์เกต” หลังจากจบอันดับ 4 ได้ในฟุตบอลโลก 2018 (อันดับดีที่สุด นับจากจบอันดับเดียวกันในปี 1990) ต่อด้วยการผ่านเป็น 4 ทีมสุดท้ายในเนชั่นส์ คัพ แถมยังออกสตาร์ทการคัดเลือกยูโร 2020 ได้ด้วยการชนะ 4 นัดรวด ยิง 5 ลูก 3 นัด และ 4 ลูก อีกนัดนึง

“แฮร์รี่ เคน” กัปตันทีม ซึ่ง 4 นัดในการคัดยูโร ซัดไปรวม 6 ประตู
(Source : The Independent)

นอกเหนือจากผู้เล่นตัวหลัก ที่ยังทำผลงานได้โดดเด่น ทั้งราฮีม สเตอร์ลิ่ง, แฮร์รี่ เคน, จอร์แดน พิกฟอร์ด หรือ แฮร์รี่ มาไกวร์ ยังมีดาวรุ่งดวงใหม่ขึ้นมาอีกหลายราย อย่าง เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาโนลด์, อารอน วาน-บิสซาก้า, ดีแคลน ไรซ์ หรือ เจดอน ซานโช

จึงเริ่มทำให้ ทั้งแฟนบอลของ “สิงโตคำราม” เอง และสื่อต่างๆ เริ่มหันมามองทัพอิงแลนด์ในปัจจุบัน ว่ามันอาจจะถึง “ยุคทอง” ของพวกเขา ที่จะมีลุ้นลึกๆ ในทัวร์นาเมนต์สำคัญ และมีนักเตะในแต่ละตำแหน่ง สืบทอดขึ้นมาเป็นเจนเนอร์เรชั่นอย่างต่อเนื่อง

“เจดอน ซานโช” ปีกดาวโรจน์ ที่แรงขึ้นมา และช่วยเพิ่มความน่ากลัวให้อังกฤษ
(Source : Metro)

พูดกันมาขนาดนี้ เราคงต้องมีวิเคราะห์กันแต่ละตำแหน่งซะหน่อย ว่ามันจะเป็น “ยุคทอง” แบบนั้นจิงมั้ย?

แผนการเล่น

แผนการเล่นของทีมชาติอังกฤษ ที่เซาธ์เกตใช้นั้น จะมีด้วยกันหลักๆ อยู่ 2 แผน ขึ้นอยู่กับการยืนของแผงหลัง ระหว่าง 4-2-3-1 หรือ 3-4-2-1 โดยในพักหลังๆ แผน 4-2-3-1 ดูจะถูกหยิบมาใช้งานมากกว่า เพราะตัวรุกที่พร้อมใช้งานมีมากขึ้นนั่นเอง

รูปแบบ 3-4-2-1 ที่เซาธ์เกตใช้ในฟุตบอลโลก แต่ตอนนี้เริ่มปรับมาเป็น 4-2-3-1 แล้ว
(Source : Gist Junction)

ดังนั้น เราจะขอโฟกัสไปที่แผน 4-2-3-1 ซึ่งน่าจะถูกหยิบมาใช้เป็นหลัก เพราะทำให้ “สิงโตคำราม” ยิงถล่มทลายต่อเนื่อง

ผู้รักษาประตู

ตัวเลือกชุดใหญ่ : จอร์แดน พิกฟอร์ด (เอฟเวอร์ตัน, 25 ปี), นิค โป๊บ (เบิร์นลี่ย์, 27 ปี), ทอม ฮีตัน (วิลล่า, 33 ปี), แจ็ค บัตแลนด์ (สโต๊ก, 26 ปี)

“จอร์แดน พิกฟอร์ด” ขึ้นมายึดมือ 1 และโชว์ฟอร์มได้ค่อนข้างสม่ำเสมอ
(Source : Sky News)

หลังฟอร์มที่ถดถอยของ “โจ ฮาร์ท” ทีมชาติอังกฤษพบปัญหา การควานหาผู้รักษาประตูอยู่พักนึง ก่อนที่สุดท้ายจะมาลงเอยที่ “จอร์แดน พิกฟอร์ด” ที่นอกจากอายุอานามจะไม่มาก ยังรักษาฟอร์มได้ค่อนข้างคงเส้นคงวา ทั้งในระดับสโมสร และทีมชาติ

