นักเตะผู้กล้าย้ายไปร่วมทีมคู่อริ - The Macho
 
Roral Enfield - Hunter 350
728x150 - Nissan Almera
728x150 - Hunter4
นักเตะผู้กล้าย้ายไปร่วมทีมคู่อริ

 แฟนฟุตบอลทุกคนต้องทำใจยอมรับในทุกฤดูกาลว่า นักเตะในทีมรักจะต้องย้ายสโมสร ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตามก็ตาม แต่การที่ผู้เล่นคนหนึ่งจะย้ายไปยังทีมที่เป็นคู่อริของต้นสังกัดเก่านั้น เป็นสิ่งที่มันเกิดขึ้นได้ยากในวงการฟุตบอล

แต่การย้ายไปยังทีมคู่รักคู่แค้นแบบไม่มีใครคาดคิด ก็ยังคงมีอยู่หลายครั้ง และเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้อยู่เป็นประจำ ซึ่งมันเป็นฉนวนนำไปสู่การสร้างความเกลียดชังที่รุนแรงในสนาม และแข้งบางรายโดนแฟนบอลสาปส่ง รวมถึงตราหน้าว่า เป็นคนทรยศ

นี่คือนักเตะใจกล้า และบ้าบิ่นสุดๆ กับการเลือกย้ายจากต้นสังกัดเดิมไปยังทีมศัตรูตลอดกาล เชื่อได้ว่า แฟนลูกหนังหลายคนคงจำวีรกรรมสุดแสบของพวกเขาได้อย่างแน่นอน

7. เอ็มมานูเอ็ล อเดบายอร์ (อาร์เซนอล ไปยัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ปี 2009)

อเดบายอร์ เคยทำประตูได้อย่างสม่ำเสมอให้กับ อาร์เซนอล และเคยซัดไปถึง 30 ลูก ในฤดุกาล 2007/08 อย่างไรก็ตาม ในฤดูกาลถัดมา เขาถูกปัญหาการบาดเจ็บตามรบกวน และมีปากเสียงกับ อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือ “ไอ้ปืนใหญ่” จึงถูกขายให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คู่แข่งร่วมลีก ในราคา 25 ล้านปอนด์

หัวหอกทีมชาติโตโก เคยให้สัมภาษณ์ในปี 2018 ว่า “ผมได้พบกับ อาร์แซน เวนเกอร์ ในห้องทำงานของเขา และเขาบอกผมว่า ผมต้องย้ายออกไป เพราะเขาไม่เห็นอนาคตของผมที่ อาร์เซนอล แล้ว ต่อมาเมื่อผมย้ายไปร่วมทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เขาทำการแถลงข่าวในลอนดอน โดยบอกว่า ผมต้องการออกจากสโมสรเพราะต้องการเงิน ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา แฟน อาร์เซนอล จึงไม่ชอบผม”

คำพูดของ เวนเกอร์ เป็นผลให้ อเดบายอร์ เกิดความเกลียดชัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งช็อตสำคัญในเกมที่ต้องเผชิญหน้ากับ อาร์เซนอล เป็นครั้งแรก เขาทำประตูได้ในสีเสื้อ “เรือใบสีฟ้า” จากนั้น วิ่งจากหน้าประตูอีกฝั่งไปยังอีกฝั่งเพื่อดีใจต่อหน้าแฟนบอล “เดอะ กันเนอร์ส”

6. โซล แคมป์เบล (ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ไปยัง อาร์เซนอล ปี 2001)

แฟนบอลของ สเปอร์ส ยังคงขมขื่นเกี่ยวกับสิ่งที่ แคมป์เบล เคยทำในอดีตโดยการย้ายไปยัง อาร์เซนอล คู่อริร่วมลอนดอนเหนือ แบบไม่มีค่าตัวในปี 2001

อดีตปราการหลังทีมชาติอังกฤษ เป็นเด็กปั้นลูกหม้อของ สเปอร์ส และลงสนามให้กับทัพ “ไก่เดือยทอง” ไปมากกว่า 300 เกม ในช่วงเวลา 9 ปี ในถิ่นไวท์ ฮาร์ท เลน

แคมป์เบล เคยให้สัมภาษณ์ว่า เขาตัดสินใจย้ายไปยัง อาร์เซนอล เพื่อเพิ่มโอกาสในการติดทีมชาติอังกฤษ และทุกวันนี้ เขาก็ยังถูกแฟนบอล สเปอร์ส มองว่า เป็นคนทรยศตลอดกาลของสโมสร

5. หลุยส์ ฟิโก้ (บาร์เซโลน่า ไปยัง เรอัล มาดริด ในปี 2000)

หนึ่งในการย้ายสโมสรที่ขัดแย้งกันมากที่สุดในประวัติศาสตร์วงการฟุตบอล ฟิโก้ ตัดสินใจทำสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดด้วยการย้ายจาก บาร์เซโลน่า ไปยัง “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด ด้วยค่าตัวมหาศาลถึง 37 ล้านปอนด์ ในปี 2000

อดีตปีกทีมชาติโปรตุเกส ถือเป็นจุดเริ่มต้นยุค “กาลาคติกอส” ของ มาดริด อย่างแท้จริง เขาเปรียบเสมือนคนปูทางให้ ซีเนอดีน ซีดาน จอมทัพทีมชาติฝรั่งเศส และ โรนัลโด้ ยอดดาวยิงทีมชาติบราซิล ย้ายตามมายังถิ่นซานติอาโก เบอร์นาบิว

การกลับมาสู่ถิ่นคัมป์ นู นั้น มีความสำคัญที่แฟนบอล บาร์เซโลน่า จะแสดงให้เห็นว่า ฟิโก้ ไม่เป็นที่ต้อนรับอีกต่อไป ไฮไลต์สำคัญคือ สาวก “เจ้าบุญทุ่ม” บนอัฒจันทร์โยนหัวหมูใส่เขาในขณะที่เดินมาบริเวณมุมธง

บทสัมภาษณ์ที่ยิ่งใหญ่ของ ฟิโก้ กล่าวว่า “บาร์เซโลน่า ไม่ได้ปฏิบัติต่อผมอย่างเหมาะสม มันสายเกินไปแล้วเมื่อพวกเขาทำ ดังนั้น ผมจึงย้ายไปร่วมทีม เรอัล มาดริด”

4. แอชลี่ย์ โคล (อาร์เซนอล ไปยัง เชลซี ปี 2006)

บางทีอาจเป็น โคล อาจได้รับการยกย่องว่า เป็นแบ็กซ้ายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคพรีเมียร์ลีก แต่อดีตกองหลังทีมชาติอังกฤษ มีส่วนเกี่ยวข้องกับหนึ่งในการย้ายทีมที่วุ่นวายที่สุด หลังจากมีข่าวหลุดออกมาว่า โจเซ่ มูรินโญ่ โค้ชชาวโปรตุเกส พยายามเกลี้ยกล่อมเขาให้ย้ายไปเล่นกับ เชลซี ในปี 2005

อย่างไรก็ตาม ในที่สุด โคล ก็ได้มาร่วมงานกับ มูรินโญ่ สมใจในปี 2006 หลังปฏิเสธสัญญาฉบับใหม่จาก อาร์เซนอล ซึ่งทำให้ เชลซี สบโอกาสในการยื่นเงินสดบวกกับ วิลเลี่ยม กัลลาส กองหลังชาวฝรั่งเศส ไปให้กับทาง “ไอ้ปืนใหญ่”

ตลอดเวลา 8 ปี ในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ โคล ประสบความสำเร็จกับ เชลซี อย่างมากมาย ด้วยการคว้าแชมป์ได้ถึง 8 รายการ และลงสนามไปมากถึง 229 เกม

3. วิลเลี่ยม กัลลาส (เชลซี ไปยัง อาร์เซนอล ปี 2006)