จริงอยู่ว่าหลายครั้ง พิกฟอร์ดจะมีลูกเหวอให้เห็นอยู่บ้าง แต่ก็ต้องยอมรับว่าน้อยลงเรื่อยๆ ในซีซั่นหลัง ปฏิกิริยาต่างๆ และความเข้าใจกับแผงหลังก็ถือว่าดีกว่าตัวเลือกอื่น ซึ่งตอนนี้ น่าจะเป็นโป๊บ ที่ยังต้องพิสูจน์ความต่อเนื่อง และฮีตัน ที่อายุมากแล้ว

“ดีน เฮนเดอร์สัน” วัย 22 ปี หนึ่งในผู้รักษาประตูที่น่าสนใจ ในอนาคต
(Source : News & Star)

ดาวรุ่งรุ่นต่อไป : อารอน แรมส์เดล (บอร์นมัธ, 21 ปี), ดีน เฮนเดอร์สัน (เชฟฯ ยู ยืมจาก แมนฯ ยู, 22 ปี), แองกัส กันน์ (เซาธ์แธมป์ตัน, 23 ปี)

ความแข็งแกร่ง : 8.5/10
หากพิกฟอร์ดยังคงรักษามาตรฐานเอาไว้ ตำแหน่งนี้ยังไม่มีอะไรต้องห่วง “สิงโตคำราม” ยังคงใช้งานเขาได้ต่อไป โป๊บเองก็น่าจะยืนระยะได้อีกหลายปี มีเวลาให้ลองดูเด็กที่จะเติบโตขึ้นมา

แบ็คขวา

ตัวเลือกชุดใหญ่ : คีแรน ทริปเปียร์ (แอต.มาดริด, 28 ปี), เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาโนลด์ (ลิเวอร์พูล, 20 ปี), ไคลน์ วอร์คเกอร์ (แมนฯ ซิตี้, 29 ปี), อารอน วาน-บิสซาก้า (แมนฯ ยู, 21 ปี)

“เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาโนลด์” และ “อารอน วาน-บิสซาก้า” 2 แบ็คดาวรุ่ง ที่พร้อมก้าวขึ้นมา
(Source : Mirror)

การขึ้นมาของ 2 ดาวรุ่งอย่างเทรนท์ และวาน-บิสซาก้า ทำให้การแข่งขันในตำแหน่งนี้เข้มข้นขึ้นทันตา “คีแรน ทริปเปียร์” ยังคงรักษามาตรฐานการเล่นได้ดี แม้ซีซั่นที่แล้วจะเงียบๆ ไป และซีซั่นนี้ต้องจากบ้านเกิดไปเล่นในลา ลีก้า ซึ่งไม่ค่อยมีนักเตะอังกฤษไปเล่นมากนัก

การมีตัวเลือกตำแหน่งนี้ถึง 3 คน ทำให้ตัวจริงจากฟุตบอลโลก (ที่ส่วนใหญ่จะเล่นกองหลังตัวกลาง ในระบบหลัง 3) อย่าง “ไคลน์ วอร์คเกอร์” หลุดจากทีมไปในรอบล่าสุด ทั้งที่เขาโชว์ฟอร์มกับซิตี้ได้ยอดเยี่ยมไม่เปลี่ยนแปลง และอายุก็พึ่ง 29 ปี ซึ่งสามารถเล่นในระดับสูงได้อีกไม่ต่ำกว่า 3-4 ปี

“แม็กซ์ อารอนส์” แบ็คดาวรุ่งของนอริช ซึ่งน่าจับตามอง กับการเล่นพรีเมียร์ลีกซีซั่นแรก
(Source : Norwich City)

ดาวรุ่งรุ่นต่อไป : แม็กซ์ อารอนส์ (นอริช, 19 ปี), ไอนส์เลย์ เมดแลนด์-ไนลส์ (อาร์เซน่อล, 22 ปี), จอนโจ้ เคนนี่ (ชาลเก้ ยืมจาก เอฟเวอร์ตัน, 22 ปี)

ความแข็งแกร่ง : 9/10
ไม่มีอะไรต้องสงสัยในตำแหน่งนี้เลย เพราะคงนับนิ้วได้ หากจะหาชาติไหน ที่มีขุมกำลังแบ็คขวาอยู่ในระดับที่อังกฤษมี “สิงโตคำราม” ขาดอีกนิดหน่อย คือเรื่องของการเรียกศักยภาพของเหล่านักเตะแคนดิเดตตำแหน่งนี้ ให้โชว์ฟอร์มได้เหมือนระดับสโมสร ถ้าทำได้ ก็น่าจะทำให้พวกเขา มีนักเตะเหลือกินเหลือใช้ไปอีกหลายปี

แบ็คซ้าย

ตัวเลือกชุดใหญ่ : แดนนี่ โรส (สเปอร์, 29 ปี), เบน ชิเวลล์ (เลสเตอร์, 22 ปี), ลุค ชอว์ (แมนฯ ยู, 24 ปี)

“เบน ชิเวลล์” แบ็คเลสเตอร์ ซึ่งเริ่มติดทีมชาติอังกฤษสม่ำเสมอ
(Source : Sky Sports)

หลังจาก “แอชลี่ย์ ยัง” ที่โผล่ขึ้นมาเล่นตำแหน่งนี้ตอนบอลโลก โรยรา และน่าจะยึดตำแหน่งในระดับสโมสรได้ยากขึ้น ทีมชาติอังกฤษ คงต้องหานักเตะที่จะยึดตำแหน่งนี้อย่างสม่ำเสมอให้ได้ ตัวที่ใช้งานหลัก ก็คงเป็นโรส กับชิเวลล์ ซึ่งแม้ไม่โดดเด่น แต่ก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี่เหร่

นักเตะที่ยังโผล่เข้ามาในทีมชาติน้อยไปหน่อย ก็คือ “ลุค ชอว์” ที่ไม่ค่อยจะถูกโรคกับการติดทีมชาติเท่าไหร่ ทั้งเรื่องของการถูกมองข้าม และอาการบาดเจ็บที่รบกวนอยู่บ่อยครั้ง หากชอว์มีสภาพร่างกายดีขึ้น และรักษาฟอร์มในช่วงหลังได้ “สิงโตคำราม” น่าจะได้ประโยชน์เพิ่มเติมแน่นอน

“เจย์ ดาซิลวา” แบ็คซ้ายชุดเล็ก ที่มีหลายทีมในพรีเมียร์ลีก ติดตามฟอร์มอยู่
(Source : Bristol City FC)

ดาวรุ่งรุ่นต่อไป : เจย์ ดาซิลวา (บริสตอล ซิตี้, 21 ปี), ลอยด์ เคลลี่ (บอร์นมัธ, 20 ปี)

ความแข็งแกร่ง : 7.5/10
จะว่าไป นักเตะเท้าซ้ายก็เป็นปัญหาที่ทีมชาติอังกฤษต้องปวดหัวมายาวนาน แบ็กซ้ายในยุคปัจจุบัน แม้จะดูว่ามีตัวเลือกหลายตัว แต่ยังขาดๆ เกินๆ ไม่มีใครพีคสุดเท่าไหร่ ชิเวลล์น่าจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในระยะยาว เช่นเดียวกับชอว์ ที่ต้องดูสภาพร่างกาย ส่วนดาวรุ่ง อาจจะแอบเหล่ เซสเซยงของสเปอร์อีกตัว เพราะพอจะถอยลงมาเล่นได้ ขึ้นอยู่กับว่าเขาจะโชว์ฟอร์มกับสเปอร์ได้ดีแค่ไหน

เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ

ตัวเลือกชุดใหญ่ : แฮร์รี่ มาไกวร์​ (แมนฯ ยู, 26 ปี), จอห์น สโตนส์ (แมนฯ ซิตี้, 25 ปี), ไมเคิล คีน (เอฟเวอร์ตัน, 26 ปี), โจ โกเมซ (ลิเวอร์พูล, 22 ปี), เจมส์ ทาร์คอฟสกี้ (เบิร์นลี่ย์, 26 ปี), ไทโรน มิงส์ (วิลล่า, 26 ปี)