การย้ายสังกัดของ อดีตปราการหลังทีมชาติฝรั่งเศส จาก เชลซี ไปยัง อาร์เซนอล เพื่อเป็นหนึ่งในดีลของ แอชลี่ย์ โคล แบ็กซ้ายทีมชาติอังกฤษ นั้น เป็นการทำธุรกิจที่วุ่นวาย และยืดเยื้อที่สุดในวงการลูกหนังเมืองผู้ดีเลยก็ว่าได้

เชลซี ออกแถลงการณ์ โจมตี กัลลาส หลังจากที่เขาปฏิเสธที่จะลงเล่นให้สโมสรเนื่องจากมีปัญหาเรื่องสัญญา โดยดาวเตะเฟรนช์แมนขู่ว่าจะยิงประตูทีมตัวเองหากถูกบังคับให้ลงสนาม

ในที่สุด เชลซี ต้องปล่อยเขาออกจากทีมทันที โดยไม่สนว่า สโมสรใดจะมาขอซื้อตัว ถึงแม้หนึ่งในนั้นเป็น อาร์เซนอล คู่อริร่วมกรุงลอนดอน ก็ตาม

2. คาร์ลอส เตเบซ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปยัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปี 2009)

กองหน้าชาวอาร์เจนตินา แสดงความดื้อรั้นจนเขาสามารถย้ายมาค้าแข้งในเกาะอังกฤษได้ในที่สุด หลังย้ายจาก โครินเธียนส์ ในลีกบราซิล ด้วยความวุ่นวาย มาร่วมทีม เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในปี 2006 และในซีซั่นต่อมา เตเบซ ย้ายมาล่าตาข่ายให้กับ แมนฯยูไนเต็ด

หลังจากที่กระหน่ำไป 34 ประตู ใน 2 ฤดูกาลที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด เตเบซ ปฏิเสธที่จะเซ็นสัญญาฉบับใหม่กับ แมนฯยูไนเต็ด ส่งผลให้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อดีตตำนานกุนซือของ “ปีศาจแดง” ไม่พอใจอย่างหนัก

ในปี 2009 เตเบซ ย้ายข้ามฝากมาเล่นให้กับ แมนฯซิตี้ คู่อรู่ตลอดกาลของ แมนฯยูไนเต็ด และพาพลพรรค “เรือใบสีฟ้า” ประสบความสำเร็จมากมาย ก่อนจะสร้างวีรกรรมด้วยการชูป้าย “Rip Fergie” ระหว่างแห่ขบวนฉลองแชมป์กับทีมใหม่

1. โยฮัน ครัฟฟ์ (อาแจกซ์ อัมสเตอร์ดัม ไปยัง เฟเยนูร์ด ปี 1983)

อัจฉริยะชาวดัตช์ มีความสัมพันธ์ที่ดีที่สุดกับ อาแจ็กซ์ เพราะเป็นสโมสรแห่งแรกในฐานะนักฟุตบอลของเขา แต่ ครัฟฟ์ ก็มีความสุขอย่างน่าจดจำกับคู่ปรับตัวฉกาจอย่าง เฟเยนูร์ด ซึ่งเป็นทีมสุดท้ายในเส้นทางนักฟุตบอลอาชีพ เช่นกัน

ในปี 1983 กองหน้าเจ้าของฉายา “นักเตะเทวดา” อยู่ในช่วงปลายอาชีพ หลังกลับมาค้าแข้งกับ อาแจ็กซ์ เป็นครั้งที่ 2 และกำลังจะหมดสัญญาพอดี ซึ่งในท้ายที่สุด ครัฟฟ์ เลือกจะย้ายไปแขวนสตั๊ดกับ เฟเยนูร์ด พร้อมคว้าแชมป์ลีกส่งท้ายได้อีกด้วย

ภาพประกอบ : planetfootball.com, standard.co.uk, en.as.com, footballfancast.com, football365.com, edition.cnn.com, thesefootballtimes.co

Che Navapun

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save