“แฮร์รี่ มาไกวร์” กองหลังค่าตัวสถิติ ซึ่งจะเป็นแกนหลักในทีมชาติไปอีกหลายปี
(Source : The Sun)

สังเกตว่าตัวเลือกในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟของ “สิงโตคำราม” จะมีอายุไล่เลี่ยกันหมดเลย ยกเว้น “โจ โกเมซ” ที่อายุน้อยลงหน่อย แต่ปัญหาสำคัญของโกเมซ คือเรื่องอาการบาดเจ็บที่มาเยี่ยมเยียนบ่อยไปหน่อย และยังคงมีปัญหาในการแย่งตำแหน่งในระดับสโมสร แม้จะเป็นตัวเลือกโปรดของเซาธ์เกต ก็ตาม

ตัวหลักที่น่าจะเป็นตัวยืน หนีไม่พ้น “แฮร์รี่ มาไกวร์” ที่โดยรวมเล่นได้แข็งแกร่ง เพียงแต่เขายังต้องการคู่หูที่ช่วยปะทะ ช่วยไล่อัดคู่แข่งได้ก่อน ซึ่งสโตนส์ กับคีน ยังทำได้แค่ระดับโอเคเท่านั้น ส่วนตัวเลือกอื่น ก็น่าจะเป็นกำลังเสริมมากกว่า ยกเว้นฟอร์มจะเด่นขึ้นมากว่าที่เป็นอยู่

“โจนาธาน ปานโซ่” อดีตเด็กปั้นเชลซี ที่ถูกจับตามอง โดยปัจจุบันย้ายไปอยู่กับโมนาโก
(Source : Bleacher Report)

ดาวรุ่งรุ่นต่อไป : เบน กอดฟรีย์ (นอริช, 21 ปี), โจนาธาน ปานโซ่ (เซอร์เคิล บรูจจ์ ยืมจาก โมนาโก, 19 ปี), ฟิกาโย่ โทโมริ (เชลซี, 21 ปี), เจค คาลร์ก-ซัลเตอร์ (วิเทสส์ ยืมจาก เชลซี, 21 ปี)

ความแข็งแกร่ง : 8/10
แผงหลังตัวกลางเหมือนตัวเลือกเยอะ แต่ยังไม่ถึงกับโดดเด่นเหนียวแน่นมากเท่าที่ควร หลายฝ่ายยังตั้งคำถามถึงการเล่นเซ็ตบอลขึ้นมาจากแดนหลังของ “สิงโตคำราม” ที่พลาดบ่อย รวมถึงเรื่องการสอดประสานของมาไกวร์ กับเซ็นเตอร์อีกตัวที่เล่นด้วย เซาธ์เกตต้องยกระดับตรงนี้ หรือปรับแผนให้แดนกลางลงมาช่วยได้รวดเร็วมากขึ้น

กองกลางตัวรับ

ตัวเลือกชุดใหญ่ : ดีแคลน ไรซ์ (เวสต์แฮม, 20 ปี), แฮร์รี่ วิงส์ (สเปอร์, 23 ปี), เอริค ดายเยอร์ (สเปอร์, 25 ปี), ฟาเบียน เดลป์ (เอฟเวอร์ตัน, 29 ปี)

“ดีแคลน ไรซ์” กองกลางดาวรุ่งที่โดดเด่น และถูกเลือกเป็นตัวหลักในทีมชาติระยะหลัง
(Source : Diaro AS)

ขอแยกกองกลาง 2 ตัวตรงกลาง ออกเป็น “ตัวรับ” กับ “ตัวกลาง” ละกัน โดยตอนนี้คนที่เล่นตัวรับเป็นหลัก น่าจะเป็น “ดีแคลน ไรซ์” กลางวัยแค่ 20 ปี ที่ฟอร์มดีวันดีคืน ตัวสแตนด์บายอย่างวิงส์ ก็อายุน้อย เพียงแต่เจ็บบ่อยไปหน่อย ส่วนดายเออร์กับเดลป์ ที่ยังต้องต่อสู้แย่งตำแหน่งในสโมสรให้ได้ก่อน คงเป็นทางเลือกหากมีใครเจ็บ

นอกเหนือจากนั้น หากจำเป็น “จอร์แดน เฮนเดอร์สัน” อาจถูกดึงถอยมาเล่นได้ แม้กับลิเวอร์พูล เขาจะไม่ถูกใช้ในตำแหน่ง “หมายเลข 6” แล้วก็ตาม

“มอร์แกน กิบส์-ไวท์” กองกลางดาวรุ่งพละกำลังสูงของวูล์ฟ ที่น่าจับตามอง
(Source : Wolves)

ดาวรุ่งรุ่นต่อไป : เทรวอห์ ชาโลบาห์ (ฮัดเดอร์ฟิลด์ ยืมจาก เชลซี, 20 ปี), ทอม เดวี่ส์ (เอฟเวอร์ตัน, 21 ปี), มอร์แกน กิบส์-ไวท์ (วูล์ฟ, 19 ปี), โอลิเวอร์ สคิปป์ (สเปอร์, 18 ปี), ฮัมซ่า ชูห์ดฮูรี่ (เลสเตอร์, 21 ปี)

ความแข็งแกร่ง : 8.5/10
ขึ้นอยู่กับฟอร์มของไรซ์ และวิงส์ ถ้า 2 คนนี้สามารถรักษามาตรฐานการเล่น โดยเฉพาะกองกลางจากเวสต์แฮม ที่ยึดตัวจริงในทีมชาติได้แล้ว “สิงโตคำราม” จะไม่มีปัญหาตรงตำแหน่งนี้ ไปอีกนานหลายปี และจะยอดเยี่ยมยิ่งขึ้น หากตัวที่เล่นคู่กัน ใช้ประสบการณ์มาเสริม คอยซ้อน คอยซัพพอร์ตกัน โดยตอนนี้เป็นเฮนเดอร์สัน ซึ่งทำหน้าที่ได้โอเคอยู่

กองกลางตัวกลาง

ตัวเลือกชุดใหญ่ : จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (ลิเวอร์พูล, 29 ปี), เมสัน เมาท์ (เชลซี, 20 ปี), อเล็กซ์ อ๊อกซ์เหลด-แชมเบอร์เลน (ลิเวอร์พูล, 26 ปี), เจมส์ วอร์ด-พราวส์ (เซาธ์แธมป์ตัน, 24 ปี), เดเล่ อัลลี่ (สเปอร์, 23 ปี)

“จอร์แดน เฮนเดอร์สัน” รับบท “หมายเลข 8” มากขึ้น และคอยช่วยแดนกลางได้ดี
(Source : Sky Sports)

จริงๆ ตัวเลือกในตำแหน่งนี้จะไม่มีปัญหาเลย หากแชมเบอร์เลน และอัลลี่ ไม่ได้รับบาดเจ็บบ่อยครั้งเกินไป เพราะทั้งคู่เป็นนักเตะที่ยืดหยุ่น และสามารถขึ้น-ลงช่วยทีมได้ดี เมาท์ก็พึ่งแรงขึ้นมา ต้องดูพัฒนาการกันต่อไป ตัวหลักตอนนี้เลยเป็น “จอร์แดน เฮนเดอร์สัน”

วอร์ด-พราวส์ เป็นอีกตัวที่น่าสนใจ เพียงแต่เขายังต้องรักษามาตรฐานให้ดีกว่านี้ หรืออาจจะต้องหาทางย้ายมายังทีมที่องค์ประกอบช่วยผลักดันเขากว่านี้

“ฟิล โฟเด้น” มิดฟิลด์พรสวรรค์ของซิตี้ ที่ถูกคาดหวัง ว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญ
(Source : Manchester Evening News)

ดาวรุ่งรุ่นต่อไป : ฟิล โฟเด้น (แมนฯ ซิตี้, 19 ปี), เอมิล สมิธ-โรว์ (ไลป์ซิก ยืมจาก อาร์เซน่อล, 18 ปี), โจ วิลล็อค (อาร์เซน่อล, 20 ปี)

ความแข็งแกร่ง : 8/10
เฮนเดอร์สัน เล่นในทีมชาติได้ดีตามมาตรฐานของเขา อาจจะไม่ถึงกับวูบวาบแบบเล่นในสโมสร แต่ก็เป็นตัวประสบการณ์ที่สอดประสานกับตัวรับได้ดี อย่างไรก็ตาม หาก “สิงโตคำราม” จะก้าวขึ้นไปเป็นทีมชั้นนำ หรือเล่นในเกมที่บีบๆ ได้ดีขึ้น ตัวที่พลิกแพลงได้มากกว่าอย่างแชมเบอร์เลน, อัลลี่ หรือเมาท์ ต้องยกระดับขึ้นมาให้ได้

กองกลางตัวรุก / เพลย์เมกเกอร์

ตัวเลือกชุดใหญ่ : รอสส์ บาร์คลี่ย์ (เชลซี, 25 ปี), เจมส์ แมดดิสัน (เลสเตอร์, 22 ปี), เจสซี่ ลินการ์ด (แมนฯ ยู, 26 ปี), รูเบน ลอฟตัส-ชีค (เชลซี,​ 23 ปี)

“เจมส์ แมดดิสัน” กองกลางดาวรุ่ง ที่โดดเด่นขึ้นมาในช่วงขวบปีหลังกับเลสเตอร์
(Source : Twitter)

ตัวหลักที่เซาธ์เกตใช้ในช่วงหลัง จะเป็น “รอสส์ บาร์คลี่ย์” หลังผลงานในช่วงคัดยูโร ถือว่าโดดเด่น มีส่วนร่วมกับประตูเยอะ อย่างไรก็ดีปัญหาของบาร์คลี่ย์ คือเรื่องของความสม่ำเสมอ ซึ่งทำให้เขาเข้าๆ ออกๆ ในทีมตัวจริงเชลซี ทั้งที่โดยฝีเท้า เขาถือว่าเป็นมิดฟิลด์พรสวรรค์คนนึง

ความคาดหวังอีกตัวเลือก คงเป็นแมดดิสัน ที่ยกระดับตัวเองกับเลสเตอร์ได้โดดเด่น ยิ่งในช่วงที่ลินการ์ด ยังไม่สามารถเรียกฟอร์มเก่งกลับมาได้ ส่วนทางเลือกอย่างลอฟตัส-ชีค ก็เจ็บออดๆ แอดๆ ไม่เลิก

“ท็อดด์ แคนท์เวลล์” ดาวรุ่งจอมพริ้วของนอริช ที่เริ่มถูกพูดถึงมากขึ้นเรื่อยๆ
(Source : Norwich City)

ดาวรุ่งรุ่นต่อไป : ทอดด์ แคนท์เวลล์ (นอริช, 21 ปี), คีแรน โดเวลล์ (ดาร์บี้ ยืมจาก เอฟเวอร์ตัน, 21 ปี), ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ (เลสเตอร์, 21 ปี)

ความแข็งแกร่ง : 7/10
ด้วยรูปแบบที่เซาธ์เกตใช้ ทำให้อังกฤษยังต้องพึ่งความสร้างสรรค์ในตำแหน่งตรงนี้มากเป็นพิเศษ แม้บาร์คลี่ย์ จะทำผลงานโดยรวมได้ดี แต่เขาน่าจะต้องคาดหวังฟอร์มที่โดดเด่นจากคนอื่น ให้มากกว่านี้อีก หรือไม่ก็ต้องมีการปรับฟอร์เมชั่น 3 ตัวกลางไปเป็นแบบอื่น ที่จะใช้พวกอัลลี่, แชมเบอร์เลน, เมาท์ หมุนเวียนขึ้นมาเล่นแบบ box-to-box ได้มากขึ้น

ตัวรุกด้านข้าง

ตัวเลือกชุดใหญ่ : ราฮีม สเตอร์ลิ่ง (แมนฯ ซิตี้, 24 ปี), เจดอน ซานโช (ดอร์ทมุนด์, 19 ปี), คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย (เชลซี, 18 ปี), นาธาน เร้ดมอนด์ (เซาธ์แธมป์ตัน, 25 ปี), มาร์คัส แรชฟอร์ด (แมนฯ ยู, 21 ปี)

“เจดอน ซานโช” และ “ราฮีม สเตอร์ลิ่ง” ทำให้ด้านข้างของอังกฤษ น่าอิจฉามาก
(Source : Sky Sports)

เนื่องจากกองหน้าตัวเป้า เป็นที่ประจำของ “แฮร์รี่ เคน”​ อยู่แล้ว “มาร์คัส แรชฟอร์ด” จึงถูกถ่างออกมาเล่นด้านข้างบ่อยครั้ง และสลับเป็นตัวจริงกับ “เจดอน ซานโช” ปีกดาวโรจน์ ที่พุ่งแรงขึ้นมา และเป็นประโยชน์อย่างมากกับ “สิงโตคำราม” ส่วนอีกตำแหน่ง “ราฮีม สเตอร์ลิ่ง” จองยาวๆ อยู่แล้ว

นอกจากนั้น ถ้าไม่บาดเจ็บยาวไป ฮัดสัน-โอดอย ที่อายุแค่ 18 ปี ถือเป็นแนวรุกริมเส้น ที่เซาธ์เกตดูจะชื่นชอบมากเป็นพิเศษ คาดว่าเมื่อเขากลับมา เขาจะถูกเลือกติดทีมอย่างต่อเนื่องแน่นอน

“เอ๊ดดี้ เอ็นเคเทียร์” และ “ไรส์ เนลสัน” 2 ดาวรุ่งอาร์เซน่อล ซึ่งน่าจะพัฒนาตัวเองได้อีกเยอะ
(Source : Football.London)

ดาวรุ่งรุ่นต่อไป : เอ๊ดดี้ เอ็นเคเทียร์ (ลีดส์ ยืมจาก อาร์เซน่อล, 20 ปี), ไรส์ เนลสัน (อาร์เซน่อล, 19 ปี), เมสัน กรีนวู้ด (แมนฯ ยู, 17 ปี), ดไวท์ แม็คเนลล์ (เบิร์นลี่ย์, 19 ปี), แกรี่ ดิยานกาน่า (WBA ยืมจาก เวสต์แฮม, 21 ปี), อเดโมล่า ลุกแมน (ไลป์ซิก, 21 ปี), ไรอัน เซสเซยง (สเปอร์, 19 ปี)

ความแข็งแกร่ง : 9.5/10
เป็นอีกตำแหน่ง ที่ “สิงโตคำราม” แข็งแกร่ง และเป็นที่อิจฉาของหลายทีม โดยเฉพาะการเติบโตขึ้นมาแบบมาแรงแซงโค้งของซานโช ยังไม่รวมกับพวกปีกดาวรุ่งทั้ง ฮัดสัน-โอดอย ที่ขึ้นทีมชุดใหญ่แล้ว และนักเตะในลิสต์ที่ไล่มา ถือว่าอนาคตของอังกฤษค่อนข้างสดใส หากคลิกกับแบ็คทั้ง 2 ข้างเมื่อไหร่ เกมรุกจะมีพลังทำลายล้างสูงมาก

กองหน้าตัวเป้า

ตัวเลือกชุดใหญ่ : แฮร์รี่ เคน (สเปอร์, 26 ปี), คัลลั่ม วิลสัน (บอร์นมัธ, 27 ปี), เจมี่ วาร์ดี้ (เลสเตอร์, 32 ปี)

“แฮร์รี่ เคน” ตัวหลักในแดนหน้า ซึ่งทีมชาติอังกฤษไม่อาจขาดได้
(Source : Sky Sports)

แม้จะดูตัวเลือกไม่มากเท่าไหร่ แต่ถ้าหาก “แฮร์รี่ เคน”​ กัปตันทีมไม่บาดเจ็บไปซะก่อน เขาคือตัวหลักของทีมแบบแบเบอร์นอนมา และมีตัวสแตนด์บาย ที่พอเล่นทดแทนเขาได้อย่างวิลสัน หรือการหุบแรชฟอร์ด หรือ สเตอร์ลิ่ง เข้ามาเล่น ก็เป็นอีกทางเลือกที่เป็นไปได้

เคนเองพึ่งอายุแค่ 26 ปี และมีความกระหายเต็มเปี่ยม ยิ่งกับช่วงหลังที่เกมรุกด้านข้างช่วยดึงแนวรับไปได้มากขึ้น เขาก็หาพื้นที่ และจบสกอร์ได้มากขึ้นตามไปด้วย ที่จะต้องปรับอีกหน่อย ก็คงเป็นการเล่นในแมทช์ที่โดนประกบติด ซึ่งบางทีจะทำให้เขาหายเงียบไปจากเกมมากเกินไปนิด

“แทมมี่ อับราฮัม” หน้าเป้าเชลซี ซึ่งมีข่าวว่าทีมชาติไนจีเรีย ก็เล็งอยู่ หากอังกฤษเมินใช้
(Source : We Ain’t Got No History)

ดาวรุ่งรุ่นต่อไป : แทมมี่ อับราฮัม (เชลซี, 21 ปี), เรียน บริวสเตอร์ (ลิเวอร์พูล, 19 ปี), โดมินิค คัลเวิร์ท-เลวิน (เอฟเวอร์ตัน, 22 ปี), โดมินิค โซลันเค่ (บอร์นมัธ, 21 ปี)

ความแข็งแกร่ง : 8.5/10
เคนยังคงไว้ใจได้ ในการเป็นตัวเป้าเก็บบอล และคอยหาจังหวะจบสกอร์สำคัญๆ อย่างไรก็ดี เขายังต้องยกระดับในการเล่นกับทีมใหญ่ โดยเฉพาะในแมทช์ที่กดดัน และมีพื้นที่ให้เล่นไม่มาก ฝั่งเซาธ์เกตเอง ก็ต้องหากลยุทธ์ในการเข้าทำ ซึ่งนอกจากจะได้ความหลากหลายน่ากลัว ยังช่วยแบ่งเบาภาระ ในวันที่เคนไม่มีโอกาสมาก ไปในตัว

กุนซือ : แกเร็ธ เซาท์เกต

ปิดท้ายกันด้วยตัวกุนซือเอง ซึ่งแม้จะเข้ามาแบบ “ขัดตาทัพ” แต่ก็แสดงให้เห็นว่าเขาทำผลงานได้ยอดเยี่ยม จนกลายเป็นตัวเลือกในระยะยาว โดยอดีตกองหลังทีมชาติอังกฤษรายนี้ ควรได้รับเครดิต ในนักเตะที่เขาเลือกใช้ แม้จะเคยมีกระแสยี้ เมื่อเห็นการประกาศรายชื่อแต่ละครั้งของเขาก็ตาม

“แกเร็ธ เซาท์เกต” พิสูจน์ฝีมือว่าเขาไม่ใช่แค่ขัดตาทัพ และสามารถประสบความสำเร็จได้
(Source : Harper’s Bazaar)

สิ่งที่เซาธ์เกตขาด อาจจะเป็นเรื่องของบารมี และความน่าเชื่อถือที่ทำให้คนภายนอก ไม่ค่อยเชื่อใจ และอยากฝากความหวังไว้กับเขา แต่กับภายในทีมเอง เซาธ์เกตคลุกคลีกับนักเตะหลายคนมาตั้งแต่เยาวชน และมีความมั่นใจที่จะเลือกใช้นักเตะดาวรุ่ง ซึ่งจนถึงตอนนี้ มันก็พิสูจน์ได้ว่า เขาคิดถูก

จุดที่ต้องปรับสำหรับเขา คือต้องมองหาขุมกำลังทดแทนให้กับทีมเพิ่มมากขึ้น และปรับเปลี่ยนการแก้เกมที่หลากหลายมากกว่านี้ โดยเฉพาะในแมทช์ใหญ่ๆ ที่ต่อสู้กันแบบสูสี หากเขายกระดับตรงนี้ได้ คำถาม และข้อสงสัยในฝีมือของเขา คงจะหมดไปเสียที

ประเมินกุนซือ : 8.5/10

Picture : Sky Sports, The National, This Is Anfield, Goal.com, The Independent, Metro, Gist Junction, Sky News, News & Star, Mirror, Norwich City, Bristol City FC, The Sun, Bleacher Report, Diaro AS, Wolves, Manchester Evening News, Twitter, Football.London, We Ain’t Got No History, Harper’s Bazaar

rocketseer

ทำงาน Sports content | บ้าบอล-เป็น The KOP | (เคย)บ้าดูหนัง-(เคย)ทำเพจหนัง | อยู่บ้านนาน ก็ชักเป็นบ้า!

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save